แจ็คหูฟังมีกี่แบบ แบบไหนต่างกันยังไง
9 พ.ค. 2565
ต่อให้คุณเป็น Audiophile ผู้ช่ำชองในเสียงดนตรี หรือนักเรียนมอต้นบ้านๆ คนหนึ่ง ทุกคนก็น่าจะรู้จักกับเจ้า “แจ๊คหูฟัง” หรือที่เรารู้จักกันดีอย่าง แจ็ค 3.5 มม. หรือมินิแจ็คอย่างดี เพราะเจ้าขั้วต่อที่ว่านี้อยู่บนสายหูฟังแทบจะทุกตัว และแทบจะเป็นหนึ่งใน Standard ของพอร์ตการเชื่อมต่อหูฟังเท่าโลก และถึงแม้ว่าหูฟังในปัจจุบันหลายๆ รุ่นจะเปลี่ยนเป็นแบบไร้สายหรือหูฟัง True Wireless ซะส่วนใหญ่แล้ว แต่หูฟังมีสายต่างๆ นั้นก็คงได้รับความนิยมมาตลอดเวลา และในวันนี้ เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับแจ็คหูฟังกันให้มากขึ้น ว่าแจ็คหูฟังมีกี่แบบ แล้วแต่ละแบบนั้นต่างกันแค่ไหน เรามาดูไปพร้อมๆ กันเลย
แจ็คหูฟัง คืออะไร
แจ็คหูฟัง (Headphone Jack) หรือที่เรืยกันแบบทางการว่า Phone Jack นั้นเป็นหนึ่งในขั้วปลั๊กสัญญาณเสียงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งเราจะพบได้ในแทบจะทุกอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับเสียง และด้วยความที่หัวแจ็คนั้นค่อนข้างที่จะใช้งานง่าย เพียงแค่เสียบเข้ากับช่องตัวเมียก็สามารถใช้งานได้ทันที ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องทิศทางของขั้ว แค่เสียบเข้าไปตรงๆ ก็สามารถใช้งานได้แล้ว
โครงสร้างของแจ็คหูฟังนั้นจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ เลยก็คือขั้วดิน (Sleeve) ที่เป็นส่วนปลายที่ติดกับฝั่งสายสัญญาณหรืออุปกรณ์ต่างๆ และขั้วบวก (Tip) ที่จะเสียบเข้าไปในอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งระหว่างกลางนั้นก็จะมีตัวนำ (Conductor) ต่างๆเป็นวงรอบ ที่จะส่งผลต่อเสียงและประเภทของแจ็คตัวนั้นๆ
ซึ่งสำหรับคนที่ใช้หูฟัง ลำโพงทั่วไปนั้น ส่วนใหญ่ก็น่าจะคุ้นเคยกับ Jack 3.5 mm. กันเป็นอย่างดี แต่แจ็คนั้นไม่ได้มีแค่ขนาดดังกล่าวแค่อย่างเดียว แล้วแจ็คหูฟังนั้นมีกี่แบบกันบ้าง เราจะมาดูไปพร้อมๆ กันเลย
แจ็คหูฟังตามขนาด
สิ่งหนึ่งที่หลายๆ คนน่าจะเห็นผ่านตากันมาบ้างก็คือขนาดของหัวแจ็ค ซึ่งแจ็คหูฟังตามขนาดนั้นจะมีอยู่ 3 ประเภทหลักๆ ตาขนาดของเส้นผ่าศูนย์กลางของตัวแจ็คเอง ได้แก่
1. แจ็ค 6.35 มม.
หัวแจ็คตัวนี้จะมีขนาดใหญ่ที่สุด โดยที่แจ็ค 6.35 มม. นั้นมั้กจะไปอยู่ในอุปกรณ์เครื่องเสียงระดับ Professional และอุปกรณ์เครื่องดนตรีต่างๆ ซึ่งความใหญ่ของมันนันมีไว้เพื่อการจ่ายไฟและความทนทานที่มากกว่กแจ็คหูฟังทั่วไป
2. แจ็ค 3.5 มม.
หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า “มินิแจ็ค” หรือ Jack 3.5 mm แจ็คหูฟังตัวนี้ถือว่าเป็นที่นิยมที่สุด ซึ่งเราจะพบเจอแจ็คขนาดนี้ได้ในแทบจะทุกอุปกรณ์ในตลาด ไม่ว่าจะเป็นหูฟัง ลำโพง คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือต่างๆ
3. แจ็ค 2.5 มม.
เป็นหัวแจ็คที่ตัวเล็กที่สุด โดยที่แจ็คประเภทนี้ส่วนใหญ่จะใช้งานกันในอุปกรณ์สื่อสารหรือวิทยุขนาดเล็กเท่านั้น
แจ็คหูฟังตามขั้วตัวนำ
อย่างที่บอกไปว่าแจ็คหูฟังต่างๆ นั้นจะมีตัวนำต่างๆ คั่นกลางระหว่าง 2 ขั้ว ซึ่งเราก็จะสามารถแบ่งประเภทของแจ็คหูฟังได้อีกตามจำนวนของตัวนำดังกล่าวด้วย โดยที่หลักๆ แล้วจะมีอยู่ 3 ประเภท ตามนี้
1.แจ็คหูฟัง TS
แจ็คตัวนี้จะมีตัวนำแค่วงเดียวเท่านั้น ซึ่งเสียงที่ได้นั้นจะออกมาเป็นแบบโมโนแทน (หรือได้ยินแค่ด้านซ้ายในระบบ Stereo)
2. แจ็คหูฟัง TRS
ส่วนแจ็คตัวนี้จะมีตัวนำอยู่ 2 วง จนเกิดเป็นส่วนตรงกลางที่เรียกว่า ริง (Ring) ซึ่งแจ็คหูฟังนี้เองจะให้เสียงซ้าย - ขวาแบบ Stereo ได้
3. แจ็คหูฟัง TRRS
แจ็คประเภทนี้จะมีตัวนำอยู่ 3 วงและริงอีก 2 ส่วน ซึ่งริงที่เพิ่มมานั้นทำให้แจ็คหูฟังของเราสามารถรองรับการใช้งานไมโครโฟนได้ในแจ็คตัวเดียว ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานกับโทรศัพท์มือถือหรือโน้ตบุ๊กที่ไม่มีพอร์ตไมโครโฟนแยกมาให้
และทั้งหมดนี้เองก็คือประเภทต่างๆ ของแจ็คหูฟัง ที่นอกจากจะมีหลากหลายประเภทแล้ว ยังมีการใช้งานที่ต่างกันสุดๆ ด้วย เพราะไม่งั้นถ้าซื้อหูฟังหรือสายสัญญาณต่างๆ มาแล้วใช้งานไม่ได้ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน ส่วนบทความหน้า ทีมงาน Mercular จะมีเรื่องอะไรที่น่าสนใจอีกบ้าง รออ่านกันได้เลย
