แนะนำ 5 ชุดลำโพงโฮมเธียเตอร์ไร้สาย เสียงสมจริงรอบทิศทาง
5 ม.ค. 2566
หากจะให้พูดถึงไลฟ์สไตล์การรับชมภาพยนตร์ในปัจจุบันก็ต้องยอมรับเลยว่ามีการพัฒนาทางเทคโนโลยีไปไกล ไลฟ์สไตล์หรือขั้นตอนการในการรับชมนั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิงจากเดิมที่จะต้องไปรับชมที่ภาพยนตร์เมื่อมีภาพยนตร์เข้าฉายใหม่ หรือในกรณีที่ภาพยนตร์ออกจาโรงไปแล้วหากต้องการรับชมก็สามารถออกไปซื้อหรือเช่าแผ่น DVD, Blu-Ray กลับมารับชมที่บ้านได้ เรียกได้ว่าเป็นขั้นตอนที่วุ่นวายพอสมควร และเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีการรับชมภาพยนตร์ในปัจจุบันที่ผู้ใช้งานสามารถรับชมภาพยนตร์และซีรีส์ได้หลากหลายเรื่องจากที่บ้านผ่านเทคโนโลยีการสตรีมมิ่งภาพยนตร์บน Application ต่างๆ เช่น Netflix, Amazon Prime, Disney+ hotstar และอื่นๆ ที่สามารถรับชมภาพยนตร์และซีรีส์ได้จากที่บ้านโดยไม่ต้องเสียเวลาออกไปข้างนอกเพื่อไปโรงภาพยนตร์หรือไปหา DVD หรือ Blu-Ray ซึ่งจุดเด่นของการรับชมภาพยนตร์ผ่านแอปสตรีมมิ่งไม่ได้มีแค่ความสะดวกสบายเท่านั้น แต่ในเรื่องของคุณภาพในส่วนของภาพและเสียงนั้นก็เรียกได้ว่าทำได้อย่างยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน โดยในส่วนของเสียงก็รองรับระบบเสียงที่สมจริงไม่แพ้กับระบบเสียงในโรงภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นระบบเสียง Stereo, Dolby Digital Surround 5.1 ไปจนถึงเสียงรอบทิศทางสมจริงแบบชุดโฮมเธียเตอร์ Dolby Atmos เลยทีเดียว ที่แน่นอนว่าการจะรับชมภาพยนตร์ให้ได้ทั้งภาพและเสียงที่สมบูรณ์แบบสูงสุดนั้นก็จำเป็นที่จะต้องมีทั้ง TV และลำโพงที่รองรับ โดยส่วนของ TV ก็จะต้องเป็น TV ที่รองรับภาพแบบ 4K และสีสันแบบ HDR หรือ Dolby Vision และในส่วนของระบบเสียงหากต้องการประสบการณ์เสียงแบบรอบทิศทางสมจริงก็จำเป็นที่จะต้องมีระบบลำโพง Home Theater ในการขับเสียงให้สมบูรณ์แบบมากที่สุด และด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันที่พัฒนาไปไกลมากๆ ก็ทำให้มี Home Theater ที่รองรับการเชื่อมต่อทั้งแบบมีสายและแบบไร้สายมาให้ผู้ใช้งานได้เลือกซื้อและจับจองเป็นเจ้าของตามความสะดวกของผู้ใช้งานว่าชอบการเชื่อมต่อแบบไร้สายหรือมีสายมากกว่านั่นเอง
และเพื่อเป็นการเอาใจผู้ที่กำลังมองหาลําโพงโฮมเธียเตอร์ และยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกซื้อหรือจับจองยี่ห้อไหนดีหรือไม่แน่ใจว่ารุ่นใดจะมาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่โดดเด่นเหมาะกับตนเองมากที่สุด จาก Home Theater ไร้สาย หลากหลายรุ่นที่มีให้ได้เลือกซื้อและจับจองเป็นเจ้าของ ในครั้งนี้ Mercular จึงได้รวบรวมเอา แนะนำ 5 Home Theater ไร้สาย เสียงสมจริงรอบทิศทาง มาแนะนำเป็นตัวเลือกให้กับผู้อ่านทุกคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีรุ่นใดบ้าง และแต่ละรุ่นจะน่าสนใจแค่ไหนนั้น เราไปดูกันเลยครับ
5 Home Theater ไร้สาย ในบทความนี้
ลำโพง JBL Bar 9.1 Dolby Atmos Soundbar
สเปคเด่น
การเชื่อมต่อ: WiFi 2.4/5 GHz, Ethernet, Bluetooth 4.2, HDMI, Optical, USB
การตอบสนองความถี่: -
กำลังขับสูงสุด: 820W
Subwoofer: มี
Home Theater ไร้สาย รุ่นแรกกับ ลำโพง JBL Bar 9.1 Dolby Atmos Soundbar ลำโพง Home Theater ไร้สายที่มาพร้อมรูปทรงสุดเท่โดยมีขนาดอยู่ที่ W: 884 x H: 62 x D: 120 มิลลิเมตร ส่วนของ Surround อยู่ที่ข้างละ 173 x 60 x 120 มิลลิเมตร และซับวูฟเฟอร์ไร้สายขนาดอยู่ที่ W: 305 x H: 440 x D: 305 มิลลิเมตร ส่วนของการเชื่อมต่อครบถ้วน ทั้งการเชื่อมต่อกันระหว่างตัวลำโพง Surround และ Subwoofer ที่เชื่อมต่อแบบไร้สายทั้งหมด ส่วนของการเชื่อมต่อเข้า Network ผ่าน Wifi รองรับทั้งคลื่น 2.4 และ 5 GHz รวมถึง Ethernet ส่วนของการเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth 4.2 และแบบมีสายรองรับ HDMI และ Optical จุดเด่นของรุ่นนี้เลยก็คือเรื่องของระบบเสียงรอบทิศทางที่สมจริงสุดๆ ถึง 5.1.4 หรือ 9.1 Channel ที่สำคัญคือรองรับระบบเสียง 3 มิติ 3D Dolby ATMOS อีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นระบบ Surround แบบ True Surround เพราะสามารถถอดแยกชิ้นลำโพงออกมาวางในตำแหน่งและทิศทางที่ต้องการได้อย่างอิสระ ภายในมาพร้อมไดรเวอร์ขับเสียงที่ครบถ้วนทั้งไดรเวอร์ Racetrack Drivers 4 ตัว ไดรเวอร์ Tweeter ขนาด 0.75 นิ้ว 3 ตัว และไดรเวอร์ยิงขึ้นด้านบน Up-Firing Full-Range Drivers อีก 2 ตัว ส่วนของลำโพง Surround ถอดได้มาพร้อมไดรเวอร์ Tweeter ขนาด 0.75 นิ้วข้างละ 1 ตัวและ Up-Firing Full-Range Drivers อีกข้างละ 1 ตัว และ Subwoofer ที่ให้ไดรเวอร์ Woofer ขนาดใหญ่ถึง 10 นิ้วมาอีกด้วย การส่งสัญญาณรองรับ Ultra 4K Passthrough, Dolby Vision และรองรับการ Streaming ภาพและเสียงจากทั้ง 2 ค่ายคือ Google Chromecast และ Apple AirPlay 2 ได้แบบไม่มีปัญหา
ลำโพง Samsung HW-Q990B/XT Soundbar
สเปคเด่น
การเชื่อมต่อ: WiFi, Bluetooth, HDMI eARC, Optical, USB
การตอบสนองความถี่: -
กำลังขับสูงสุด: 656W
Subwoofer: มี
Home Theater ไร้สาย รุ่นที่ 2 กับ ลำโพง Samsung HW-Q990B/XT Soundbar ลำโพง Home Theater ไร้สายตัวท็อปสุดของแบรนด์ Samsung ที่ออกมาทำตลาดแทนที่รุ่น HW-Q950A อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ทันสมัย สเปกจัดเต็มตอบโจทย์ทุกความบันเทิง ระบบเสียงเป็นแบบ 11.1.4 ch มาพร้อมลำโพงเซอร์ราวด์ซ้าย/ขวา 2 ตัว และซับวูฟเฟอร์ไร้สาย รองรับระบบเสียง Dolby Atmos และ DTS: X เต็มรูปแบบ กำลังขับรวม 656W ให้พลังเสียงกระหึ่มเพียงพอสำหรับทุกความบันเทิงไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง และเล่นเกม ด้านฟังก์ชันการใช้งานครบครันอาทิ Q-Symphony ซิงค์กับทีวี Samsung เพื่อสร้างเสียงที่สมจริง, SpaceFit Sound+ ปรับเสียงให้เหมาะกับห้อง, Tap Sound แต่สมาร์ทโฟนเพื่อเล่นเพลง, Adaptive Sound ปรับเสียงให้เหมาะสมกับแต่ละฉาก, Game Mode Pro ปรับเสียงให้เหมาะกับการเล่นเกม, Active Voice Amplifier เพิ่มความคมชัดของเสียงพูด นอกจากนี้ยังได้รับการปรับจูนเสียงโดย California Audio Lab เพื่อเสียงที่สมบูรณ์แบบจากทุกมุมห้อง ในส่วนของการเชื่อมต่อนั้นครบถ้วนทั้ง Bluetooth, WiFi, HDMI eARC, Optical รองรับการสตรีมเนื้อหาผ่าน Chromecast, AirPlay 2, Spotify Connect รองรับการสั่งการด้วยเสียง Google Assistant, Amazon Alexa รวมถึงสามารถเชื่อมต่อแอปฯ SmartThings สำหรับควบคุมและตั้งค่าลำโพง นอกจากนี้ยังมาพร้อม One Remote Control รีโมตเดียวควบคุมได้ทุกอย่างทั้งซาวด์บาร์ ซับวูฟเฟอร์ และทีวี
ลำโพง Klipsch Cinema 600 + Surround 3 Soundbar
สเปคเด่น
การเชื่อมต่อ: Bluetooth, HDMI ARC, AUX/3.5 mm., Optical
การตอบสนองความถี่: 120 - 20,000 Hz
กำลังขับสูงสุด: -
Subwoofer: มี
Home Theater ไร้สาย รุ่นที่ 3 กับ ลำโพง Klipsch Cinema 600 + Surround 3 Soundbar โดดเด่นทั้งในเรื่องของแนวเสียง, ไดรเวอร์แบบพิเศษ, เทคโนโลยีเฉพาะ และรูปร่างหน้าตารวมถึงวัสดุที่มีความคลาสสิคแต่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย มาพร้อมขนาดความยาว 45 นิ้ว ระบบเสียง 3.1 พร้อม Subwoofer ขนาดใหญ่ 10 นิ้ว ที่ให้เสียงกระหึ่ม สมจริง พร้อมรูปลักษณ์สุดคลาสสิค ตั้งวางไว้บริเวณใดก็ดูน่าหลงใหล เชื่อมต่อง่ายดายและครบครันทั้งมีสายและไร้สาย เหมาะใช้งานกับ TV ขนาด 45 นิ้วขึ้นไป เรื่องเสียงทำได้กระหึ่มและดังถึงใจ จะเป็นห้องนอนขนาดใหญ่เตียง King Size หรือห้องนั่งเล่น ขนาด 4 ตารางเมตรขึ้นไป ไปจนถึงห้องทานข้าวแบบโต๊ะใหญ่นั่ง 6 คนขึ้นไปก็ไม่มีปัญหา สำหรับชุด Home Theater จาก Klipsch และเมื่อเพิ่มลำโพง Surround เข้าไประบบเสียงก็จะกลายเป็น True Surround 5.1 โดยการเชื่อมต่อนั้นง่ายดายมากๆ และเป็นแบบไร้สายเพียงเชื่อมต่อ Dongle ของ Surround 3 เข้าที่ด้านข้างของ Klipsch Cinema 600 จากนั้นกด Pair ก็เป็นอันเชื่อมต่อเรียบร้อย ตัว Surround จะเชื่อมต่อและประมวลผลออกมาเป็นระบบเสียง 5.1 ให้โดยอัตโนมัติ
ลำโพง Klipsch Cinema 800 + Surround 3 Sound Bar
สเปคเด่น
การเชื่อมต่อ: WiFi, Ethernet, Bluetooth, HDMI-ARC, HDMI-eARC, AUX/3.5 mm., RCA
การตอบสนองความถี่: -
กำลังขับสูงสุด: -
Subwoofer: มี
Home Theater ไร้สาย รุ่นที่ 4 กับ ลำโพง Klipsch Cinema 800 + Surround 3 Sound Bar มาพร้อมขนาดที่ต้องบอกเลยว่าใหญ่กำลังดีที่ W: 48” x H: 2 ⅞” x D: 3 ⅜” หรือความยาวที่ 48 นิ้ว ส่วน Subwoofer อยู่ที่ W: 14 ¼” x H: 18 ½” x D: 14 ½” วัสดุเลือกใช้เป็นไม้แท้พร้อมรูปทรงแบบแท่งยาวที่คลาสสิคเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Klipsch ตอบโจทย์การใช้งานกับ TV ขนาด 48 นิ้วขึ้นไป สามารถตั้งวางได้ทั้งบนตู้และแขวนติดผนังได้ตามต้องการ ด้านการเชื่อมต่อไร้สายผ่าน WiFi สำหรับใช้งานเป็นลำโพงอัจฉริยะและใช้งานเป็นลำโพง Multi-Room รองรับการใช้งานกับระบบ Smart Home ในบ้านทั้ง Google Assistant, Amazon Alexa และ Spotify Connect และไร้สาย Bluetooth สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่รองรับ ส่วนการเชื่อมต่อมีสายรองรับทั้ง HDMI-eARC ส่งสัญญาณภาพผ่านแบบ 8K HDR Passthrough และเสียงผ่าน AUX/3.5 mm., Optical Digital รวมถึงเชื่อมต่อ Subwoofer แบบมีสายผ่าน RCA ควบคุมจากระยะไกลได้ผ่านรีโมทที่จะมีไฟ LED Backlit อยู่ในตัว รวมถึงรองรับการใช้งานกับ App Klipsch ด้านไดรเวอร์ประกอบไปด้วยไดรเวอร์ย่านต่างๆ ได้แก่ ไดรเวอร์เสียงสูงทีเลือกใช้ Tweeters แบบ Soft Dome ขนาด 1” 3 ตัว ควบคู่ไป Tractrix® horns อันเป็นเอกลักษณ์ของชุด Home Theater จาก Klipsch และไดรเวอร์เสียงกลางเลือกใช้ไดรเวอร์แบบ Oval Fiber Composite Cone Woofers ขนาด 3” 4 ตัว ส่วน Subwoofer มาพร้อมไดรเวอร์ Woofer ขนาด 10” ที่ต้องบอกเลยว่าใหญ่และยิงเบสได้กระหึ่มถึงใจสุดๆ ขับเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos 5.1 ให้ประสบการณ์ไม่แพ้ในโรงภาพยนตร์
ชุดลำโพง Sony HT-A9 Home Theater
สเปคเด่น
การเชื่อมต่อ: WiFi, Ethernet, Bluetooth, HDMI eARC, S-Center Out
การตอบสนองความถี่: -
กำลังขับสูงสุด: 504W
Subwoofer: ไม่มี
Home Theater ไร้สาย รุ่นสุดท้ายกับ ชุดลำโพง Sony HT-A9 Home Theater Home Theater ไร้สายที่พกพาเอาสเปกและฟังก์ชันการใช้งานมาในแบบที่เรียกได้ว่าอัดแน่นจนเกินตัว รวมไปถึงด้านรูปร่างหน้าตาการออกแบบที่มีความเรียบหรู โดดเด่นในสไตล์ของ Sony อีกด้วย โดยจุดเด่นคือแม้จะมีตัวลำโพงเพียงแค่ 4 ตัว แต่ด้วยเทคโนโลยี 360 Spatial Sound Mapping ของ Sony ทำให้สามารถขับเสียงได้ในระบบเสียงแบบ 12 Channel รองรับระบบเสียงรอบทิศทางสมจริงทั้ง Dolby Atmos® และ DTS:X® ให้ประสบการณ์ในการรับชมภาพยนตร์และเล่นเกมในแบบสมจริง และด้วยตัวลำโพงที่มีเพียง 4 ตัวพร้อมระบบวัดตำแหน่งผ่านไมโครโฟนคู่ภายในทำให้ตัวลำโพงสามารถจูนระดับเสียงให้ถูกต้องและพอดีได้เองโดยที่ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องจัดวางให้ทำมุมพอดีหรือหาโต๊ะมาตั้งให้ลำโพงสูงพอดีกันจนวุ่นวาย รวมถึงยังเหมาะกับการใช้งานในห้องแทบทุกประเภทที่มีขนาดและรูปทรงของห้องที่แตกต่างกันอีกด้วย ในส่วนของการเชื่อมต่อไร้สายนั้นรองรับการเชื่อมต่อทั้ง Bluetooth และ WiFi รวมถึงยังรองรับการใช้งานแบบ Multi-Room อีกด้วย ด้านตัวลำโพงทั้ง 4 ตัวนั้นจะใช้การเชื่อมต่อกันแบบไร้สาย ส่วนการเชื่อมต่อแบบมีสายนั้นรองรับ HDMI eARC รองรับบริการ Streaming ต่างๆ อย่างครบครัน เช่น Spotify Connect™, Google Chromecast และ Apple AirPlay 2 ในส่วนของสเปกและการขับเสียงมาพร้อมกับเทคโนโลยี Sound Field Optimization สำหรับการตรวจวัดระยะห่างระหว่างลำโพงและเพดานเพื่อการขับเสียงที่ถูกต้อง สมจริง และเหมาะกับรูปแบบห้อง ภายในตัวลำโพงมาพร้อมการออกแบบที่ทำให้ขับเสียงได้อย่างสมจริงประกอบไปด้วย Up-firing (X-Balanced Speaker Unit) สำหรับขับเสียงขึ้นเพดาน, Wide Directivity Woofer (X-Balanced Speaker Unit) หรือ วูฟเฟอร์ทิศทางเสียงกว้าง ที่ออกแบบมาให้ขับเสียงเบสได้มีมิติ กว้าง และสมจริงมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ลําโพงโฮมเธียเตอร์รุ่นนี้ ยังมาพร้อมเทคโนโลยี DSEE Extreme™ (Digital Sound Enhancement Engine) ที่จะปรับเสียงจากไฟล์ความละเอียดต่ำให้มีความใกล้เคียงกับเสียงต้นฉบับหรือเสียงระดับ Hi-Res
เป็นยังไงกันบ้างครับกับ แนะนำ 5 Home Theater ไร้สาย เสียงสมจริงรอบทิศทาง ที่ทาง Mercular ได้คัดเลือกมาแนะนำกันในครั้งนี้ โดยแต่ละรุ่นที่เลือกมานั้นรับรองได้เลยว่าเป็น Home Theater ไร้สาย ที่มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วน จัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของรูปร่างหน้าตาที่มีความพรีเมียม ฟังก์ชันการใช้งานที่จัดเต็มทั้งในเรื่องการเชื่อมต่อที่ครบครันทั้งไร้สายและมีสาย ระบบเสียงที่มีความสมจริง จนไปถึงชุดโฮมเธียเตอร์ Dolby Atmos พูดได้เลยว่าทั้ง 5 รุ่นที่นำมาแนะนำนั้นตอบโจทย์คนที่มองหา Home Theater ไร้สาย และไม่รู้ว่าจะซื้อยี่ห้อไหนดีอย่างแน่นอนครับ
ซึ่งทาง mercular.com ก็หวังเป็นอย่างยิ่งครับว่าในบรรดา Home Theater ไร้สาย ทั้งหมดจะมีรุ่นที่อยู่ในใจของผู้อ่านกันบ้างอย่างน้อยที่สุดก็ 1 รุ่น และหากอ่านแล้วรู้สึกอยากจับจอง Home Theater ไร้สาย รุ่นไหนหรืออยากเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถกดเข้าไปตามลิงค์ที่ให้ไว้ในแต่ละรุ่นได้เลยครับ ท้ายนี้ Mercular ก็ต้องขอตัวลาไปก่อน ครั้งหน้าหากมีสินค้าใหม่ๆ รุ่นใดน่าสนใจอีก ก็จะรีบนำมาแนะนำกันแน่นอนครับ สำหรับครั้งนี้ สวัสดีครับ