แนะนำ 5 หูฟังคล้องคอ ฟังเพลงเพราะ ออกกำลังกายเยี่ยม ปี 2023

ต้องยอมรับเลยว่าในปัจจุบันเทรนด์หรือความนิยมของการออกกำลังกายกำลังมาแรงมากๆ และด้วยความแรงนี่เองทำให้ความต้องการหูฟังสำหรับสวมใส่ขณะออกกำลังกายนั้นก็มีมากขึ้นด้วยเช่นกัน นั่นทำให้ในปัจจุบันมีสินค้าประเภท หูฟังออกกำลังกายออกมาให้เลือกมากมายหลากหลายรุ่นด้วยกันในตลาด และก็มีให้เลือกทั้งสวมใส่แบบ In-Ear สอดหู และสวมใส่แบบ Earbud รวมถึงการเชื่อมต่อที่มีทั้ง หูฟังมีสาย หูฟังไร้สาย True Wireless และหูฟังไร้สายแบบที่ข้างซ้ายและข้างและข้างขวายังมีสายเชื่อมต่อกันอยู่ ซึ่งข้อดีคือเวลาที่ไม่สวมใส่นั้นสามารถคล้องคอไว้ก่อนได้ และเมื่อต้องการใช้งานอีกครั้งก็เพียงนำมาสวมใส่หูก็ใช้งานได้ทันที ซึ่งในครั้งทาง Mercular.com ก็ได้ทำการรวบรวม หูฟังออกกำลังกายไร้สายแบบที่ข้างซ้ายและขวายังเชื่อมต่อกันอยู่มาเป็นตัวเลือกให้ได้ตัดสินใจซื้อกันกับ 5 หูฟังคล้องคอ ฟังเพลงเพราะ ออกกำลังกายเยี่ยม ปี 2023 โดยจะมีรุ่นใดบ้างและน่าจับจองเป็นเจ้าของมากแค่ไหนนั้นเราไปดูกันเลยครับ

หูฟัง Shokz OpenRun Pro Sport Headphone

สำหรับรุ่นแรกกับ หูฟัง Shokz OpenRun Pro Sport Headphone ที่อัดแน่นมาด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำไม่ซ้ำใครกับ หูฟังไร้สายแบบ Bone Conduction หรือการขับเสียงผ่านการสั่นสะเทือนเข้าสู่กระดูกแก้มโดย Shokz OpenRun Pro เป็นรุ่นที่อัพเกรดมาจาก Shokz OpenRun เหมาะกับผู้ที่กำลังมองหา หูฟังไร้สายแบบ Open Ear หรือก็คือหูฟังที่ไม่ต้องสอดเข้าไปในหู และผู้ที่คุ้นเคยกับหูฟัง Bone Conduction ที่ไม่ใช่ทั้ง In-Ear, Earbud แต่ใช้วิธีการส่งสัญญาณผ่านการสั่นเข้ากับกระดูกแก้ม และเวลาที่ไม่ใช้งานก็สามารถถอดและคล้องไว้ที่คอได้สบายๆ

พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่บอกเลยว่าจัดเต็มทั้งการเชื่อมต่อไร้สายที่เสถียร ใช้รับชมภาพยนตร์ และเล่นเกมออนไลน์ได้ราบรื่นไม่มีดีเลย์ ตอบโจทย์สาย Sport ด้วยการออกแบบที่เน้นในเรื่องความสะดวกสบายและเน้นความกระชับเพื่อการเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ โดยสวมใส่แบบคาดศีรษะไม่มีปัญหาเรื่องการอึดอัดหรือรำคาญไปจนถึงการบีบศีรษะ ควบคุมได้อย่างง่ายดายด้วยปุ่มแบบกด ไม่กลัวน้ำ เหงื่อและฝุ่นด้วยมาตรฐาน IP55 เสียงที่ดังกระหึ่ม ปรับจูนมาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะย่านเบส และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวๆ ถึง 10 ชั่วโมง

หูฟังไร้สาย Bose SoundSport In-Ear Wireless

รุ่นต่อมากับ หูฟังไร้สาย Bose SoundSport In-Ear Wireless ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นตัวที่ต่อยอดมาจาก Bose SoundSport พร้อมสิ่งที่เพิ่มขึ้นคือการปรับปรุงในเรื่องของเสียง และพัฒนาในเรื่องของ ไร้สาย ขึ้นไปอีกขั้น สำหรับ Bose SoundSport In-Ear Wirelessใช้วัสดุที่เลือกและคัดสรรมาอย่างดีจาก Bose ทำให้ได้หูฟังที่มีน้ำหนักเบา สวมใส่สบาย ไม่ทำให้รู้สึกล้าหรือระคายใดๆทั้งสิ้น ภายในมีเทคโนโลยีที่รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth® 4.1 ที่รองรับเทคโนโลยี NFC ด้วยในตัว ช่วยให้เชื่อมต่อกับ Device ของคุณได้สะดวกยิ่งขึ้น เพียงแค่แตะเท่านั้นก็เป็นอันเชื่อมต่อเรียบร้อย

พร้อมทั้งใช้งานไร้สายได้ยาวนานด้วยแบตเตอรี่แบบชาร์จซ้ำได้ภายในตัวที่ใช้งานได้ 6 ชั่วฌโมง และจุกซิลิโคนหูฟังแบบพิเศษ StayHear®+ QC® Tips ลิขสิทธิ์เฉพาะของ Bose ซึ่งช่วยให้สวมใส่หูฟังได้นาน รู้สึกสบาย และแน่นไม่หลุดง่าย อีกทั้งด้วยเทคโนโลยี Tangle-Free ที่ช่วยให้สายไม่พันกัน ทำให้สะดวกสบายทั้งเวลาเก็บและเวลาที่นำขึ้นมาใช้ และจุดเด่นที่สำคัญของรุ่นนี้ก็คือกันทั้งน้ำและเหงื่อ IPX4 รับรองว่าใส่ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาได้อย่างสบาย ไร้กังวลแน่นอน

หูฟังไร้สาย Beats Powerbeats High Performance Wireless Earphones

รุ่นที่ 3 เป็นของ หูฟังไร้สาย Beats Powerbeats High Performance Wireless Earphones เหมาะกับผู้ที่กำลังมองหา หูฟังไร้สายออกกำลังกาย Sport Wireless Headphone และผู้ที่กำลังมองหา หูฟังไร้สาย Powerbeats Pro True Wireless ในเวอร์ชั่นที่ราคาเบากว่าและไม่ถึงกับต้องเป็น True Wireless โดยตัวสินค้าทั้ง 2 ข้างจะถูกเชื่อมไว้ด้วยสายพาดไปด้านหลังคอ มาพร้อมฟังก์ชั่นแบบเดียวกับในรุ่น Pro อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นส่วนของการเชื่อมต่อไร้สายที่มีความเสถียร สัญญาณคมชัด พร้อมด้วย Chipset Apple H1 แบบเดียวกับใน AirPods Gen 2 และ AirPods Pro รองรับการสั่งการด้วยเสียง Hey Siri! เรียกใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องกดปุ่มใดๆ

รวมถึงควบคุมได้สะดวกด้วยปุ่มที่อยู่บนตัวทั้งเพิ่มลดเสียง เล่น/หยุดเพลง และรับ/วางสาย เป็นต้น ใส่ออกกำลังกายได้อย่างสะดวกด้วยความสามารถกันน้ำกันเหงื่อ IPX4 และการออกแบบที่ทำให้สวมใส่ได้กระชับ ไม่หลุดหรือเคลื่อนง่ายๆ แม้เคลื่อนไหวแรงเพียงใดก็ตาม ไมโครโฟนที่รับเสียงพูดได้อย่างคมชัด ไม่พลาดในทุกการสนทนา และแบตเตอรี่ที่ใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 15 ชั่วโมงรวมถึงฟังก์ชั่นชาร์จเร็ว Fast Fuel ชาร์จเพียง 5 นาทีก็ใช้งานได้นานถึง 1 ชั่วโมง

หูฟังไร้สาย Jaybird X4 In-Ear

สำหรับรุ่นที่ 4 กับ หูฟังไร้สาย Jaybird X4 In-Ear ที่พกความสามารถและฟังก์ชั่นมาแบบเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบให้รองรับการใช้งานที่หลากหลายตั้งแต่ใช้เล่นกีฬาในร่ม กลางแจ้ง ขึ้นเขาลงห้วย ขี่จักรยาน สบายๆ ไร้กังวลเพราะมากับความทนทาน ส่วนของเรื่องเสียงก็ได้รับการปรับแต่งมาเป็นอย่างดีเช่นกัน ให้เสียงที่คมชัดใสยิ่งกว่าที่เคย สามารถปรับแต่งแนวเสียงได้ตามที่ต้องการผ่าน Jaybird App และแน่นอนว่าออกแบบมาให้ทนทานต่อการใช้งาน Outdoor ดังนั้นเรื่องฝน เรื่องสภาพอากาศไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวล เพราะความสามารถกันน้ำที่มาตรฐาน IPX7 นั้นบอกได้เลยว่าหมดห่วงเรื่องน้ำไปได้

และนอกจากจะหมดห่วงเรื่องการพกพาแลสภาพอากาศแล้ว แน่นอนว่าเรื่องการสวมใส่ก็มีการปรับปรุงและออกแบบมาใหม่ด้วยเช่นกันทั้งรูปทรงที่สามารถสวมใส่ได้กระชับหู จุกซิลิโคนที่พอดีช่องหู รวมไปถึงครีบหูที่จะช่วยยึดให้กระชับและแน่นมากขึ้น ช่วยให้เวลาต้องออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาจะไม่ต้องมาคอยกังวลเรื่องเคลื่อนออกจากหูรวมไปถึงหลุดง่ายแบบในบางรุ่น และที่สายยังมาพร้อมกับไมค์และรีโมทแบบ 3 ปุ่มสำหรับคุยโทรศัพท์ รับสาย/วางสาย รวมไปถึงควบคุมเพลงและเพิ่มลดเสียง พกพาได้อย่างสบายใจด้วยแบตเตอรี่ภายในตัวใช้งานยาวนานต่อเนื่องถึง 8 ชั่วโมง

หูฟังไร้สาย JBL Endurance Run Bluetooth In-Ear

และรุ่นสุดท้ายจากแบรนด์ลำโพงยอดนิยมกับ หูฟังไร้สาย JBL Endurance Run Bluetooth In-Earที่อัพเกรดมาจากในรุ่น JBL Endurance Run โดยเพิ่มการเชื่อมต่อที่อัพเกรดมาเป็นไร้สายเพื่อการพกพาและใส่ออกกำลังกายได้อย่างคล่องตัวและสะดวกกว่าเดิมที่อาจจะมีสายมารบกวนในบางจังหวะ เหมาะกับผู้ที่มองหาหูฟังอินเอียร์ไร้สายออกกำลังกาย In-Ear Sport Wireless Headphone ที่มาพร้อมการสวมใส่ที่กระชับใบหู เชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth 4.1 รีโมทควบคุมได้สะดวก พกพาไปได้ทุกที่สบายๆด้วยแบตเตอรี่ภายในตัวใช้งานไร้สายได้ต่อเนื่องยาวนาน 6 ชั่วโมง ไม่พลาดทุกสายเข้าด้วยไมโครโฟนรับเสียงชัด และแน่นอนว่าคนที่รักการออกกำลังกายที่กำลังมองหาสินค้าที่ไม่กลัวเหงื่อต้องถูกใจแน่นอนด้วยมาตรฐานกันน้ำ IPX5 ในรุ่นนี้ แถมด้วยยังรองรับผู้ช่วยเสียง Siri / Google และรองรับการชาร์จไว