ChatGPT คืออะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง ใครเสี่ยงตกงาน ปรับตัวอย่างไรดี
2 ก.พ. 2566
ChatGPT นั้น ถือว่าเป็นหนึ่งในบอท AI ที่ได้รับความนิยมมากๆ ในช่วงต้นปี 2023 ซึ่งความฮิตติดไวรัลของมันนั้นก็มาจากความสามารถในการโต้ตอบ ที่ไม่ว่าเราจะถามอะไร เจ้า ChatGPT ก็สามารถตอบเราได้แทบทุกเรื่อง ตั้งแต่คำถามพื้นๆ อย่างการบวกเลข หรือถามทาง หรือแม้แต่คำขอระดับ Advance อย่างการให้มันช่วยเขียนบทความ เขียนโปรแกรมแก้บัค แนะนำสินค้า หรือสรุปข้อมูลความรู้ต่างๆ ได้ในแบบทันที และด้วยความสามารถที่ยอดเยี่ยมของมันนั้น ยังทำให้สังคมพากันตั้งคำถามถึงการเข้ามาแทนที่ของ AI ที่อาจจะส่งผลต่อการทำงานและอาชีพของใครหลายๆ คนที่อาจจะตกงานจากการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ก็ได้ แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเจ้า AI ตัวนี้ก็สามารถช่วยให้การทำงานของเรานั้นง่ายขึ้นเป็นกองเหมือนกัน เพราะฉะนั้นวันนี้ เราจะพาทุกคนไปดูว่า แท้จริงแล้ว ChatGPT คืออะไร มาจากไหน สามารถใช้ทำอะไรได้บ้าง และใครบ้างที่เสี่ยงจะตกงาน จากการมาของเจ้า AI ตัวนี้ เพื่อให้เรราสามารถรับมีกับการเปลี่ยงแปลงในครั้งนี้
ChatGPT คืออะไร มาจากไหน
ChatGPT คือโปรแกรม AI ประเภทแชทบอท (Chatbot) หรือที่เข้าใจง่ายๆ ก็คือโปรแกรมโต้ตอบที่มีการผสมผสานเทคโนโลยี AI เข้าไปด้วย ซึ่งเจ้า ChatGPT นั้นถูกพัฒนาโดยองค์กร OpenAI ที่เคยฝากผลงาน AI เจ๋งๆ มาแล้วทั้ง DALL-E จิตรกร AI ที่เคยสร้างกระแส AI Art ในช่วงแรกๆ และ OpenAI Five เกมมิ่งบอทของ DOTA 2 ที่เคยล้มโปรเพลเยอร์ระดับโลกมานับไม่ถ้วน โดย ChatGPT คือผลงานชิ้นล่าสุดที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2022 นี้เอง ซึ่งเป้าหมายหลักของ ChatGPT นั้นคือการเป็นโปรแกรมแซตบอทที่เป็นมิตร เข้าถึงได้ และตอบโจทย์การทำงานของมนุษย์ให้มากที่สุด
ChatGPT ใช้ทำอะไรได้บ้าง
ถ้าให้นึกถึงโปรแกรมแชทบอทที่หลายๆ คนพอนึกภาพออกนั้น ก็คงจะไม่พ้น Simsimi แชทบอทที่เคยฮิตฮอตในบ้านเราเมื่อหลายสิบปีก่อน แล้วลองจินตนาการว่า Simsimi ผสมกับ Google แล้วจะออกมาเป็นอะไร นั่นแหละคือสิ่งที่ใกล้เคียงกับ ChatGPT มากที่สุด เพราะความเจ๋งของ ChatGPT นั้นไม่ใช้ความสามารถในการโต้ตอบประโยคพูดคุยทั่วๆ ไป แต่ความสามารถที่แท้จริงของ ChatGPT คือการตอบคำถามที่ซับซ้อนกว่านั้นหลายเท่า อย่างเช่นการสั่งให้เขียนบทความทั้งชิ้นขึ้นมา เขียนคำสั่งสำหรับงานโปรแกรมมิ่ง หาบัคในโค้ดโปรแกรม หาคำตอบให้กับการบ้านที่เรากำลังทำอยู่ การสรุปข้อมูลยากๆ เหล่านี้ให้กลายเป็นคำตอบที่เข้าใจได้ง่าย ใช้ภาษาที่มีความเป็นมิตร เสมือนกับมีมนุษย์ตัวเป็นมานั่งตอบคำถามอยู่ตรงหน้าเลยทีเดียว แถมยังใช้เวลาโต้ตอบเพียงมีกี่วินาทีเท่านั้น และด้วยความสามารถเหล่านี้เองที่ทำให้ ChatGPT นั้นกลายเป็นกระแสไวรัลในปัจจุบัน
ล่าสุด Open AI ปล่อย ChatGPT Voice คุยกับ AI ด้วยเสียงให้ใช้ฟรีสำหรับทุกคน
นอกจากฟังก์ชันแชทกับบอทอัตโนัมิตที่กล่าวไปในข้างต้นแล้ว ล่าสุดขณะนี้ฟีเจอร์เสียงของ ChatGPT หรือ ChatGPT Voice คุยกับ AI ด้วยเสียง ก็ได้เปิดให้ผู้ใช้ทุกคนใช้งานได้กันฟรี ๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยในโพสต์บน X (หรือชื่อเดิมคือ Twitter) ของ OpenAI ได้ประกาศเอาไว้ว่าผู้ใช้สามารถแตะไอคอนหูฟังเพื่อใช้เสียงเพื่อพูดคุยกับ ChatGPT ในแอปบนอุปกรณ์ต่าง เช่น iPhone หรือ Android รวมถึงยังรองรับการตอบสนองด้วยเสียงอีกด้วย
นอกจากนี้ OpenAI ยังได้เปิดตัวความสามารถในการแจ้งเตือน ChatGPT ด้วยเสียงและรูปภาพของผู้ใช้งานในเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยที่สงวนความสามารถนี้เอาไว้ให้กับผู้ที่ใช้งานในระดับพรีเมียมหรือผู้ใช้งานที่เลือกใช้บริการแบบชำระเงินได้ใช้เท่านั้น ซึ่งในการเปิดตัวดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่พนักงานของ OpenAI ทั้งหลายกำลังต่อสู้อยู่กับเหตุการณ์ขับไล่ CEO อย่างกะทันหัน รวมถึงได้มีการชุมนุมเพื่อการเจนจาที่มีความวุ่นวายเพื่อเรียกร้องให้ CEO ที่ถูกขับไล่ได้กลับมาประจำการ
อยากใช้ ChatGPT บ้าง ต้องทำยังไง
ในปัจจุบันนั้น เราจะสามารถใช้งาน ChatGPT ได้ฟรีๆ ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ของ OpenAI โดยที่เราจะต้องเข้าไปที่เว็บไซต์ ตามลิงก์นี้เลย ซึ่งเป็นหน้าเว็บไซต์หลักของทาง ChatGPT จากนั้นก็กดไปที่ปุ่ม TRY CHATGPT เพื่อเริ่มต้นใช้งาน ซึ่งหากเราเพิ่มจะเริ่มใช้งานเป็นครั้งแรกนั้น ก็จะต้องสมัครไอดีให้เรียบร้อยซะก่อน โดยใช้อีเมลของเราในการสมัคร หรือจะใช้วิธีผูกกับแอคเคาท์ Google หรือ Microsoft ก็ได้เช่นกัน หลังจากล็อกอินเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็จะเข้าสู่หน้าจอแชทของ ChatGPT พร้อมเริ่มใช้งานได้เลย
และสำหรับงานใช้งานเบื้องต้นของ ChatGPT คือการพิมพ์คำถามหรือสิ่งที่เราต้องการลงในช่องข้อความด้านล่าง จากนั้น ChatGPT ก็จะตอบในสิ่งที่เราขอไป ซึ่งบางคำถามอาจจะใช้เวลาในการหาคำตอบนานหน่อย หรือในบางครั้งก็อาจจะเกิด Error ได้ อันนี้เป็นเรื่องปกติ การพิมพ์คำถามต่างๆ นั้นไม่ควรจะพูดถึงข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลที่อ่อนไหว และข้อแนะนำเวลาพิมพ์ถาม ChatGPT คือภาษาที่ใช้ในการพิมพ์ ที่แม้ว่า ChatGPT จะสามารถรองรับภาษาได้หลากหลายรวมถึงภาษาไทยด้วย แต่เราขอแนะนำให้พิมพ์ถามเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อที่ตัวแชทบอทนั้นจะสามารถเข้าใจคำถามเราได้ดีที่สุด รวมถึงคำถามบางอย่างนั้น เราอาจจะต้องกำหนดหัวข้อ แนวทาง ขอบเขตที่เราต้องการลงไปด้วย เพื่อให้ได้คำตอบที่ตรงตามความต้องการของเรา และถึงแม้ว่าจะสามารถตอบได้ทุกคำถาม แต่บางครั้ง ChatGPT ก็สามารถให้คำตอบที่ค่อนข้างคลุมเครือ เป็นคำตอบแบบอ้อมๆ ได้เช่นกัน
ใครเสี่ยงตกงานจาก ChatGPT บ้าง
แน่นอนว่า ด้วยความยอดเยี่ยมทั้งในด้านการสื่อสาร และการแก้ปัญหาตรงหน้านั้น ทำให้หนึ่งในอาชีพแรกๆ ที่จะเริ่มร้อนๆ หนาวกันจาก ChatGPT คือสายงาน Customer Service และสายงานซัพพอร์ตต่างๆ เพราะด้วยความสามารถของ ChatGPT นั้นทำให้มันสามารถเข้ามาแทนที่อาชีพเหล่านี้ได้อย่างสบายๆ ลองคิดดูว่าถ้าระบบ Customer Service ที่ต้องใช้พนักงานเป็นสิบๆ คนในดูแล ทั้งหมดถูกย่อยลงมาให้เหลือเพียงคอมพิวเตอร์ไม่กี่เครื่องกับโปรแกรม AI มันจะลดต้นทุนการทำงานได้มากขนาดไหน
ในขณะที่สายงานอื่นๆ นั้นก็ได้รับผลกระทบไม่แพ้กัน ทั้งสายงานสื่ออย่างการเขียนบทความ ที่ทาง ChatGPT สามารถเขียนบทความ 1 หน้ากระดาษได้ในเวลาไม่นาน และสายงาน Programing ที่ทาง AI นั้นสามารถสร้างหรือแนะนำโค้ดต่างๆ สำหรับการแก้ปัญหาหรือบัคที่เราเจอระหว่างทำงานได้ รวมถึงทางด้านฝั่งการศึกษาเองก็ได้รับผลกระทบอีกไม่น้อยเลย เพราะในตอนนี้ก็เริ่มมีข่าวที่นักเรียน นักศึกษาหลายๆ แห่ง นำเอา ChatGPT มาใช้เขียนรายงาน Essay จนถึงการใช้โกงข้อสอบด้วย ซึ่งถึงจะไม่ถึงขั้นตกงาน แต่ ChatGPT ก็สามารถส่งผลกระทบกับวิธีการทำงานของสายอาชีพเหล่านี้ได้เช่นกัน
และถึงแม้ว่าเจ้าแชทบอทตัวนี้จะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมขนาดไหน แต่ ChatGPT ก็คือโปรแกรม AI ตัวหนึ่งเท่านั้น ChatGPT ยังคงเป็นเพียงแค่เครื่องทุ่นแรงที่ช่วยเราทำงาน ไม่ใช่สิ่งที่จะมาแทนที่เราได้อย่าง 100% แม้ว่าสายงานด้านบนที่พูดถึงนั้นอาจจะได้รับผลกระทบ แต่อาชีพเหล่าก็ยังคงต้องการคนทำงานในระดับ Senior หรืองานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ มีความซับซ้อน หรือการสร้างสิ่งใหม่ๆ อยู่ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ AI ในปัจจุบันนั้นยังไม่สามารถทำได้ เพราะฉะนั้น การมาของ ChatGPT นั้นก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีในการพัฒนาความสามารถตัวเอง เพื่อให้เป็นที่ต้องการในตลาดมากขึ้น รวมถึงเปิดโอกาศให้ตนเองได้ลองทำงานในสายงานใหม่ โดยเฉพาะกับสายงานคอมพิวเตอร์และ AI ทำจะมีโอกาศบูมในอนาคตได้อีกด้วยได้อีกด้วย
พร้อมให้การโต้ตอบได้อย่างไม่จำกัด
และแน่นอนว่าตัวของ ChatGPT สามารถโต้ตอบด้วยข้อมูลที่ได้รับการจำกัด โดยข้อมูลที่นำมาโต้ตอบนั้นจะเป็นข้อมูลของเว็บไซต์ที่ได้รับการอัปเดตในช่วงของเดือนกันยายน ปี 2021 เท่านั้น แต่ว่าในวันที่ 28 กันยายนของ 2023 ทางตัว ChatGPT ก็ได้มีการอัปเดตเรียบร้อย ทำให้ผู้ใช้งานนั้นสามารถทำการโต้ตอบกับตัว AI ได้เต็มที่มากยิ่งขึ้น เพราะตัว ChatGPT นั้นสามารถนำข้อมูลปัจจุบันพร้อมด้วยลิงก์ของแหล่งที่มาโดยตรงมาให้ผู้ใช้งานได้โต้ตอบกันแล้ว คุณจึงได้รับข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและน่าเชื่อถือ ให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่แล้วละครับ
และมาถึงตอนจบนี้ ทางทีมงาน Mercular.com ก็ขอบอกตามตรงเลยว่าข้อมูลที่เราใช้ในการเขียนบทความนี้ มาจากคำตอบของ ChatGPT ไปครึ่งหนึ่ง ซึ่งมันก็แสดงให้เห็นว่า ChatGPT คือหนึ่งใน AI ที่ทรงพลังและสามารถเข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตการทำงานของเราได้ง่ายๆ เลย แต่อย่าลืมไปละว่าเจ้าแชทบอทตัวนี้เองก็ถูกสร้างโดยมนุษย์ แม้ว่าในอนาคต เทคโนโลยี AI อาจจะเข้ามาแทนที่หลายๆ อาชีพ แต่ตัวมันเองก็มีข้อจำกัดของมัน และคนเราเองก็สามารถเรียนรู้ และปรับตัวเองเพื่อให้สามารถทำงานในส่วนที่ AI ทำไม่ได้เช่นกัน และเมื่อถึงเวลานั้น ทั้งเรา, ChatGPT และ AI ก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข และมุ่งสู่อนาคตที่ดีกว่าเดิมก็ได้