หิมพานต์มาชเมลโล่ ทำความรู้จักเจ้าพวกน้อนสุดนุ่มฟู

ป่าหิมพานต์ ป่าสุดมหัศจรรย์ในตำนานของไทย ตั้งอยู่บนเชิงเขาพระสุเมรุ มีเนื้อที่ประมาณ 3,000 โยชน์ เต็มไปด้วยเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ในวรรณคดี บ้างก็นิสัยรักสงบ บ้างก็นิสัยดุร้าย มัจจะพบพวกนี้ได้ตามวรรณคดีต่าง ๆ ของไทย ซึ่งสัตว์ส่วนใหญ่นั้นจะผ่านการผสมหลากหลายสายพันธุ์เข้าด้วยกัน พร้อมด้วยเพิ่มความน่าเกรงขามด้วยรูปลักษณ์ที่เต็มไปด้วยลายกนกของไทย แต่ถ้าหากว่า เจ้าสัตว์น่าเกรงขามเหล่านี้ ถูกแปรเปลี่ยนให้กลายเดป็นสัตว์น่ารักและนุ่มฟู ที่ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็น่ารักจนใจเจ็บจะเป็นยังไงกันบ้างนะ ใครที่คิดไม่ออกนั้น Mercular ขอแนะนำให้รู้จักกับ หิมพานต์มาชเมลโล่ ที่เป็นเหล่าสัตว์หิมพานต์ในรูปแบบของสุดยอดความน่ารักจนใครเห็นก็อดที่จะเอ็นดูไม่ได้ 

สำหรับ หิมพานต์มาชเมลโล่ นั้นได้เกิดขึ้นมาจาก ที่มีการเผยแพร่รูปปั้นสัตว์หิมพานต์ที่ได้รับการปั้นประดับวัดโดยผ่านจากจินตนาการและแรงศรัทธาของช่างพื้นบ้านหรือชาวบ้านบริเวณนั้น โดยตัวผลงานที่ออกมานั้นก็เรียกได้ว่า ผิดแปลก และไม่ตรงตามกับรูปลักษณ์ของสัตว์หิมพานต์ที่พวกเราคุ้นตากันเป็นอย่างดี รูปร่างจะออกมาดูน่ารัก และดูน่ากอดมากเสียด้วยซ้ำ จึงกลายเป็นว่า เหล่ารูปปั้นเหล่านี้ จึงถูกเรียกว่า หิมพานต์มาชเมลโล่ นั่นเองครับ 

โดยจุดกำเนิดที่เหล่านักท่องเที่ยวเข้าไปพบเจ้าสัตว์สุดนุ่มฟูนี้ ก็มีด้วยกันทั้งหมด 5 สถานที่ และสัตว์แต่ละตัวล้วนมีความแตกต่างกันไปตามท้องถิ่นของวัดนั้น ๆ จะมีที่ไหนกันบ้างไปดูกันดีกว่า

พญานาค วัดโพธิ์ศรีทุ่ง จ.อุดรธานี

สิงห์ วัดเกาะวาลุการาม จ.ลำปาง

มอม วัดเจติยภูมิ จ.ขอนแก่น

เหรา (สีทอง) วัดชัยภูมิการาม จ.อุบลราชธานี

เหรา (สีขาว) วัดพันธุเวสน์ จ.อำนาจเจริญ 

โดยแต่ละตัวนั้นก็ดูมีความน่ารักและน่าหยิกจนจั๊กจี้หัวใจ เพราะฉะนั้นลองมาทำความรู้จักกันดีกว่า ว่าแต่ละตัวนั้นล้วนมีประวัติที่มา และรูปร่างที่แท้จริงกับรูปร่างแบบมาชเมลโล่นั้นจะมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย

1. พญานาค

เป็นสัตว์ในตำนานที่โด่งดังของไทย ยิ่งแถบลำน้ำโขงหรือภาคอีสาน ล้วนแล้วแต่มีความเชื่อเรื่องของพญานาคกันทั้งสิ้น ซึ่งตามตำนานนั้นกล่าวไว้ว่า พญานาคคืองูใหญ่ มีหงอนพร้อมด้วยดวงตาสีแดงฉาน อาศัยอยู่บริเวณบาดาลใต้เขาหิมพานต์ มีพละกำลังและอิทธิฤทธิ์มากเพราะว่าตนเองนั้นเป็นกึ่งสัตว์กึ่งเทพ และร่างกายของนาคก็เต็มไปด้วยเกร็ดแวววาวหลายสี ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสัตว์วิเศษที่ได้รับการกราบไหว้และบูชาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

2. สิงห์

ตามตำนานและความเชื่อของป่าหิมพานต์แล้ว สิงห์ จะสามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิดด้วยกัน นั่นก็คือ ราชสีห์ โดยประเภทแรกนี้มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 ชนิดคือ บัณฑราชสีห์, กาฬสีหะ, ไกรสรราชสีห์ และติณสีหะ ส่วนอีกชนิดหนึ่งนั้นก็คือ สิงห์ผสม เป็นสัตว์ทั่วไป สามารถหาพบได้มากมาย โดยจะมีรูปร่างเป็นสัตว์ป่าประสม ที่มีลักษณะของราชสีห์กับสัตว์ประเภทอื่น เช่น ช้าง เป็นต้น

3. มอม

มอม เป็นสัตว์หิมพานต์ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับสัตว์หลายชนิดผสมกัน ทั้ง สุนัข แมว ตุ๊กแก กิ่งก่า ลิง เสือ ฯลฯ มีแขนยาว ลำตัวยาวยืดคล้ายสัตว์เลื้อยคลาน ทั้งนี้เจ้ามอมนั้นเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่กับวัดและวิถีชีวิตของชาวล้านนา หรือชาวภาคเหนือมาอย่างยาวนาน ร่างกายและสีของมอมนั้นจะเป็นยังไงก็ขึ้นอยู่กับจินตนาการของช่างก่อแต่ละคน และไม่เพียงแค่รูปปั้นเท่านั้น แต่มอมยังเป็นสัตว์ที่ชาวล้านนามักสักติดตัว เพื่อความอยู่ยงคงกระพันอีกด้วย

4. เหรา

เหรา คือสัตว์หิมพานต์ที่มีศักดิ์เป็นลูกของพญานาค โดยผู้ที่เป็นแม่ของเหรานั้นก็คือ มังกร นั่นเอง ทำให้ลักษณะร่างกายของเหรา มีส่วนผสมของสองพันธุ์นี้อยู่ด้วยกันนั่นก็คือ ส่วนหัวและตัวเป็นนาค มีเท้าและหนวดเป็นมังกร แต่ว่าสำหรับที่ไทยนั้น มักจะพบประติมากรรมศิลปะของเหราไม่มีเขา หนวด และเครา อย่างมังกรจีนสักเท่าไหร่นัก มักจะพบฟันหรือเขี้ยวคล้ายจระเข้ มากกว่า

ก็ได้ทำความรู้จักกันไปอย่างหอมปากหอมคอกันแล้วกับ สัตว์หิมพานต์มาชเมลโล่ นั้น ซึ่งในปัจจุบันเหล่าน้อนนุ่มฟูเหล่านี้ ต่างก็ได้ถูกค้นพบขึ้นมากมาย ทั่วประเทศของไทยเรากันเลยทีเดียว เนื่องจากกระแส สัตว์หิมพานต์มาชเมลโล่ ที่ดังกระหึ่มอยู่บนโซลเชียล และนอกจากนั้นยังเป็นของเล่นที่สามารถหาซื้อไปเป็นของขวัญ หรือตกแต่งห้องก็สามารถทำได้อย่างน่ารักน่าชัง ใครจะเอามาตกแต่งโต๊ะคอมก็สามารถทำได้ เรียกได้ว่านอกจากจะมีสัตว์ในตำนานสุดเท่แล้ว ยังได้รูปลักษณ์สุดน่ากอดมาตั้งโชว์อีกด้วยครับ