5 Smartwatch ไม่ต้องพกมือถือ ปี 2023
23 ม.ค. 2566
จะสะดวกสบายแค่ไหนหากเราสามารถใช้งาน Smartwatch ไม่ต้องพกมือถือ? เป็นอีกหนึ่งความสะดวกสบายที่เชื่อว่าหลาย ๆ คนกำลังมองหาอย่างแน่นอน เพราะปัจจุบันการใช้ชีวิตของทุกคนนั้นอาจมีมือถือเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญในชีวิตไปแล้ว ทั้ง ๆ ที่บางครั้งเราเอาไว้ใช้แค่รับสายเข้าและโทรออกเท่านั้น จะดีแค่ไหนหากคุณสามารถพกเพียง Smartwatch ติดข้อมือเรือนเดียวแล้วสามารถโทรเข้า-ออก ตอบข้อความได้แบบเรียลไทม์ บอกเลยว่าจะสะดวกสบายจนคุณประทับใจอย่างแน่นอน เพราะหากคุณมีสายเรียกเข้านั้นสามารถรับจากสมาร์ทวอทช์บนข้อมือได้เลย อีกทั้งยังสามารถควบคุมแอปพลิเคชันการฟังเพลงขณะออกกำลังกายได้ตลอดเวลาอีกด้วย เพียงใส่ eSIM ก็สามารถใช้งานได้ทันที (อ่านบทความ 5 ข้อดีของ eSIM สำหรับการใช้งาน Smartwatch ไม่ต้องพกมือถือ ได้ ที่นี่) เริ่มสนใจ Smartwatch ไม่ต้องพกมือถือเข้าให้แล้วใช่ไหมล่ะ ไปดูกันเลยว่ามีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง
5 Smartwatch ไม่ต้องพกมือถือ ในบทความนี้
- Ticwatch Pro 4G LTE Cellular
- Samsung Galaxy Watch 3
- Huawei Watch 3 Pro Classic
- OPPO Watch (LTE)
- Apple Watch 7 GPS + Cellular
1. Ticwatch Pro 4G LTE Cellular
สเปคเด่น
ขนาดตัวเรือน : 45 mm.
หน้าจอ : AMOLED Fiber Glass 400 x 400 พิกเซล
ระดับการกันน้ำ : IP68
การเชื่อมต่อ : Bluetooth
หากคุณเป็นแฟนคลับนาฬิกาสมาร์ทวอทช์อยู่แล้ว เชื่อว่าอาจเคยได้ยินชื่อแบรนด์ Ticwatch กันมาบ้าง เพราะแบรนด์นี้นั้นเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ Mobvoi ผู้ที่พัฒนาระบบ AI ของตัวเองขึ้นมาจนสามารถพัฒนามาใส่ในอุปกรณ์สมาร์ทวอทช์ได้อย่างอัจฉริยะ ความพิเศษของเจ้า Smartwatch ไม่ต้องพกมือถือเรือนนี้นั้นต้องยกให้ขนาดหน้าปัดที่ใหญ่ถึง 45 มม. ทำให้คุณสามารถอ่านค่าต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน เมื่อใส่ซิมการ์ดแล้วสามารถรับสายเข้า-โทรออก และเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ในตัว ระบบปฏิบัติการเป็นของ Google WearOS ใช้งานง่าย อีกทั้งคุณยังสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันหรือฟีเจอร์อื่น ๆ เพิ่มเติมได้ตามต้องการ ใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องสูงสุดถึง 5-30 วัน ขึ้นอยู่กับฟีเจอร์ที่คุณใช้งาน แต่หากคุณชอบความเรียบหรูดูแพงล่ะก็ Smartwatch ไม่ต้องพกมือถือเรือนนี้ตอบโจทย์เป็นที่สุด
ข้อดี
- ใช้วัสดุทนทาน ดีไซน์ออกมาได้เรียบหรู
- แบตเตอรีสามารถใช้งานได้นานสูงสุด 5-30 วัน
ข้อควรระวัง
- ไม่เหมาะสำหรับการว่ายน้ำลึก
2. Samsung Galaxy Watch 3
สเปคเด่น
หน้าจอ : กระจกวงกลม Corning Gorilla Glass DX
Sim Card : eSIM 3G, 4G, 4G+, 5G
จอภาพ : Multi-Touch Super AMOLED
มาตรฐานกันน้ำ : 5ATM
ต่อด้วยอีกหนึ่ง Smartwatch ไม่ต้องพกมือถือที่มาพร้อมดีไซน์พรีเมียม ออร่าเตะตามาแต่ไกลอย่าง Samsung Galaxy Watch 3 เจ้าสมาร์ทวอทช์เรือนนี้รองรับการใส่ eSIM ทั้งระบบ 3G, 4G, 4G+, และ 5G เรียกได้ว่าใส่ปุ๊บก็สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ในตัวเรือน และยังสามารถรับสายเข้า-โทรออกได้ตามต้องการ หากเชื่อมต่อเข้ากับหูฟังด้วยแล้วยิ่งสามารถใช้งานง่ายเข้าไปใหญ่ นอกจากนั้นเจ้าสมาร์ทวอทช์เรือนนี้ยังมีฟีเจอร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการตรวจจับค่าสุขภาพอย่างอัตราการเต้นของหัวใจ ระดับค่าออกซิเจนในเลือด คุณภาพการนอนหลับ เป็นต้น และหากผู้สวมใส่เกิดการล้มหรือกระแทกอย่างรุนแรง จะมีการแจ้งเตือนไปยังหมายเลขฉุกเฉินทันที ถือว่าเป็นสมาร์ทวอทช์ที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุไม่น้อยเลยทีเดียว
ข้อดี
- ดีไซน์พรีเมียม มาพร้อมสายหนัง ตัวเรือนหุ้มกระจก
- ตรวจจับค่าสุขภาพแม่นยำ
- รองรับการชาร์จแบตเตอรีแบบ Wireless Charger
ข้อควรระวัง
- เนื่องจากเป็นสายหนังจึงไม่เหมาะสำหรับการสวมใส่เพื่อออกกำลังกาย
3. Huawei Watch 3 Pro Classic
สเปคเด่น
จอแสดงผล : AMOLED ขนาด 1.43 นิ้ว
ระบบปฏิบิตการ : HarmonyOS
ใช้งานต่อเนื่องได้นานสูงสุด : 21 วัน
น้ำหนัก : 63 กรัม (ไม่รวมสาย)
ต้องบอกตรงนี้เลยว่า Huawei ไม่ได้โดดเด่นแค่เรื่องอุปกรณ์การสื่อสารเท่านั้น แต่เรื่องของอุปกรณ์ Wearable อย่างสมาร์ทวอทช์ก็น่าสนใจไม่แพ้แบรนด์อื่นเลย โดยเฉพาะเจ้า Smartwatch ไม่ต้องพกมือถืออย่างรุ่น Huawei Watch 3 Pro Classic มาพร้อมการดีไซน์ที่สามารถสวมใส่ได้ทุกเพศทุกวัย ให้ความรู้สึกสุขุม เรียบร้อย สามารถสวมใส่ได้ทุกโอกาส นอกจากจะสามารถรับสายเรียกเข้า-โทรออกได้ตลอดเวลาแล้ว ยังมาพร้อมฟีเจอร์หลากหลายเพื่อเอาใจสายออกกำลังกายอย่างโหมดการออกกำลังกายอัตโนมัติกว่า 100 ชนิด และยังมาพร้อม GPS ในตัวทำให้สามารถระบุพิกัดตำแหน่งได้อย่างแม่นยำ ใช้งานได้ต่อเนื่องนานสูงสุดถึง 21 วัน แถมยังรองรับการชาร์จแบตเตอรีด้วย Wireless Charger อีกด้วย
ข้อดี
- โหมดการออกกำลังกายเยอะกว่า 100 ชนิด
- รองรับการตรวจจับค่าสุขภาพที่หลากหลาย
- ควบคุมแอปพลิเคชันการฟังเพลงได้บนตัวเรือน
ข้อควรระวัง
- ไม่แนะนำให้สวมใส่ออกกำลังกายนานเกินไป เพราะเหงื่อหรือน้ำอาจทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้
4. OPPO Watch (LTE)
สเปคเด่น
หน้าจอ : AMOLED ขนาด 1.75 นิ้ว
ใช้งานได้ต่อเนื่องนานสูงสุด : 40 ชั่วโมง
มาตรฐานกันน้ำ : 5ATM
ความจุ : 8GB, RAM 1 GB
แม้จะไม่ใช่แบรนด์ที่ได้รับความนิยมในเรื่องของสินค้าประเภท Wearable อย่างสมาร์ทวอทช์เท่าไหร่นัก แต่ต้องบอกเลยว่า OPPO เขาผลิตนาฬิกาสมาร์ทวอทช์รุ่นนี้ออกมาได้น่าประทับใจไม่น้อย เพราะเป็นหนึ่งใน Smartwatch ไม่ต้องพกมือถือ สามารถใส่ eSIM เพื่อใช้งานอินเทอร์เน็ต และโทรเข้า-ออกได้ตามต้องการทันที นอกจากนั้นยังรองรับการแจ้งเตือนข้อความอย่างไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหว กันน้ำที่ระดับ 5ATM ทำให้คุณสามารถสวมใส่เพื่อว่ายน้ำตื้นได้อย่างสบายใจหายห่วง และยังสามารถสวมใส่เพื่อออกกำลังกายได้หลากหลายรูปแบบ ควบคุมแอปพลิเคชันฟังเพลงอย่าง Spotify ได้บนข้อมือ ใช้งานง่าย ดีไซน์ล้ำ ราคามิตรภาพขนาดนี้ ไม่จัดสักเรือนยังไงไหว
ข้อดี
- กันน้ำที่ระดับ 5ATM สามารถสวมใส่ออกกำลังกายและว่ายน้ำได้
- รองรับคำสั่งเสียง Google Assistance
ข้อควรระวัง
- เนื่องจากระบบบางตัวไม่เสถียร อาจมีการดีเลย์บ้างเล็กน้อย
5. Apple Watch 7 GPS + Cellular
สเปคเด่น
หน้าจอ : Retina ความละเอียด 396 x 484 พิกเซล
เซนเซอร์ : ตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ, ค่าออกซิเจนในเลือด, ฯลฯ
แบตเตอรี : ใช้งานได้ต่อเนื่องนานสูงสุด 18 ชั่วโมง
มาตรฐานกันน้ำ : 50 เมตร
ปิดท้ายกันด้วยแบรนด์ระดับโลกอย่าง Apple ในรุ่น Apple Watch 7 GPS + Cellular นั้นมาพร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยกว่ารุ่นก่อน ๆ เป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งใน Smartwatch ไม่ต้องพกมือถือที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ของปี 2023 เลยก็ว่าได้ มาพร้อมการดีไซน์ที่เรียบหรูดูแพง มีทั้งขนาดตัวเรือน 41 มม. และ 45 มม. ให้คุณได้เลือกซื้อตามความชอบ ฟีเจอร์ให้มาครบครันทั้งเรื่องของสุขภาพ การออกกำลังกาย และไลฟ์สไตล์ นอกจากนั้นคุณยังสามารถปรับเปลี่ยน อุปกรณ์เสริมสมาร์ทวอทช์ อย่างสายนาฬิกาได้ด้วยตัวเอง ทำให้ช่วยเปลี่ยนสีสันให้กับสมาร์ทวอทช์ของคุณได้เป็นอย่างยิ่ง หากคุณยังไม่รู้ว่าจะซื้อ Smartwatch รุ่นไหนดี? ลองเลือก Smartwatch ไม่ต้องพกมือถืออย่าง Apple Watch 7 GPS + Cellular รับรองประทับใจชัวร์!
ข้อดี
- ดีไซน์เรียบหรู ตอบโจทย์ทุกการใช้งานหลากหลายสไตล์
- เน้นการตรวจจับค่าสุขภาพที่ละเอียดและแม่นยำมากขึ้น
ข้อควรระวัง
- แบตเตอรีใช้งานได้ต่อเนื่องนานสูงสุดเพียง 18 ชั่วโมง
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ Smartwatch ไม่ต้องพกมือถือทั้ง 5 รุ่น 5 แบรนด์ที่เราได้แนะนำไปด้านบน แค่ได้ทำความรู้จักคร่าว ๆ ก็เริ่มตกหลุมรักความสะดวกสบายเข้าให้แล้วใช่ไหมล่ะ ต้องบอกเลยว่าแต่ละรุ่นนั้นมีการดีไซน์ และฟีเจอร์ที่ค่อนข้างแตกต่างกัน จะเหมือนกันก็เพียงแต่รองรับ eSIM สามารถโทรเข้า-ออก และใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ในตัวเท่านั้น เพราะฉะนั้นคุณควรเลือกพิจารณาฟีเจอร์อื่น ๆ ที่คุณใช้งานบ่อย ๆ ตามต้องการ เพื่อให้ได้สมาร์ทวอทช์เรือนที่คุ้มค่าและตรงใจที่สุด หรือหากสนใจ Smartwatch วัดความดัน ก็สามารถไปอ่านบทความเพิ่มเติมของเรากันได้เลย อย่าลืมนึกถึง Mercular.com เพราะเรามีโค้ดส่วนลดให้เพียบ แถมคัดสินค้ามีคุณภาพให้คุณแล้วหลากหลาย เลือก Mercular เป็น Hobby Buddy ของคุณรับรองไม่ผิดหวัง!