5 หูฟังอัดเสียงยี่ห้อไหนดี สำหรับนักทำเพลงมืออาชีพ

25 พ.ย. 2565

5 หูฟังอัดเสียงยี่ห้อไหนดี สำหรับนักทำเพลงมืออาชีพ

สำหรับประเภท หูฟัง ที่มีอยู่มากมายหลากหลายประเภทในปัจจุบันอันประกอบไปด้วย หูฟัง หูฟังไร้สาย หูฟังไร้สายบลูทูธ หูฟังไร้สาย True Wireless เป็นต้น หูฟัง ประเภทหนึ่งที่เรียกได้ว่าตอบโจทย์การใช้งานในระดับมืออาชีพ การใช้งานใน Studio และยังถูกนำมาใช้งานอย่างแพร่หลายในฐานะหูฟังสำหรับฟังเพลงที่ให้แนวเสียงได้เที่ยงตรงอีกด้วย นั่นคือ หูฟังอัดเสียง หรืออีกชื่อก็คือ หูฟังมอนิเตอร์ นั่นเอง ด้วยจุดเด่นอย่างการขับเสียงที่แม่นยำ เที่ยงตรง ไม่ผิดเพี้ยน และด้านการออกแบบที่ส่วนใหญ่จะออกแบบมาให้สวมใส่ได้อย่างง่ายดาย สวมใส่ได้สบายเป็นเวลานาน เพื่อตอบโจทย์การใช้งานในการอัดเสียงที่จะต้องใช้เวลานานกว่าการสวมใส่ฟังเพลงในแบบปกติ ซึ่งสาเหตุที่การอัดเสียงต้องการความเที่ยงตรงของเสียงนั้นก็เป็นเพราะเสียงที่อัดได้นั้นจะถูกนำไปปรับแต่งหรือที่เรียกว่า Mix เสียงและนำไปเข้ากระบวนการการทำเพลงต่อไป ทำให้หากหูฟังไม่สามารถให้เสียงที่เที่ยงตรงหรือมีการขับเสียงที่ผิดเพี้ยนไป เสียงที่อัดได้ก็อาจจะผิดเพี้ยนไปจากปกติและเมื่อนำไปเข้าสู้กระบวนการการ Mix เสียงก็จะยิ่งทำให้เสียงที่ได้นั้นมีความผิดเพี้ยนมากยิ่งกว่าเดิมนั่นเอง


และเพื่อเป็นการเอาใจผู้ที่กำลังมองหา หูฟังอัดเสียง และยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกซื้อหรือจับจองรุ่นใดดี หรือไม่แน่ใจว่ารุ่นใดที่จะเพียงพอต่อการใช้งานอัดเสียง หรือการใช้งานฟังเพลงที่ต้องการเสียงที่เที่ยงตรงไม่ผ่านการปรับจูนใดๆ รวมถึงด้านการรูปร่างหน้าตา การสวมใส่ และอื่นๆ ที่จะเหมาะกับความต้องการ ในครั้งนี้ mercular.com จึงได้รวบรวมเอา 5 หูฟังอัดเสียงยี่ห้อไหนดี สำหรับนักทำเพลงมืออาชีพ มาแนะนำเป็นตัวเลือกให้กับผู้อ่านทุกคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีรุ่นใดบ้าง และแต่ละรุ่นจะน่าสนใจแค่ไหนนั้น เราไปดูกันเลยครับ


5 หูฟังอัดเสียง ในบทความนี้


หูฟัง Beyerdynamic T5 3rd Generation Headphone

สเปคเด่น


การสวมใส่: Over Ear


การเชื่อมต่อ: AUX/3.5 mm.


อิมพีแดนซ์: 32 โอห์ม


การตอบสนองความถี่: 5 - 50,000 Hz

5 หูฟังอัดเสียงยี่ห้อไหนดี สำหรับนักทำเพลงมืออาชีพ รุ่นแรกกับ หูฟัง Beyerdynamic T5 3rd Generation Headphone หูฟังอัดเสียงสวมใส่แบบ Over Ear สวมใส่เบาสบายหูด้วยการออกแบบและวัสดุที่เลือกสรรค์มาเป็นอย่างดี พร้อมสเปกเสียงระดับพรีเมียมเพื่อการขับเสียงที่ทรงพลังและสมจริงมากที่สุด โดยเป็นหูฟังมอนิเตอร์มีสายแบบปิด Closed-Back ที่มีข้อดีคือเสียงจากภายนอกจะไม่แทรกเข้ามารบกวนมากนักเพื่อการฟังรายละเอียดเสียงแบบเต็มๆ ส่วนของด้านแนวเสียงมาพร้อมไดรเวอร์ Tesla ที่จัดวางแบบเอียง ทำให้ได้คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมกว่าไดรเวอร์เสียงทั่วๆ ไป มีมีติเสียงที่มีความสมจริงและมีความแม่นยำในทุกตัวโน๊ตและรายละเอียด ด้านสายก็เลือกสรรค์ระดับพรีเมียมด้วยเช่นกัน โดยเลือกใช้สายแบบถักอย่างดีที่ให้ความรู้สึกพรีเมียมและยังมีความแน่นหนาทนทานสูง เชื่อมต่อ 2 ข้าง ซ้าย-ขวา Double-Sided สามารถถอดเปลี่ยนได้อย่างอิสระรวมถึงภายในเลือกใช้ตัวนำไฟฟ้าจากทองแดง OCC 7N copper ใช้งานได้อย่างหลากหลาย ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานระดับมืออาชีพและการใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วๆ ไป ด้วย Impedance ที่ 32 Ohms ทำให้ไม่ต้องใช้แรงขับเสียงที่มากนักก็สามารถขับเสียงได้อย่างครบถ้วนในทุกรายละเอียดเสียง ทั้งการใช้งานกับ Smartphone หรือจะใช้งานกับ Amp ระดับ Hi-Fi รวมถึง Amp หูฟังทั่วๆ ไปก็ยังได้

หูฟัง Beyerdynamic T5 3rd Generation Headphone เสียงดี

หูฟัง Beyerdynamic DT 900 PRO X Studio Headphone

สเปคเด่น


การสวมใส่: Over Ear


การเชื่อมต่อ: AUX/3.5 mm.


อิมพีแดนซ์: 48 โอห์ม


การตอบสนองความถี่: 5 - 50,000 Hz

รุ่นที่ 2 ของ 5 หูฟังอัดเสียงยี่ห้อไหนดี สำหรับนักทำเพลงมืออาชีพ กับ หูฟัง Beyerdynamic DT 900 PRO X Studio Headphone หูฟังอัดเสียงสวมใส่แบบ Over Ear แบบเปิด Open-Back ข้อดีคืออากาศสามารถถ่ายเทได้เป็นอย่างดี สวมใส่ได้นานตลอดวันด้วยการเลือกใช้วัสดุที่ทั้งนุ่มนวลสบายหูอย่างผ้า Velour ที่มีผิวสัมผัสที่ลื่นนุ่ม รวมถึงระบายอากาศและความชื้นได้ดี ภายในเลือกใช้เป็น Memory Foam ที่สามารถซึมซับแรงกดทับได้เป็นอย่างดี คืนรูปได้อย่างรวดเร็ว ส่วนคาดศีรษะหรือ Headband ใช้วัสดุโลหะน้ำหนักเบาและมีความทนทานสูง การันตีด้วยมาตรฐานงานผลิตจากประเทศเยอรมัน จุดเด่นคือการออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างหลากหลายทั้งในระดับมืออาชีพ ใน Studio เช่นการอัดเสียง มิกซ์เสียง Master เสียงที่ต้องการความแม่นยำของเสียงที่สูงมากแบบที่ไม่ต้องการความผิดเพี้ยนของเสียง และยังตอบโจทย์การฟังเพลงในบ้าน ที่ทำงาน หรือพกพาติดตัวไปด้วยทุกที่ด้วยน้ำหนักที่เบาเพียง 345 กรัม สามารถเล่นเพลงผ่าน Smartphone หรือเครื่องเล่นเพลงได้ทุกชนิดอย่างครบถ้วนทุกรายละเอียดเสียง ด้วยไดรเวอร์พิเศษจาก Beyerdynamic อย่าง Stellar.45 และแรงขับเพียง 48 โอห์ม

หูฟัง Beyerdynamic DT 900 PRO X Studio Headphone เสียงดี

หูฟัง Audio-Technica ATH-R70x Headphone

สเปคเด่น


การสวมใส่: Over Ear


การเชื่อมต่อ: AUX/3.5 mm.


อิมพีแดนซ์: 470 โอห์ม


การตอบสนองความถี่: 5 - 40,000 Hz

5 หูฟังอัดเสียงยี่ห้อไหนดี สำหรับนักทำเพลงมืออาชีพ รุ่นที่ 3 กับ หูฟัง Audio-Technica ATH-R70x Headphone หูฟังอัดเสียงสวมใส่แบบ Over Ear แบบ Open-Back เปิดหลัง โดดเด่นด้วยฝาครอบด้านนอกที่ทำจาก Aluminium ออกแบบมาให้เป็นรูปรังผึ้งที่มีข้อดีคือทำให้น้ำหนักเบาและยังให้เสียงรวมถึงอากาศผ่านได้ดี ออกแบบมาเพื่อใช้งานใน Studio สำหรับการมิกซ์เสียงและ Master เสียง ด้วยแนวเสียงของตัวหูฟังที่เป็นกลางมากที่สุด ไม่ว่าจะเสียงสูงก็ทอดไปได้ไกลมากๆ และเสียงต่ำก็ลงได้ลึกมากๆ โดยมีย่านความถี่อยู่ที่ 5 - 40,000 Hz ออกแบบมาให้ใส่ได้สบายเป็นเวลานาน สำหรับการทำงานที่ต้องฟังเพลงยาวๆ ด้วยน้ำหนักที่เบาเพียง 210 กรัมเท่านั้น รวมถึงการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์อย่าง 3D Wing Support ที่จะช่วยประคองตัวหูฟังไว้บนศีรษะโดยไม่รู้สึกหนักหรือทำให้ล้าแต่อย่างใด

หูฟัง Audio-Technica ATH-R70x Headphone เสียงดี

หูฟัง Audio-Technica ATH-M50x Headphone

สเปคเด่น


การสวมใส่: Over Ear


การเชื่อมต่อ: AUX/3.5 mm.


อิมพีแดนซ์: 45 โอห์ม


การตอบสนองความถี่: 5 - 20,000 Hz

รุ่นที่ 4 ของ 5 หูฟังอัดเสียงยี่ห้อไหนดี สำหรับนักทำเพลงมืออาชีพ กับ หูฟัง Audio-Technica ATH-M50x Headphone หูฟังอัดเสียงสวมใส่แบบ Over Ear แบบปิด Closed-Back ที่ออกแบบมาเพื่อการสวมใส่ที่เบาสบายหูมากที่สุด ตอบโจทย์การสวมใส่เป็นเวลานานติดต่อกัน เช่น การทำเพลงใน Studio การทำงานบนเวทีแสดงสด หรือแม้แต่การสวมใส่ฟังเพลงเพลินๆ ตลอดวัน โดยปราศจากปัญหาเรื่องการอึดอัดเมื่อสวมใส่และความระคายหูหลังจากที่สวมใส่มาเป็นเวลานาน ด้วยน้ำหนักที่เบาเพียง 285 กรัม ตอบโจทย์ศีรษะของผู้ใช้งานทุกขนาด ด้วยความสามารถในการปรับระดับของหูฟังได้อย่างอิสระถึง 10 ระดับ ทำให้ไม่ว่าผู้สวมใส่จะมีศีรษะใหญ่เพียงใดก็ไม่มีปัญหาเรื่องการสวมใส่อย่างแน่นอน นอกจากนี้ตัวหูฟังยังทำจากวัสดุที่คัดเลือกมาเป็นอย่างดีทั้งส่วนของ Earcup ที่มีความนุ่มสบายหู รวมถึงโครงของตัวหูฟังที่มีความแข็งแรงทนทานและยืดหยุ่นสูง นอกจากนกี้ตัวหูฟังยังสามารถพับเก็บได้ตอบโจทย์การพกพาคู่ใจไปในทุกที่ ด้านการใช้งานรองรับทั้งการใช้งานในระดับมืออาชีพและการใช้งานในระดับไลฟ์สไตล์ทั่วๆ ไป ด้วยไดรเวอร์ภายในที่เลือกสรรค์มาเป็นอย่างดีแบบ Dynamic Driver ขนาดข้างละ 45 มิลลิเมตร ผ่านการปรับจูนเสียงโดย Audio-Technica เพื่อเสียงที่เที่ยงตรงเพื่อตอบโจทย์การใช้งานใน Studio ที่ต้องการแนวเสียงที่มีความแม่นยำ รวมถึงยังสามารถนำไปใช้งานฟังเพลงทั่วๆ ไปก็ได้เช่นกัน

หูฟัง Audio-Technica ATH-M50x Headphone เสียงดี

หูฟัง Yamaha HPH-MT7 Monitor Headphone

สเปคเด่น


การสวมใส่: Over Ear


การเชื่อมต่อ: AUX/3.5 mm.


อิมพีแดนซ์: 49 โอห์ม


การตอบสนองความถี่: 15 - 25,000 Hz

5 หูฟังอัดเสียงยี่ห้อไหนดี สำหรับนักทำเพลงมืออาชีพ รุ่นสุดท้ายกับ หูฟัง Yamaha HPH-MT7 Monitor Headphone หูฟังอัดเสียงสวมใส่แบบ Over Ear แบบ Closed-Back ที่สามารถกันเสียงรบกวนจากภายนอกแบบ Passive ได้เป็นอย่างดี มีตัว Earcup ขนาดที่ใหญ่และน้ำหนักที่เบาพอที่จะใส่เป็นระยะเวลานานได้อย่างสบายๆ ออกแบบให้ตัวหูฟังสามารถพับเก็บได้จึงทำให้พกพาได้อย่างสะดวกและสามารถนำไปใช้ได้ทุกที่ทุกโอกาสไม่ว่าจะเป็นนำไปทำงานหรือฟังเพลงอยู่บ้าน สามารถปรับตำแหน่งและขนาดของ Headband ได้อย่างละเอียดโดยเป็นการปรับทั้งระยะของ headband และปรับองศาของ Earcup ได้ทุกรูปแกนแบบ 3 มิติ ใช้ Driver แบบ Dynamic ที่ทาง Yamaha ออกแบบมาเป็นพิเศษขนาด 40 มิลลิเมตร ที่ใช้ Voice coil แบบ Copper-Clad Aluminum Wire (CCAW) น้ำหนักเบาและแม่เหล็กพลังสูง neodymium ตอบสนองความถี่ได้กว้าง และให้เสียงที่ Flat และแม่นยำมากๆ นอกจากนี้ยังถูกออกแบบให้มีความทนทานสูงไม่ว่าจะเป็นภายนอกที่ทำจากพลาสติก ABS หนาเป็นพิเศษ ตัวของ Driver ยังได้ออกแบบให้ภายในรองรับการใช้งานจาก Amplifier ได้สูงสุดถึง 1600mW หมดห่วงเรื่อง Voice coil ขาดเมื่อใช้ร่วมกับแอมป์แรงขับสูงๆ

หูฟัง Yamaha HPH-MT7 Monitor Headphone เสียงดี

เป็นยังไงกันบ้างครับกับ 5 หูฟังอัดเสียงยี่ห้อไหนดี สำหรับนักทำเพลงมืออาชีพ ที่ทาง mercular.com ได้คัดเลือกมาแนะนำกันในครั้งนี้ โดยแต่ละรุ่นที่เลือกมานั้นรับรองได้เลยว่าเป็น หูฟังอัดเสียง ที่ไม่เพียงแต่ให้เสียงที่แม่นยำ เที่ยงตรง ตอบโจทย์การใช้งานอัดเสียงและการมิกซ์เสียงใน Studio เท่านั้น แต่ยังมาพร้อมรูปร่างหน้าตาที่มีความพรีเมียม การสวมใส่ที่สบายหู สวมใส่ได้ต่อเนื่องเป็นเวลานานโดยไม่ทำให้รู้สึกระคายหู และยังมีความทานทานสูงอีกด้วย รับรองได้ว่าทั้ง 5 รุ่นที่นำมาแนะนำนั้นตอบโจทย์คนที่มองหา หูฟังอัดเสียง และไม่รู้ว่าจะซื้อรุ่นไหนดีอย่างแน่นอนครับ


ซึ่งทาง mercular.com ก็หวังเป็นอย่างยิ่งครับว่าในบรรดา หูฟังอัดเสียง ทั้งหมดจะมีรุ่นที่อยู่ในใจของผู้อ่านกันบ้างอย่างน้อยที่สุดก็ 1 รุ่น และหากอ่านแล้วรู้สึกอยากจับจอง หูฟังอัดเสียง รุ่นไหนหรืออยากเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถกดเข้าไปตามลิงค์ที่ให้ไว้ในแต่ละรุ่นได้เลยครับ ท้ายนี้ mercular.com ก็ต้องขอตัวลาไปก่อน ครั้งหน้าหากมีสินค้าใหม่ๆ รุ่นใดน่าสนใจอีก ก็จะรีบนำมาแนะนำกันแน่นอนครับ สำหรับครั้งนี้ สวัสดีครับ

best-seller-ads
article-banner-1
article-banner-2