16 อันดับ หูฟังไร้สาย True Wireless ยี่ห้อไหนดี

• หูฟังไร้สาย Skullcandy Jib True Wireless
• หูฟัง Aukey EP-T27 True Wireless
• หูฟังไร้สาย Jabra Elite 65T True Wireless
• หูฟังไร้สาย KZ S1D True Wireless
• หูฟังไร้สาย Jabra Elite 85t True Wireless
• หูฟัง SoundPeats Air3 True Wireless
• หูฟังไร้สาย Sony WF-1000XM4 True Wireless
• หูฟังไร้สาย SoundPeats MAC True Wireless
• หูฟังไร้สาย Jabra Elite 7 Pro True Wireless
• หูฟังไร้สาย Apple AirPods Pro
• หูฟัง Klipsch T5 II ANC True Wireless
• หูฟังไร้สาย Bose QuietComfort Earbuds True Wireless
• หูฟังไร้สาย Sennheiser Momentum True Wireless 2
• หูฟัง B&W PI5 True Wireless By Bowers & Wilkins
• หูฟังไร้สาย Master & Dynamic MW08 True Wireless
• หูฟังไร้สาย B&O BEOPLAY EQ True Wireless

1.หูฟังไร้สาย Skullcandy Jib True Wireless

สำหรับ หูฟังไร้สาย Skullcandy Jib True Wireless ถูกออกแบบให้มีดีไซน์แฟชั่น ทันสมัย ในรููปแบบ In-Ear สวมใส่สบาย รวมไปถึงราคาที่สามารถเอื้อมถึงได้ง่าย ในราคาหลักพันต้นๆ และมาพร้อมกับสเปคที่ครบครันไม่ว่าจะเป็นการใช้งานแยกข้างซ้ายขวาได้อย่างอิสระ ไมโครโฟนคู่รับเสียงได้อย่างคมชัด รวมไปถึงสามารถใส่ออกกำลังกายได้ กันน้ำกันเหงื่อ ตามมาตรฐาน IPX4 นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมทั้งการ รับ/วางสาย เล่น/หยุดเพลง และเพิ่ม/ลด เสียงในตัวได้โดยตรง 

สำหรับการเชื่อมต่อหูฟังไร้สาย Skullcandy Jib True Wireless สามารถเชื่อมต่อได้ผ่าน Bluetooth 5.0 และสามารถเชื่อมต่อได้ไกลถึง 10 เมตร สามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหล แทบไม่ดีเลย์ จะใช้ดูหนัง ฟังเพลง ก็สามารถใช้งานได้อย่างสบาย และสามารถใช้งานแบตเตอรีสูงสุดได้ 6 ชั่วโมง รวมไปถึงสามารถใช้งานกับเคสได้นานถึง 22 ชั่วโมงเลยทีเดียว

2.หูฟัง Aukey EP-T27 True Wireless

Aukey EP-T27 True Wireless ว่าด้วยสเปคที่ครบครัน ทั้งเรื่องของดีไซน์พรีเมียม เสียงที่มีคุณภาพ และยังมีราคาที่สามารถเอื้อมถึงได้ง่าย ในราคาหลักพันต้นๆ และสำหรับฟังก์ชันเสริมที่สามารถใช้งานเชื่อมต่ออย่างเสถียรด้วยชิพ Qualcomm QCC3040 โดยที่สามารถใช้งานดูหนัง เล่นเกม ได้อย่างสบาย และด้วยสเปคที่รองรับ Codec เสียงไร้สายคุณภาพสูง aptX ทำให้คุณภาพเสียงออกมาอย่างคมชัด สำหรับการใช้งานสนทนากในการคุยโทรศัพท์ก็สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกที่มาพร้อมไมโครโฟนถึง 4 ตัวและฟังก์ชันตัดเสียงแทรก cVc 8.0 Noise Reduction Technology

สำหรับใครที่ต้องการมองหาหูฟังไร้สายที่สามารถใช้งานในการพกพาสะดวก ราคาไม่แรง สเปคจัดเต็มทั้งมาตรฐานการกันน้ำกันเหงื่อ IPX7 สามารถใช้งานในการออกกำลังกายได้สบาย ดีไซน์สวย ใช้งานง่ายรวมไปถึงสามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานถึง 5 ชั่วโมง และยังสามารถใช้งานกับเคสในการชาร์จได้อีก 3 ครั้ง รวมแล้วใช้งานได้ยาวนานถึง 20 ชั่วโมงเลย ตอบโจทย์ความคุ้มค่ามากๆ

3.หูฟังไร้สาย Jabra Elite 65T True Wireless

หูฟังไร้สาย Jabra Elite 65T True Wireless หูฟังรูปแบบ In-Ear สามารถใช้งานในการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.0 ให้ความเสถียรไม่ว่าจะใช้งาน ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมหรือออกกำลังกายก็สามารถใช้งานได้อย่างสบาย มาพร้อมฟังก์ชันที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ฟังก์ชั่น HearThrough ที่รับเสียงภายนอก มาพร้อมไมค์ 4 ตัวที่ให้ระดับเสียงที่คมชัด สามารถกันน้ำกันฝุ่นได้มาตรฐาน IP55 

คุณภาพของเสียงไม่ต้องพูดถึงเพราะออกแบบมาให้มีโทนเสียง Flat และ Balance มีรูปแบบที่โปร่ง คมชัด มีเวทีเสียงที่กว้าง นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานเสียงได้หลายแนว และยังสามารถปรับ EQ เพิ่มเติมได้ในแอปด้วย บอกเลยว่าตอบโจทย์ในเรื่องของเสียงที่มีคุณภาพมากสำหรับรุ่นนี้

4.หูฟังไร้สาย KZ S1D True Wireless

หูฟังไร้สาย KZ S1D หูฟัง True Wireless ราคาถูก แต่มีรูปทรงดีไซน์สวย พร้อมทั้งมีสเปคที่สามารถใช้งานได้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกม ให้ฟังก์ชันพิเศษสำหรับคุณภาพเสียง ที่สามารถใช้งานได้เหมือนตัวแพงๆได้เลย ที่มีลักษณะเสียงโทนอุ่น นุ่มฟังสบาย เบสหนัก และมีเสียงกลางที่เบา ในส่วนของเวทีเสียงมีความโล่ง กว้าง ถือว่าตอบโจทย์สำหรับการใช้งานคุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยม และสำหรับการเชื่อมต่อที่มีความเสถียรรวดเร็วด้วยการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 มาพร้อมกับการเชื่อมต่อที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น

ส่วนเรื่องของการควบคุมสามารถควบคุมได้โดยการแตะสัมผัสกับตัวหูฟังได้เลย ทำให้ง่ายและสะดวกมากขึ้น และสามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนาน 3 ชั่วโมง สำหรับใครที่มองหาหูฟังไร้สาย True Wireless ดีไซน์สวย ใช้งานง่าย พกพาสะดวกและราคาถูก สำหรับรุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่สามารถตอบโจทย์กับการใช้งานได้อย่างครบครัน

5. หูฟังไร้สาย Jabra Elite 85t True Wireless

Jabra Elite 85t เป็นหูฟัง True Wireless แบบ In ear ที่มีดีทั้งสไตล์และสเปค ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูเท่ ใส่สบาย น้ำหนักเบา ใส่แล้วไม่หูอื้อ แถมยังมาพร้อมกับ ไมโครโฟนรับเสียงถึง 6 ตัวและระบบการตัดเสียงรบกวนที่มีให้เลือกใช้ถึง 3 โหมด ได้แก่ Active Noise Cancellation หรือ ANC ที่ช่วยตัดเสียงรบกวนที่ปรับได้ถึง 5 ระดับ โหมด HearThrough ที่เราจะได้ยินเสียงภายนอกโดยที่ไม่ต้องถอดหูออก และโหมด Off สำหรับการปิดการตัดเสียงรบกวน และไมโครโฟนในตัวถึง 6 ตัว ให้เสียงพูดที่คมชัด ตอบโจทย์คนทำงานแบบสุดๆ หูฟัง Jabra Elite 85t ตัวนี้มีมาตรฐาน IPX4 และแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานที่นานถึง 5.5 ชั่วโมง และสามารถชาร์จเพิ่มจากเคสได้อีก 19.5 ชั่วโมง พร้อมกับ Fast Charging และการชาร์จไร้สายแบบ Qi อีกด้วย

6. หูฟัง SoundPeats Air3 True Wireless

SoundPeats Air3 เป็นหูฟัง True Wireless อีกตัวหนึ่งที่ขึ้นชื่อในเรื่องของขนาดที่เล็กกระทัดรัด ความเบาสบาย ใส่ง่ายเหมือนกับใส่อากาศ ทำให้คนที่ไม่ชอบใส่หูฟัง In Ear ก็รู้สึกสบาย ไม่อึดอัดเหมือนตัวอื่นๆ ภายในตัวหูฟังนั้นยังใช้ชิพเซ็ต Qualcomm QCC3040 สามารถเชื่อมต่อได้อย่างเสถียร รองรับ Bluetooth เวอร์ชัน 5.2 ใช้ได้ใกลถึง 10 เมตร และสามารถใช้งานแยกข้างได้อีกด้วย และยังมีฟีเจอร์ Game Mode ที่ช่วยลดความหน่วงได้ถึง 60ms ฟังเสียงได้ชัด ไม่มีดีเลย์ แถมยังรองรับ Codec ไร้สาย aptX ที่ให้คุณภาพเสียงเทียบเท่ากับแผ่น CD อีกด้วย พร้อมกับฟุ่มควบคุมบนหูฟังและเซนเซอร์ตรวจจับการใส่ที่จะหยุด - เล่นเพลงต่อได้ทันที

ส่วนแบตเตอรี่ของ SoundPeats Air3 นั้นจะใช้งานได้นาน 5 ชั่วโมง และชาร์จเพิ่มจากเคสได้อีก 12.5 ชั่วโมง แถมยังชาร์จเร็ว ที่เต็มภายในเวลาเพียง 1.5 - 2 ชั่วโมงเท่านั้นเอง

7. หูฟังไร้สาย Sony WF-1000XM4 True Wireless

Sony WF-1000XM4 มาพร้อมการปรับปรุงรูปร่างหน้าตาแบบใหม่ทั้งหมด โดยอิงหลักสรีรศาสตร์รวมกับผลลัพท์จากการวิจัยที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 1982 สวมใส่ได้อย่างง่ายดาย สบายหู ในรุ่นนี้ยังสามารถหาจุกที่เหมาะกับขนาดหูผ่าน App Sony | Headphones Connect ได้ด้วย การเชื่อมต่อในรุ่นนี้เลือกใช้ Bluetooth 5.2 เชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็วด้วย Google Fast Pair รองรับ Codec ไร้สายสำหรับฟังเพลง Lossless อย่าง LDAC รองรับการใช้งานแยกข้างได้อย่างอิสระ การตัดเสียงรบกวนก็ได้รับการอัพเกรดมาใหม่ทั้งหมดทำงานร่วมกับไมโครโฟนและชิพใหม่ล่าสุดอย่าง Integrated Processor V1 พร้อมฟังก์ชัน Speak-to-Chat แบบเดียวกับ Sony WH-1000XM4

ใส่ออกกำลังกายได้เป็นที่เรียบร้อยด้วยมาตรฐานกันน้ำกันเหงื่อ IPX4 แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 8 ชั่วโมงเมื่อเปิดโหมดการตัดเสียงรบกวน รองรับการชาร์จเร็วเพียง 5 นาทีสามารถใช้งานได้นานถึง 60 นาที เคสชาร์จเพิ่มใช้งานได้รวมเป็น 24 ชั่วโมง และรองรับการชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi

8. หูฟังไร้สาย SoundPeats MAC True Wireless

SoundPeats MAC เป็นหูฟัง True Wireless ที่ใช้การสวมใส่แบบ In-Ear พร้อมรูปรูปร่างหน้าตาทรงก้านยาวสุดเท่ เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.0 ใช้งานดู YouTube และ Netflix ได้สบายๆ เล่นเกมก็มีอาการดีเลย์เพียงเล็กน้อยและใช้งานแยกข้างซ้าย-ขวาได้อย่างอิสระ พร้อมมาตรฐานกันน้ำกันเหงื่อมาตรฐาน IPX7 และไมโครโฟนที่สามารถรับเสียงได้อย่างคมชัด แม้ขณะกำลังวิ่งอยู่ก็ตาม

ด้านแบตเตอรี่ก็ให้มาแบบจัดเต็มจนเกินระดับราคาใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 9 ชั่วโมงและชาร์จเพิ่มจากเคสได้อีกรวมเป็น 60 ชั่วโมง เรียกได้ว่าแทบจะเป็นหูฟังบลูทูธแนะนําที่ให้แบตเตอรี่อึดที่สุดเท่าที่เคยมีมาในระดับราคาเท่านี้เลยก็ว่าได้

9. หูฟังไร้สาย Jabra Elite 7 Pro True Wireless

Jabra Elite 7 Pro เป็นหูฟัง True Wireless สวมใส่แบบ In-Ear โดดเด่นด้วยการออกแบบที่ได้รับการปรับปรุงมาใหม่ทั้งหมด ถ้ายังไม่แน่ใจว่าหูฟังไร้สายรุ่นไหนดีต้องมารุ่นนี้เลย ด้วยรูปทรงที่คิดค้นมาเป็นอย่างดีจากการแสกนหูผู้เข้าทดสอบมากกว่า 62,000 หู มีฟังก์ชันเด่นคือการตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation (ANC) ที่สามารถตัดเสียงรบกวนได้ถึง 5 ระดับ พร้อมโหมดรับเสียงจากภายนอกหรือ HearThrough ด้านการเชื่อมต่อของ Jabra Elite 7 Pro มาพร้อม Bluetooth เวอร์ชัน 5.2 สนทนาได้คมชัดด้วยไมโครโฟนที่ให้มาถึง 4 ตัว พร้อมเซนเซอร์รับเสียง Voice Pick Up (VPU) และ Jabra MultiSensor Voice™ ที่ตรวจจับการขยับของกระดูกแก้มทำให้สามารถรับเสียงได้คมชัดทุกการติดต่อ

ตอบโจทย์สาย Sport หรือผู้ที่ชื่นชอบในการออกกำลังกายด้วยมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นที่สูงถึงระดับ IP57 และยังมาพร้อมแบตเตอรี่ที่อึดสุดๆ ใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 8 ชั่วโมงจากนั้นชาร์จเพิ่มได้จากเคสชาร์จรวมเป็น 30 ชั่วโมง รองรับการชาร์จเร็วเพียง 5 นาทีใช้งานได้ 1 ชั่วโมง และเคสชาร์จยังพิเศษด้วยการรองรับชาร์จไร้สาย

10. หูฟังไร้สาย Apple AirPods Pro

Apple AirPods Pro มาพร้อมความสมบูรณ์แบบในทุกมิติไม่ว่าจะเป็นการออกแบบที่ทำออกได้สวย ล้ำสมัย และสวมใส่ได้สบายไม่มีความรู้สึกว่าถูกอุดหูแบบ In-Ear ทั่วๆ ไป การควบคุมเป็นแบบบีบที่ก้าน ภายในยังมาพร้อมเซนเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ การเชื่อมต่อใช้เป็น Bluetooth 5.0 พร้อม Chipset Apple H1 ภายในตัวที่ช่วยให้เชื่อมต่อได้เสถียร จะดูคลิปออนไลน์หรือเล่นเกมบน iOS ก็ไม่มีคำว่าดีเลย์แน่นอน นอกจากนี้ตัว AirPods Pro ยังใช้งานกับ Android ได้ด้วยเช่นกัน แต่จะไม่รองรับการใช้งานบางฟังก์ชันบน iOS

จุดเด่นคือการตัดเสียงรบกวนที่ตัดเสียงรบกวนออกไปได้เกือบ 90% ยังตัดเสียงลมได้ รวมถึงฟังก์ชัน Transparency ไมโครโฟนในรุ่นนี้พูดได้เลยว่าเป็นหูฟังที่มีไมค์ชัดมาก สำหรับสาย Sport ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายก็ไม่ทำให้ผิดหวังด้วยมาตรฐานกันน้ำกันเหงื่อ IPX4 พร้อมด้วยแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ต่อเนื่อง 4.5 ชั่วโมง และชาร์จเพิ่มจากเคสได้อีกเป็น 24 ชั่วโมงโดยตัวเคสยังรองรับการชาร์จไร้สายอีกด้วย ด้านเสียงมาพร้อมไดรเวอร์ High-excursion แบบเฉพาะของ Apple และ EQ แบบปรับได้เอง ทำให้เสียงที่ออกมานั้นยอดเยี่ยม ฟังสนุกทุกแนวเพลง และด้วยรีวิวหูฟังไร้สายจากหลายๆ สำนักต่างๆ ที่ให้คะแนนรุ่นนี้อยู่อันดับต้นๆ จึงพลาดไปไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง

11. หูฟังไร้สาย Klipsch T5 II ANC True Wireless

Klipsch T5 II ANC พัฒนามาจากในรุ่น Klipsch T5 II โดยมาพร้อมรูปร่างหน้าตาที่ไม่ต่างจากเดิมนัก แต่โดดเด่นด้วยฟังก์ชันภายในแบบจัดเต็ม ใส่สบายหูทุกเพศทุกวัยและไซส์หูทุกขนาดด้วยจุกซิลิโคนที่ให้มาถึง 6 ไซส์ ด้านการตัดเสียงรบกวน Klipsch T5 II ANC ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ตัดเสียงรบกวนได้สูงถึง 25dB ด้วยไมโครโฟนคู่แบบ Hybrid ประมวลผลเสียงจากทั้ง 2 ทาง Feedforward และ Feedback และยังมาพร้อม Transparency Mode ที่รับเสียงจากภายนอกได้อย่างคมชัดโดยไม่ต้องถอดหูฟังออก

Klipsch T5 II ANC จับมือกับ Bragi แบรนด์หูฟัง True Wireless อัจฉริยะด้วย Bragi Move ภายในตัวที่ทำให้การควบคุมหูฟังนั้นล้ำยุคไปอีกขึ้น ด้วยการควบคุมผ่านการเคลื่อนไหวของศีรษะทั้งพยักหน้าและส่ายหน้าโดยที่ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องใช้มือแตะหูฟังให้ยุ่งยาก และยังมาพร้อมไมโครโฟนสำหรับสนทนาแบบ Beamformingถึง 6 ตัว ด้านแบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่อง 5 ชั่วโมงเมื่อเปิดฟังก์ชันตัดเสียงรบกวน ANC จากนั้นชาร์จเพิ่มจากเคสได้อีก 15 ชั่วโมง รวมแล้วใช้งานได้ยาวนานถึง 20 ชั่วโมง รองรับการชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi รวมถึงตัวหูฟังยังใส่ออกกำลังกายได้สบายๆ ด้วยมาตรฐานกันน้ำ IPX4 สายสปอร์ตไม่ผิดหวังแน่นอน

12. หูฟังไร้สาย Bose QuietComfort Earbuds True Wireless

รุ่นที่ 6 จากแบรนด์ Bose กับซีรี่ส์ Quiet Comfort มาพร้อมดีไซน์การออกแบบที่ดูทันสมัย สวมใส่สบาย ถ้าไม่แน่ใจว่าหูฟังบลูทูธยี่ห้อไหนดีก็ต้องแนะนำ Bose เลยเพราะโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน ANC หรือ Acoustic Noise Cancelling ตามแบบฉบับของ Bose ที่สามารถตัดเสียงรบกวนได้อย่างเงียบสนิท มาพร้อมแบตเตอรี่อายุการใช้งานยาวนานกว่า 6 ชั่วโมง สามารถชาร์จเพิ่มเติมได้ผ่านตัวเคสได้อีกกว่า 12 ชั่วโมง รวมเป็น 18 ชั่วโมง และตัวเคสยังรองรับการชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi อีกด้วย

ตัวสินค้ายังผ่านการรับรองมาตรฐานกันน้ำ IPX4 อีกด้วย ใส่ออกกำลังกายได้สบายๆ เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนด้วยเทคโนโลยี Bluetooth 5.1 ที่ให้ระยะการเชื่อมต่อไกลถึง 10 เมตร รองรับการใช้งานร่วมกับ App Bose Music ด้านเสียงมาพร้อมเทคโนโลยี Active EQ ให้รายละเอียดของเสียงที่ครบถ้วน เสียงเบสสามารถลงได้ลึกและนุ่มนวล เสียงร้องคมชัด รายละเอียดของเครื่องดนตรีมีความสมจริงและมีทิศทางที่ชัดเจน

13. หูฟังไร้สาย Sennheiser Momentum True Wireless 2

Sennheiser Momentum True Wireless 2 ออกแบบมาตามหลักสรีรศาสตร์ ทำให้สวมใส่ได้ง่าย กระชับและสบายหู​ ตัวหูฟังมีน้ำหนักที่เบามากๆ เพียงข้างละ 6 กรัม เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth เวอร์ชัน 5.1 รองรับการใช้งานข้างเดียวแต่ด้วยระบบข้าง Master และ Slave ทำให้ใช้งานแยกข้างได้เฉพาะข้างขวาเท่านั้น แต่ก็ทดแทนด้วยการรองรับ Codec aptX ด้านฟังก์ชันเด่นคือฟังก์ชันตัดเสียงรบกวน ANC ที่ทาง Sennheiser พัฒนามาเป็นอย่างดี และยังมาพร้อมโหมด Transparent Hearing ที่รับเสียงได้ชัดเจนไม่ต่างกับขณะที่ถอดหูฟังอยู่

สำหรับการใช้งานอื่นๆ Sennheiser Momentum True Wireless 2 มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ต่อเนื่อง 7 ชั่วโมง และชาร์จเพิ่มจากเคสได้อีก 21 ชั่วโมงรวมเป็น 28 ชั่วโมง ตอบโจทย์สายออกกำลังกายด้วยมาตรฐานกันน้ำกันเหงื่อ IPX4 ควบคุมง่ายดายด้วยปลายนิ้วสัมผัสรวมถึงเพิ่ม/ลดเสียงได้จากที่ตัวหูฟังโดยตรง รวมถึงยังมาพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ เล่น/หยุดอัตโนมัติ และไมโครโฟนที่รับเสียงสนทนาได้คมชัดไม่พลาดทุกการติดต่อ

14. หูฟัง B&W PI5 True Wireless By Bowers & Wilkins

B&W PI5 เป็นหูฟัง True Wireless สวมใส่แบบ In-Ear โดดเด่นด้วยรูปร่างหน้าตาสุดหรูหรา สวมใส่นั้นสวมใส่ง่าย กระชับหู มาพร้อมฟังก์ชันเด่นอย่างการตัดเสียงรบกวน Advanced noise-cancelling ที่ตัดเสียงได้ยอดเยี่ยมเป็นอันดับต้นๆ ของวงการด้วยไมโครโฟนภายในถึง 4 ตัวที่นอกจากจะรับเสียงรบกวนจากภายนอกเพื่อประมวลผลการตัดเสียงรบกวนแล้วยังใช้รับเสียงสนทนาได้อย่างคมชัด ตัดเสียงแทรกได้ดีไม่พลาดทุกการติดต่อ

สำหรับการเชื่อมต่อ B&W PI5 ใช้การเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth 5.0 ใช้งานฟังเพลงคุณภาพสูงแบบไร้สายได้ด้วยการรองรับ Codec เสียงไร้สายอย่าง aptX รวมถึงยังรองรับการใช้งานแยกข้างซ้าย-ขวาได้อย่างอิสระ ตอบโจทย์การใช้งานสวมใส่ออกกำลังกายด้วยมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP54 ส่วนของแบตเตอรี่ B&W PI5 มาพร้อมแบตเตอรี่ภายในตัวที่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 4 ชั่วโมง จากนั้นชาร์จเพิ่มจากเคสชาร์จได้อีกรวมเป็น 20 ชั่วโมง ตัวเคสชาร์จพกพาสะดวกด้วยน้ำหนักเพียง 47 กรัมเท่านั้นรวมถึงและตัวเคสชาร์จยังรองรับการชาร์จไร้สายได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย

15. หูฟังไร้สาย Master & Dynamic MW08 True Wireless

Master & Dynamic MW08 เป็นหูฟัง True Wireless ที่เป็นการอัพเกรดมาจากในรุ่น Master & Dynamic MW07 สวมใส่ได้สบายจนแทบไม่รู้สึกว่าสวมใส่อยู่ ตัวหูฟังมีความหรูหราและทนทานด้วยการผลิตจากเซรามิค ฟังก์ชันเด่นในรุ่นนี้นั่นคือการตัดเสียงรบกวนที่มีให้เลือก 2 โหมดคือ All Day ANC สำหรับใช้งานตัดเสียงรบกวนในชีวิตประจำวันและ ANC Max หรือตัดเสียงรบกวนอย่างสมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการอยู่ในความเงียบตลอดวัน และตัวหูฟังยังสามารถตัดเสียงลมได้อีกด้วย ส่วนโหมดรับเสียงภายนอกก็มีทั้ง Awareness Mode สำหรับรับเสียงภายนอกเพื่อความปลอดภัย และ Voice Mode สำหรับสนทนากับบุคคลรอบข้างโดยไม่ต้องถอดหูฟัง

ด้านการเชื่อมต่อในรุ่นนี้เลือกใช้เป็น Bluetooth 5.2 รองรับการส่งสัญญาณเสียงไร้สายคุณภาพสูงอย่าง aptX ที่ให้คุณภาพเสียงระดับ CD แบบไร้สาย ด้านการสนทนาก็สามารถรับเสียงได้อย่างคมชัดด้วยไมโครโฟนภายในตัวที่ให้มาถึง 6 ตัวด้วยกัน ในรุ่นนี้ยังได้รับการปรับปรุงในเรื่องของแบตเตอรี่อีกด้วย โดยให้พลังงานที่ยาวนานมากๆ ใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 10 ชั่วโมงเมื่อเปิดโหมดตัดเสียงรบกวนและชาร์จเพิ่มจากเคสได้อีก 30 ชั่วโมงรวมแล้วใช้งานได้นาน 42 ชั่วโมง และสำหรับสายออกกำลังกายก็สบายใจได้ด้วยมาตรฐานกันน้ำกันเหงื่อ IPX5 ในรุ่นนี้

16. หูฟังไร้สาย B&O BEOPLAY EQ True Wireless

และรุ่นสุดท้ายกับ True Wireless ที่ High End ที่สุดในขณะนี้กับ B&O BEOPLAY EQ สวมใส่สบายหูด้วยการออกแบบที่อิงตามหลักสรีรศาสตร์ โดยเป็นผลงานการออกแบบของดีไซเนอร์ชื่อดังอย่าง Thomas Bentzen เลือกใช้วัสดุระดับพรีเมียมที่นอกจากจะมีความหรูหราแล้วยังมีความทนทานสูง ได้แก่ อลูมิเนียมแข็งเกรดเดียวกับที่ใช้ในยานอวกาศ, โพลีเมอร์ และ ซิลิโคนซึ่งตัวหูฟังมีน้ำหนักที่เบาเพียงข้างละ 8 กรัมเท่านั้น มาพร้อมพร้อมฟังก์ชันการตัดเสียงรบกวน Adaptive noise cancelling ที่พัฒนามาเป็นอย่างดี ด้วยไมโครโฟนถึง 6 ตัวที่ยังทำหน้าที่รับเสียงรับเสียงสนทนาโทรศัพท์ได้อย่างคมชัด

ด้านการเชื่อมต่อ B&O BEOPLAY EQ เลือกใช้เป็น Bluetooth เวอร์ชัน 5.2 รุ่นใหม่ล่าสุดรองรับการส่งสัญญาณเสียงคุณภาพสูงแบบไร้สายผ่าน Codec เสียงไร้สายอย่าง aptX™ Adaptive ตอบโจทย์ผู้ที่รักการออกกำลังกายด้วยมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP54 และแบตเตอรี่มาพร้อมระยะการใช้งานที่ยาวนานโดยสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 6.5 ชั่วโมงเมื่อเปิด ANC จากนั้นชาร์จเพิ่มจากเคสได้อีกรวมเป็น 20 ชั่วโมง รองรับการชาร์จเร็วเพียง 20 นาทีสามารถใช้งานได้ถึง 2 ชั่วโมง และตัวเคสยังรองรับการชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi อีกด้วย

สรุป

เป็นยังไงกันบ้างครับกับเหล่าหูฟัง True Wireless และหูฟังไร้สายที่ยกขโยงกันมาแนะนำในบทความนี้ จะเห็นได้ว่ามีตั้งแต่ราคาเบาๆ ไปถึงราคา Hi-End กันเลยทีเดียว ซึ่งนอกจากราคาแล้วฟังก์ชันการใช้งานก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงเทียบกับราคา ซึ่งทางเราเชื่อว่าผู้อ่านที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อหูฟังไร้สายยี่ห้อไหนดีก็น่าจะได้คำตอบและน่าจะมีรุ่นในใจกันอย่างน้อยถึง 2 รุ่นเมื่อได้อ่านรีวิวหูฟังไร้สายจากบทความนี้ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยเป้นตัวเลือกในการตัดสินใจซื้อหูฟังไม่มากก็น้อยครับ สำหรับครั้งนี้ สวัสดีครับ