6 วิธีถนอมสายชาร์จให้อยู่ยาวนาน ไม่พังง่าย ใช้งานได้คุ้มค่า
5 พ.ย. 2566
สำหรับการใช้งานโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต หรือโน๊ตบุ๊ค ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่นั้นเป็นสิ่งที่จำเป็น และควรมีติดตัวเอาไว้เป็นประจำ อุปกรณ์สำหรับชาร์จนั้น หลายคนคงจะนึกถึง หัวชาร์จ พาวเวอร์แบงค์ และสายชาร์จ ที่เป็นอุปกรณ์หลักเลยก็ว่าได้ โดยสายชาร์จนั้นมีหลากหลายประเภท ที่แตกต่างกันออกไปตามการใช้งาน และในปัจจุบันรูปแบบของสายชาร์จนั้นก็มีออกมาหลายแบรนด์ หลายรุ่น เพื่อให้คุณเลือกใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ของคุณได้อย่างเหมาะสม ซึ่งหลัก ๆ แล้วก็จะมีสายชาร์จประเภทที่นิยมด้วยกันอยู่ 2 ถึง 3 ประเภทคือ สายชาร์จ Type-C ที่เรียกได้ว่าเป็นสายยอดนิยมเลยก็ว่าได้ เพราะในมือถือระบบ Android รุ่นใหม่ ๆ นั้นส่วนมากจะมีพอร์ต USB-C ส่วนสายชาร์จ Lightning ที่เป็นสายชาร์จสำหรับเหล่าสาวก iPhone และสุดท้ายสายชาร์จ Micro-USB นั่นเอง โดยสายชาร์จนั้นก็มีด้วยกันตั้งแต่สายชาร์จทั่วไป สายชาร์จไวแบบ Fast Charge และ Quick Charge เพื่อให้สายชาร์จของเรามีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากกว่าเดิม การดูแลรักษาสายชาร์จ และใช้งานอย่างถนอม ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยยืดอายุสายชาร์จของคุณให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ และใช้งานได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น จะมีวิธีอย่างไรบ้าง เดี๋ยวเราไปดูพร้อมกันในบทตความนี้เลยครับ
1.เลือกใช้สายชาร์จที่มีคุณภาพ
ในการใช้งานสายชาร์จให้ทีอายุการใช้งานที่ยาวนานนั้น ก่อนอื่นเลยเราควรเลือกซื้อ สายชาร์จที่จากแบรนด์ชั้นนำ ได้รับมาตรฐาน และมีคุณภาพ ไม่ควรใช้สายชาร์จที่วางขายในราคาถูก ๆ ทั่วไปตามตลาดนัด ทุกวันนี้นั้นเราสามารถหาซื้อสายชาร์จได้ง่ายมาก ๆ ตั้งแต่สายชาร์จราคาหลักสิบ ไปจนถึงหลักพัน หากเลือกสายชาร์จที่มีราคาถูกแต่ไม่ได้คุณภาพ หรือของปลอมนั้น อาจทำให้เกิดความเสียหายกับอุปกรณ์อื่น ๆ อย่างมือถือ หัวชาร์จ และปลั๊กไฟได้ รวมทั้งอาจใช้วัสดุที่ไม่มีคุณภาพ ทำให้ตัวสายไม่มีความทนทาน ขาด หรือพังได้ง่าย เพราะฉะนั้นการเลือกซื้อสายชาร์จ ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่ง ที่ช่วยให้การชาร์จแบตเตอรี่เข้าอุปกรณ์เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยยืดอายุการใช้งานของสายให้ยาวนานมากยิ่งขึ้น
2.ไม่ชาร์จในสภาพแวดล้อมที่ร้อนและชื้น
เรื่องความร้อนและความชื้นกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นั้น เป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานควรหลีกเลี่ยงเป็นอย่างมาก เพราะความร้อนนั้นเป็นหนึ่งสาเหตุหลัก ๆ ในการสร้างความเสียหายต่ออุปกรณ์อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต หัวชาร์จ ปลั๊กไฟ รวมทั้งสายชาร์จด้วยนั่นเอง หากคุณเสียบชาร์จแบตในสภาพอากาศที่ร้อน อย่างเช่น กลางแจ้ง กลางแดด พื้นที่ปิดระบายอากาศได้ไม่ดี อาจทำให้สายชาร์จเกิดความร้อนสะสมภายในสาย และพอร์ตชาร์จ จนอาจสร้างความเสียหายอย่าง สายไหม้ ละลาย หรือชำรุดได้ แน่นอนว่านอกจากความร้อนแล้ว ความชื้นก็เป็นอีกสาเหตุที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะการใช้งานสายชาร์จในบริเวณที่ชื้น อาจทำให้เกิดให้เกิดความเสียหาย ไฟช๊อต และไฟฟ้าลัดวงจรได้นั่นเอง
3.หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์เสริมที่อาจทำให้เกิดความร้อน
เรียกได้ว่าเป็นกระแสกันอยู่ช่วงนึงเลยก็ว่าได้ กับการใช้อุปกรณ์เสริมมาพันเข้ากับสายชาร์จ เพื่อเพิ่มความสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นตัวตุ๊กตาต่าง ๆ สติ๊กเกอร์ หรือเกลียวถนอมสายชาร์จ สำหรับด้วยความสวยงามนั้นก็ต้องยอมรับเลยว่า เพิ่มความน่ารักได้จริง ๆ แต่หารู้ไม่ว่า การใช้อุปกรณ์เสริมเหล่านี้ร่วมกับสายชาร์จ อาจไปรบกวนการระบายความร้อนขณะใช้งาน เพราะสายชาร์จนั้นมีการส่งผ่านกระแสไฟฟ้าขณะใช้งานอยู่เสมอ ซึ่งของตกแต่งเหล่านี้อาจทำให้เกิดความร้อนสะสม จนทำให้เกิดการชำรุดเสียหาย และอาจทำให้ระเบิดได้อีกด้วย
4.จัดเก็บสายชาร์จอย่างถูกวิธี
สำหรับการจัดเก็บสายชาร์จก็เป็นวิ่งที่หลายคน อาจจะมองข้ามหรือไม่เคยให้ความสำคัญ ในช่วงเวลที่เร่งรีบหลายคนอาจจะขยุมสาย หรือม้วน ๆ สายอย่างรวดเร็ว แล้วยัดลงกระเป๋าทันที ยิ่งถ้าใครใช้งานสายชาร์จร่วมกันพาวเวอร์แบงค์หรือหัวชาร์จ ก็อาจจะเก็บสายด้วยการม้วนเข้ากับอุปกรณ์นั้น ๆ ซึ่งตรงนี้ก็เป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้สายชาร์จเสียหาย จากการบิดงอ สำหรับการเก็บสายอย่างถูกวิธีนั้น ควรม้วนสายเป็นลักษณะวงกลมหลวม ๆ จัดเก็บเข้ากับช่องเล็ก ๆ ในกระเป๋า หรือจะใช้ที่รัดสายเพื่อไม่ให้สายคลี่คลายและพันกันยุ่งเหยิง สำหรับการพกพาอาจจะซื้อกระเป๋าเล็ก ๆ สำหรับเก็บโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันไม่ให้สายหัก งอ หรือพันกัน จนเกิดความเสียหายและชำรุดทั้งด้านในและด้านนอกนั่นเอง
5.ไม่ควรดึงหรือกระชากสายชาร์จอย่างแรง
หากคุณต้องการถอดสายชาร์จออกจากหัวชาร์จ หรือเต้าเสียบ ควรดึงออกด้วยการจับบริเวณขั้วชาร์จพลาสติก และหัวชาร์จอย่างมั่นคง เพราะถ้าเราดึงตัวสายแรง ๆ อาจทำให้เกิดความเสียหายด้านใน อย่างการชำรุดหรือฉีกขาดได้ เพราะโดยส่วนมากแล้ว วัสดุสายชาร์จนั้นจะทำจาก พลาสติก หรือยาง TPE ทำให้เกิดความเสียหายได้ค่อนข้างง่ายพอสมควร หากภายนอกสายเกิดความเสียหาย อาจทำให้ไฟดูด ไฟรั่วได้ ส่วนภายในถ้าเกิดความเสียหาย อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการชาร์จ การส่งกระแสไฟ และความร้อยภายใน การใช้งานอย่างเบามือ ก็ถือเป็นวิธีช่วยถนอมสายชาร์จให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากยิ่งขึ้น
6.หลีกเลี่ยงการชาร์จไปพร้อมใช้งาน
เชื่อว่าการชาร์จไปเล่นไป ถือว่าเป้นสิ่งที่หลายคนอาจจะหักห้ามใจได้ยาก ด้วยความจำเป็นในการใช้งาน ความต่อเนื่องในการใช้งาน อาจทำให้เรามองข้ามความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ เพราะการชาร์จไปพร้อมใช้งานนั้น ส่งผลเสียต่อสายชาร์จบริเวณข้อต่อ ที่เกิดการโค้งงอผิดรูป จนอาจทำให้สายหักหรือชำรุดได้ รวมทั้งยังเกิดความร้อนสะสมจากกระแสไฟที่ส่งผ่านสายในปริมาณมาก ทำให้แบตเตอรี่ของอุปกรณ์เสื่อมสภาพเร็วขึ้น ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดนั้นอาจทำให้เกิดระเบิดหรืออุบัติเหตุได้เลยนั่นเอง
ก็จบไปเรียบร้อยแล้วครับ สำหรับ 6 วิธีการดูแลรกษาสายชาร์จให้สามารถใช้งานได้ยาวนาน ที่ทางเราได้รวบรวมมาบอกกับทุกคน เพื่อเป็นประโยชน์และช่วยให้คุณดูแแลแสายชาร์จอย่าถูกวิธี สำหรับวิธีที่เราแนะนำไปนั้น ก็ไม่ยุ่งยากหรือวุ่นวายอย่างที่คิด หากนำไปใช้งานแล้วรับรองว่าช่วยให้สายชาร์จของคุณใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และมีอายุการใช้งานยาวนานมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน และสำหรับใครที่กำลังมองหาแบรนด์สายชาร์จและอุปกรณ์เสริมมือถือ จากแบรนด์ชั้นนำที่มีคุณภาพ และได้มาตรฐาน ก็สามารถเข้ามาเลือกซื้อได้ที่เว็บไซต์ของเรา Mercular.com ที่รวบรวมสินค้าจากแบรนด์ดังอย่าง Belkin, Anker, Aukey, Dope และแบรนด์อื่น ๆ อีกมากมายเอาไว้ให้คุณได้เลือกซื้อกันอย่างจุใจ สำหรับวันนี้ต้องขอตัวลาไปก่อน ครั้งหน้าจะมีวิธีอะไรดี ๆ มาแนะนำกัน สามารถรอติดตามอ่านไว้ได้เลยครับ