เลือกซื้อนาฬิกา Suunto รุ่นไหนดี ? ที่ตอบโจทย์สาย Extreme
14 ก.พ. 2563
สำหรับใครที่ติดตาม Mercular.com อยู่ตลอดเวลา คงเคยเห็นคอนเทนต์ สุดยอดนาฬิกา Garmin ที่น่าจับตามองที่สุดในปี 2021 มาแล้ว มาถึงวันนี้ เราจะหยิบอีก 6 รุ่นดังจากแบรนด์ Sport watch หัวตารางอย่างที่นิยมไม่แพ้ Garmin เลย นั่นก็คือ แบรนด์ นาฬิกา Suunto จากประเทศฟินแลนด์ ที่นิยมกันมากในหมู่นักกีฬาสาย Extreme และ Adventure ด้วยความที่เป็นระบบปิด ทำให้การใช้งานมีความเสถียร และแบตเตอรีที่อึดมาก ๆ การใช้งานก็จะเน้นลุยทนทาน ตามสไตล์ของแบรนด์ที่ทำอุปกรณ์เกี่ยวกับการผจญภัยมาก่อน นอกเหนือจากนั้นนาฬิกา Suunto จะมีจุดเด่นอะไรอีกบ้าง ไปดูกันเลยครับ
จุดเด่นของ นาฬิกา Suunto
ด้วยความที่สมาร์ทวอทช์ Suunto นั้นเน้นการใช้งานที่เป็นนาฬิกาออกกำลังกายเป็นหลัก ทำให้การวัดค่าต่าง ๆ นั้นมีความแม่นยำ และสามารถออกกำลังกายต่อเนื่องได้ลื่นไหลกว่าแบรนด์อื่น ๆ นั่นเอง โดยภาพรวมที่ถือว่าเป็นจุดขายของนาฬิกาซุนโต้นั้นก็จะมีหัวข้อหลัก ๆ ดังนี้
- การออกแบบสวยงาม วัสดุเกรดดีแข็งแรงทนทาน
- ทำงานระบบปิด ใช้งานเสถียร ไม่รวนหรือดับเอง
- แอปพลิเคชันใช้งานดี มี Community Feature ที่โดดเด่น
- ราคาไม่แรง เข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัย
- เหมาะกับคนที่อยากได้นาฬิกาสำหรับออกกำลังกายเป็นหลัก
- รองรับการใช้งานภาษาไทย
แนะนำ นาฬิกา Suunto รุ่นท็อป ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
นาฬิกา Suunto 3
เริ่มต้นด้วย Suunto 3 Sport Watch ที่เป็นรุ่นเล็กสุด ตัวเรือนเล็ก ใส่ง่าย หน้าปัดขนาด 43 มม. ควบคุมการทำงานด้วยปุ่มกด ส่วนการนำทางนั้นจะใช้ GPS จาก Smartphone ที่มันเชื่อมต่ออยู่ โดยฟีเจอร์การใช้งานของเจ้า Suunto 3 นั้นก็จะมีโหมด Adaptive Training Guidance เป็นตัวชูโรงที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานเลือกว่าต้องการออกกำลังกายในทิศทางไหน เช่น เพิ่มความอึด หรือต้องการรักษาระดับการออกกำลังกายของตัวเองไว้ ซึ่งตัวสมาร์ทวอทช์จะทำการวางแผนการออกกำลังกายล่างหน้าไว้ 7 วันเพื่อทำตามเป้าหมายที่วางไว้นั่นเอง ส่วนการเก็บสถิติต่าง ๆ นั้นจะเน้นไปที่การใช้งานพื้นฐาน แม้ว่าตัวนาฬิกาจะมี Sport Profile ที่รองรับการออกกำลังกายที่ต่างกันออกไปกว่า 70 แบบ มันจึงเหมาะสำหรับ ผู้ใช้งานทั่วไปสำหรับชีวิตประจำวัน ไม่ได้ออกกำลังหนัก หรือไม่ได้ออกกำลังกายเลยมากกว่า
จุดเด่น
- ราคาถูก ขนาดไม่ใหญ่ สวมใส่สบาย
- มี Adaptive Training Guidance
- มีฟีเจอร์ติดตามความเครียดและการนอนในตัว
- ระดับการกันน้ำ 3ATM
จุดด้อย
- ควบคุมด้วยปุ่มเท่านั้น
- ไม่มี GPS ในตัว
นาฬิกา Suunto 5
Smart Watch รุ่นนี้มีการใช้งานที่ครบครันมากกว่ารุ่นก่อน นอกจากจะมาพร้อมกับฟังก์ชัน Adaptive Training Guidance แล้ว ยังเพิ่มฟีเจอร์ต่าง ๆ สำหรับการออกกำลังกายเต็มรูปแบบเข้าไปด้วยรวมไปถึง Built-in GPS ในตัว และยังสามารถใช้งานตรวจจับสุขภาพได้ในระดับสูง เช่น Body Resources, Strees Tracking หรือ Body Battery จัดว่ามีบาลานซ์การใช้งานระหว่าง Sport และ Lifestyle ยอดเยี่ยมที่สุด มี Sport Profile กว่า 80 รูปแบบ มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำ ATM5 และฟีเจอร์รองรับการใช้งานในน้ำที่ค่อนข้างครับครัน ฉะนั้นสำหรับเจ้าสมาร์ทวอทช์เรือนนี้นั้นต้องบอกว่าเหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการออกกำลังกายกลาง ๆ ไปทางสูง และต้องการฟังก์ชันติดตามสุขภาพ แต่ไม่ได้มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบการออกผจญภัย
จุดเด่น
- ราคากลาง ๆ ดีไซน์สวย ใช้งานง่าย
- แบตเตอรี 14 วันสำหรับ Watch Mode
- มีฟังก์ชันครบครันทั้งการออกกำลังกายและสุขภาพ
- มีฟังก์ชั่นสำหรับใช้งานเป็นนาฬิกาว่ายน้ำได้
จุดด้อย
- ไม่เน้นการผจญภัย
นาฬิกา Suunto 7
เรียกได้ว่าเป็นนาฬิกาอัจฉริยะระบบปิดตัวแรกจากแบรนด์เลยก็ว่าได้ มีการดึงการใช้งานของ Wear OS by Google มาใช้ ทำให้ตัว Suunto 7 มาพร้อมกับความสามารถในการดาวน์โหลดแอปเพิ่มเติม ไม่ต่างอะไรกับคู่แข่งอย่าง Garmin เลย แถมยังเพิ่มความสวยงามด้วยหน้าจอ AMOLED ความละเอียด 454 x 454 พิกเซล มาให้อีกด้วย ส่วนในเรื่องการใช้งานนั้นก็จะอยู่กึ่งกลางระหว่างรุ่นนาฬิกาซุนโต้ 3 และ 5 มีการออกกำลังกายที่ละเอียดกว่า 3 แต่ตัดฟังก์ชันสุขภาพบางอย่างในรุ่น 5 ออกไปซึ่งส่วนฟังก์ชันการใช้งานที่ขาดไปผู้ใช้งาน ก็สามารถดาวน์โหลดแอปใน Store มาทดแทนได้ สำหรับใครที่อยากได้นาฬิกา Suunto ที่มีความเป็น Smartwatch สูงเน้นใช้งานเพื่อ Lifestyle เป็นหลัก ก็ต้องมองมาที่ตัวนี้เลย
จุดเด่น
- ใช้หน้าจอ AMOLED ให้สีสันที่สวยงามคมชัด
- สามารถดาวน์โหลดแอปเพิ่มเติมได้
- สามารถควบคุมเพลงได้ในตัว และดาวน์โหลดแอปสตรีมเพลงอื่น ๆ ได้
- แผ่นที่และ GPS แม่นยำ
จุดด้อย
- มีการตัดฟังก์ชันสุขภาพบางตัวออก
- ไม่เน้นการออกกำลังกาย
นาฬิกา Suunto 9
เป็นอีกรุ่นตัวท็อปที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานกึ่งผจญภัย เพราะมาพร้อมวัสดุที่แข็งแรงทนทานกว่ารุ่นก่อน ๆ และ ระบบ Fusedtrack ระบบ Tracking ที่สามารถใช้งานระบบนำทางได้ต่อเนื่อง ประหยัดแบตเตอรีกว่ารุ่นอื่น ๆ การบันทึกข้อมูลของตัว Suunto 9 ก็ทำได้นานกว่า รองรับการวิ่งในระดับ Ultra Marathon แต่ฟีเจอร์ในการใช้งานติดตามสุขภาพบางส่วนนั้นจะถูกตัดออกไป จึงเหมาะกับผู้ใช้งานที่เน้นออกกำลังกายหนัก ๆ หรือชื่นชอบกิจกรรม Outdoor Adventure นั่นเอง ซึ่งตัวนาฬิกาวิ่งตัวนี้จะมีรุ่นคู่ขนานอย่าง Suunto 9 Barometer ที่จะเพิ่ม Barometer Sensor ลงไป เพิ่มฟีเจอร์การใช้งานอย่างการ การแจ้งเตือนสภาพอากาศ เตือนพายุ ตรวจวัดอุณหภูมิ แจ้งแรงกดอากาศและแรงลม สำหรับการใช้งานบนที่สูง หรือคนที่ชอบเดินป่าลุยเขา เป็นต้น
จุดเด่น
- รอบบันทึกข้อมูลต่อเนื่องยาวในระดับ Ultra Marathon
- ระบบ Fused Track ทำให้ GPS กินแบตน้อยลงกว่าเดิม
- มีระบบจัดการแบตอัจฉริยะยืดอายุการใช้งาน GPS mode ให้นานได้สูงสุด 120 ชั่วโมง
- ระดับกันน้ำ 5ATM
จุดด้อย
- มีการตัดฟีเจอร์สุขภาพบางส่วนออก
- ไม่เหมาะสำหรับการใช้งาน Lifestyle
นาฬิกา Suunto 9 Peak
สำหรับใครที่กำลังตามหานาฬิกา Suunto รุ่นไหนดี 2021 ต้องบอกเลยว่ารุ่นนี้มาแรงแซงทางโค้งสุด ๆ ครับ เพราะมาพร้อมการดีไซน์ที่เรียบหรูแต่แฝงไปด้วยฟังก์ชันที่จัดเต็มทั้งไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตและการออกกำลังกาย รองรับฟีเจอร์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเซนเซอร์ตรวจจับออกซิเจนในเลือด และโหมดออกกำลังกายอีกมากถึง 80 รูปแบบ สามารถชาร์จแบตเตอรีได้ด้วยความเร็วสูง กันน้ำที่ระดับ 100 เมตรเลยทีเดียว เรียกได้ว่าตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองที่ชอบการออกกำลังกายและการผจญภัยเป็นอย่างยิ่ง ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานสูงสุดถึง 14 วัน รองรับการแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟนได้ทันที บอกเลยว่าของมันต้องมีครับ
จุดเด่น
- อายุการใช้งานต่อเนื่องนานสูงสุด 14 วัน
- อัปเดตเฟิร์มแวร์แบบไร้สายได้
- ปรับเปลี่ยนดีไซน์ให้ใส่ได้ง่ายทุกเพศ
- มีเซนเซอร์ตรวจจับออกซิเจนในเลือด
จุดด้อย
- จอแสดงผลขนาดเล็ก สัมผัสไม่ถนัดมือ
นาฬิกา Suunto Core Alpha Stealth
ใครที่ชอบการผจญภัย ต้องบอกเลยว่าอุปกรณ์ Wearable ชิ้นนี้ตอบโจทย์คุณที่สุด เพราะเป็นนาฬิกาซุนโต้รุ่นที่ถูกพัฒนามาเพื่อการผจญภัยโดยเฉพาะ ผ่านการทดสอบตามมาตรฐานทางการทหารอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นด้านการทนแรงกระแทก การสั่นสะเทือน อุณหภูมิที่เปลี่ยนอย่างรวดเร็ว เป็นต้น ซึ่งต้องบอกเลยว่ามีระบบ GPS และแผนที่ที่แม่นยำ สามารถวัดความสูง และบันทึกความลึกของพื้นที่ได้ตามต้องการ นอกจากนั้นยังสามารถดูแนวโน้มของอุณหภูมิและอากาศได้อีกด้วย สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานสูงสุดถึง 12 เดือนในโหมดเวลา เรียกได้ว่าใครที่ชอบเดินป่าหรือชอบกิจกรรม Adventure ล่ะก็ ซื้อนาฬิกา Suunto รุ่นนี้ไปไม่มีผิดหวังแน่นอน คุ้มค่าชัวร์!
จุดเด่น
- เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัย เดินป่า
- วัสดุทนทานแข็งแรง ผ่านการทดสอบตามมาตรฐานทหาร
- มีระบบ GPS และแผ่นที่ที่แม่นยำ
- ใช้งานต่อเนื่องได้นานสูงสุด 12 เดือนในโหมดเวลา
จุดด้อย
- ไม่เหมาะสำหรับการใช้งาน Lifestyle
- ฟังก์ชันสุขภาพไม่ครบ
นาฬิกา Suunto Vertical Smart Watch
นาฬิกา Suunto Vertical Smart Watch นั้นมากับระบบการออกกำลังกายที่จัดเต็มมากยิ่งขึ้น ดีไซน์มากับดีเทลที่ดูเป็นสายลุยมากยิ่งขึ้น แถมยังมากับหน้าจอที่ใหญ่ถึง 1.4 นิ้วบนความละเอียด 280 x 280 สวยงามคมชัดแน่นอน ควบคุมได้ผ่านปุ่มทางด้านขวาและการสัมผัส เจ้าตัวนี้ยังมีระบบการนำทางที่แม่นยำ พร้อมกับโหมดกีฬาเยอะถึง 95+ โหมด ให้คุณได้เลือกออกกำลังกายในแบบของตัวเองได้อย่างง่ายดาย และยังมากับระบบการแจ้งเตือนพายุเข้าและพระอาทิตย์ขึ้นกับตก พร้อมกับระบบพยากรณ์อากาศ และบารอมิเตอร์ รวมไปถึงเครื่องวัดความสูงมาให้อีกด้วย ด้านแบตเตอรี่ก็ใช้ได้ยาวนานสุด ๆ ถึง 60 วัน ซึ่งสามารถใช้การชาร์จผ่านสาย หรือจะเป็นการชาร์จได้ด้วยตัวเองผ่านโซล่าเซลล์ที่ตรงหน้าปัดนาฬิกา
จุดเด่น
- ดีไซน์สวย ใช้งานง่าย
- มีฟีเจอร์และโหมดออกกำลังแบบจัดหนักจัดเต็ม
- แบตอึด ใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 60 วัน
- ดีไซน์เท่ แข็งแรง ลุยได้ทุกสถานการณ์
จุดด้อย
- หน้าจอทัชสกรีนมีความหน่วงเล็กน้อย
นาฬิกา Suunto 9 Peak Pro Sport Watch
นาฬิกา Suunto 9 Peak Pro Sport Watch นั้นมากับดีไซน์ที่เรียบง่ายมินิมอล แต่ก็ยังมีความสวยงามอยู่นั่นเอง ซึ่งเจ้ารุ่นนี้ต่อยอดจาก นาฬิกา Suunto ในรุ่น 9 Peak Sport Watch โดยในรุ่น 9 Peak Pro นี้ก็ยังคงมาพร้อมกับจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์ของทาง Suunto และฟีเจอร์การออกกำลังกายที่ขนมาให้แบบจัดเต็ม ซึ่งก็มีโหมดกีฬามาให้ใช้งานถึง 95+ โหมดให้เลือกใช้ และยังมีเซ็นเซอร์วัดสุขภาพ แถมเจ้าตัวนี้ยังมากับชิปประมวลผลแบบใหม่ ทรงพลังกว่าเดิม พร้อมกับความคงทนในระดับ Military Grade ด้านหน้าจอตัวนี้มากับขนาดหน้าจอ 1.2 นิ้ว และความละเอียด 240 x 240 บอกได้เลยว่ามองได้ชัดเจน พร้อมกับความสวยของหน้าจอที่สวยงามแน่นอน อายุแบตเตอรี่อยู่ได้ยาวนานถึง 21 วัน หรือหากแบตเตอรี่หมดก็ยังชาร์จได้อย่างรวดเร็วด้วยการรองรับ Fast Charging นั่นเอง
จุดเด่น
- ดีไซน์สวย ใช้งานง่าย
- มีโหมดกีฬา 95+ โหมดให้เลือกใช้
- แข็งแรง ทนทาน งานประกอบดีเยี่ยม
- ระบบนำทางและ GPS ที่แม่นยำฉับไว
จุดด้อย
- ดูแผนที่ผ่านตัวสมาร์ทวอทซ์ไม่ได้
จบกันไปแล้วกับนาฬิกา Suunto ทั้ง 6 รุ่นซึ่งจะสังเกตได้เลยว่านาฬิกาซุนโต้ทั้ง 6 รุ่นนี้มาความแตกต่างในการใช้งานกันอย่างเห็นได้ชัด แต่ถ้าใครไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อ Sport Watch Suunto รุ่นไหนดี 2021 ก็ลองไปดูตารางสรุปสั้น ๆ กันอีกรอบได้เลยครับ
Suunto 3 | Suunto 5 | Suunto 7 | Suunto 9 | Suunto 9 Peak | Suunto Core Alpha Stealth | Suunto 9 Peak Pro | Suunto Vertical Smart Watch | |
จุดเด่น | -ราคาถูก สวมใส่สบาย -มี Adaptive Training Guidance -มีฟีเจอร์ติดตามความเครียดและการนอนในตัว -ระดับการกันน้ำ 3ATM | -ดีไซน์สวย ใช้งานง่าย -แบตเตอรี 14 วันสำหรับ Watch Mode -มีฟังก์ชันครบครันทั้งการออกกำลังกายและสุขภาพ -เป็นนาฬิกาว่ายน้ำได้ | -หน้าจอ AMOLED สวยงามคมชัด -ดาวน์โหลดแอปเพิ่มเติมได้ -ควบคุมเพลงได้ในตัว -แผ่นที่และ GPS แม่นยำ | -รอบบันทึกข้อมูลต่อเนื่องยาวระดับ Ultra Marathon -กินแบตน้อยลงกว่าเดิม -มีระบบจัดการแบตอัจฉริยะ -ระดับกันน้ำ 5ATM | -ใช้งานต่อเนื่องนานสูงสุด 14 วัน -อัปเดตเฟิร์มแวร์แบบไร้สายได้ -ปรับเปลี่ยนดีไซน์ให้ใส่ได้ทุกเพศ -มีเซนเซอร์ตรวจจับออกซิเจนในเลือด | -เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัย -วัสดุทนทานแข็งแรง ผ่านการทดสอบตามมาตรฐานทหาร -มีระบบ GPS และแผ่นที่แม่นยำ -ใช้งานต่อเนื่องได้นานสูงสุด 12 เดือนในโหมดเวลา | -ดีไซน์สวย ใช้งานง่าย -มีโหมดกีฬา 95+ โหมดให้เลือกใช้ -แข็งแรง ทนทาน งานประกอบดีเยี่ยม -ระบบนำทางและ GPS ที่แม่นยำฉับไว | -มีฟีเจอร์และโหมดออกกำลังแบบจัดหนักจัดเต็ม -แบตอึด ใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 60 วัน -ดีไซน์เท่ แข็งแรง ลุยได้ทุกสถานการณ์ |
ราคา | เริ่มต้น 5,900.- | 11,990.- | 11,990.- | เริ่มต้น 14,990.- | 25,900.- | 9,900.- | 19,900 | 21,900 |
ขนาดเรือน | 43 มม. | 46 มม. | 50 มม. | 50 มม. | 43 มม. | 49.5 มม. | 43 มม. | 49 มม. |
หน้าจอ | จอ LED ควบคุมด้วยปุ่ม; 218 x 218 Px กันรอยด้วยเลนส์ PA | จอสัมผัส LED; 218 x 218 Px กันรอยด้วยเลนส์ PA | จอสัมผัส AMOLED; 454 x 454 Px กันรอยด้วย Gorilla Glass | จอสัมผัส LED; 320 x 300 Px กันรอยด้วยเลนส์ Sapphire Crystal | จอสัมผัส LED; 240 x 240 Px กันรอยด้วยเลนส์ Sapphire Crystal | จอ LED ควบคุมด้วยปุ่ม กันรอยด้วยเลนส์ Mineral Crystal | จอสัมผัส LED; 240 x 240 กันรอยด้วยเลนส์ Sapphire Crystal | จอสัมผัส LED; 280 x 280 กันรอยด้วยเลนส์ Sapphire Crystal |
ระบบนำทาง | เชื่อมต่อผ่านโทรศัพท์มือถือ | GPS, GLONASS, QZSS, GALILEO | GPS, GLONASS, QZSS, BEIDOU | GPS, GLONASS, QZSS, GALILEO | GPS, GLONASS, GALILEO, QZSS, BEIDOU | - | GPS, GLONASS, GALILEO, QZSS, BEIDOU | GPS, GLONASS, GALILEO, QZSS, BEIDOU |
การใช้งาน | ออกกำลังกายพื้นฐาน ใช้ในชีวิตประจำวัน | ออกกำลังกายจริงจังเน้นพัฒนาศักยภาพร่างกาย | Lifestyle เป็นหลักออกกำลังกายได้เทียบเท่ารุ่น 3 | สายออกกำลังกายทางไกล Ultra Marathon หรือสายผจญภัยลุย ๆ | ตอบโจทย์ผู้ใช้ชีวิต Lifestyle และการออกกำลังกาย | เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยหรือเดินป่า | เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย และกิจกรรมกลางแจ้ง | เหมาะสำหรับคนที่ชอบกิจกรรมกลางแจ้ง |
เพลง | - | - | ควบคุมเพลงได้ / สตรีมเพลงได้ - (ดาวน์โหลดเพิ่มผ่าน Google Play) | - | - | - | ควบคุมเพลงได้ / สตรีมเพลงได้ | ควบคุมเพลงได้ / สตรีมเพลงได้ |
ดาวน์โหลดแอปเพิ่มเติม | - | - | ได้ | - | - | - | ได้ | ได้ |
แบตเตอรี | Watch Mode : สูงสุด 10 วัน Smartwatch Mode : สูงสุด 5 วัน | Watch Mode : สูงสุด 14 วัน Smartwatch Mode : สูงสุด 7 วัน | Watch Mode : สูงสุด 40 วัน Smartwatch Mode : สูงสุด 2 วัน | Watch Mode : สูงสุด 14 วัน Smartwatch Mode : สูงสุด 7 วัน | Watch Mode : สูงสุด 14 วัน Smartwatch Mode : สูงสุด 7 วัน | Watch Mode : สูงสุด 2 เดือน | Watch Mode : 30 วัน Smartwatch Mode : สูงสุด 21 วัน | Watch Mode : 60 วัน Smartwatch Mode : สูงสุด 30 วัน |
ซื้อ Sport Watch Garmin หรือ นาฬิกา Suunto รุ่นไหนดี ?
สุดท้ายก่อนเราจะจากกันไป Mercular ก็จะขอตอบปัญหาโลกแตกสำหรับเหล่านักกีฬาที่กำลังจะหาซื้อ Smart Watch ตัวแรกว่า Garmin หรือ Suunto นั้นดีกว่ากันแน่ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า นาฬิกา Suunto นั้นค่อนข้างโดดเด่นในเรื่องของการออกแบบที่สวยงาม วัสดุที่แข็งแรงทนทาน และแผนที่ 3 มิติที่ภาพรวมดูดีกว่าของ Garmin มาก ๆ แถมการใช้งานลื่นไหลไม่แฮงค์หรือดับกลางครัน การทำงานในพื้นที่อุณหภูมิต่ำก็ทำได้อย่างลื่นไหล
ส่วน Garmin นั้นเป็น Sport Watch ที่ค่อนข้างเอนไปทาง Smartwatch มีฟีเจอร์อื่น ๆ นอกจากด้านกีฬาเยอะ รวมไปถึงฟีเจอร์เกี่ยวกับความบันเทิงต่าง ๆ สำหรับผู้ที่ชอบการใช้งานที่หลากหลาย Garmin ก็ถือว่าตอบโจทย์กว่า แถมยังขายต่อง่าย มีคนรอซื้อต่อเพียบเวลาอยากขายต่อหรือเปลี่ยนรุ่น แต่ในการใช้งานแบบยาว ๆ แล้วนอกจาก Suunto จะราคาถูกกว่าก็ยังทนทานกว่า ทำงานได้เสถียรกว่า ส่วนเรื่องความยากเวลาใช้งานระหว่าง Garmin กับ Suunto Sport Watch ตัวไหนใช้ง่ายกว่ากัน ? นั้น ต้องบอกว่ามันไม่ต่างอะไรจากคนที่ย้ายจาก iPhone ไปเป็น Android ที่แรก ๆ อาจจะสับสนกันบ้าง หรือเราอาจจะเห็นนาฬิกา Garmin บ่อย ๆ จากคนรอบ ๆ ตัว ทำให้เราแอบซึมซับวิธีใช้งานพื้นฐานของมันมาแล้วทำให้คนส่วนมากชอบบอกว่า Sport Watch ของ Garmin ใช้ง่ายกว่า แต่จริง ๆ นาฬิกาทั้ง 2 แบรนด์นั้นใช้งานง่ายไม่ต่างกันมากนัก
สำหรับบทความในวันนี้ Mercular หวังว่าทุกคนจะตัดสินใจซื้อนาฬิกา Sport Watch ที่ใช่ เรือนที่ชอบได้แล้ว ถ้าเกิดมีปัญหาอะไรก็สามารถสอบถามมาทางช่องทางติดต่อของเราได้ และถ้าไม่อยากพลาดบทความดี ๆ แบบนี้ก็อย่าลืมกดติดตามพวกเราเอาไว้จะได้ไม่พลาดข่าวสารและข้อมูลดี ๆ จาก Mercular.com