ทำความรู้จักลำโพงสำหรับมืออาชีพ แตกต่างจากลำโพงทั่วไปยังไง ?

19 ม.ค. 2566

ทำความรู้จักลำโพงสำหรับมืออาชีพ แตกต่างจากลำโพงทั่วไปยังไง ?

ทำความรู้จัก ลำโพงสำหรับมืออาชีพ

หากจะให้อธิบายว่า ลำโพงสำหรับมืออาชีพ นั้นคืออะไร? ก็คงกล่าวได้ว่าเป็นสินค้าประเภท ลำโพง ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานในระดับมืออาชีพ หรือก็คือเป็นลำโพงที่ออกแบบมาเหล่าอาชีพที่เกี่ยวกับเสียงได้ใช้งานนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นนักดนตรี, นักร้อง, นักแต่งเพลง, DJ, และเหล่าบรรดานัก Mix เพลงรวมไปถึง Sound Engineer เป็นต้น ด้วยจุดเด่นของสินค้าประเภทนี้คือการใส่ไดรเวอร์เสียงระดับพรีเมียม การออกแบบและจัดวางแผงวงจรภายในผ่านการคิดหลายขั้นตอน และไร้การปรับจูนแนวเสียงให้มีความ Color หรือโดดเด่นเฉพาะย่านแบบในลำโพงฟังเพลงทั่วๆ ไป ทั้งหมดนี้ก็เพื่อแนวเสียงที่เที่ยงตรง ครบถ้วนทุกย่าน เพื่อการสร้างเสียงเพลงให้มีมาตรฐานและได้เสียงที่แม่นยำที่สุด ซึ่งเมื่อนำไปใช้กับเครื่องเสียงสำหรับฟังเพลงทั่วๆ ไปที่มีการปรับจูนย่านเสียงเพื่อแนวเสียงที่ฟังสนุกตอบโจทย์ผู้ใช้งาน เสียงที่ได้จะไม่โดดไปด้านใดด้านหนึ่งหรือถูกเพิ่มเน้นจนเสียงเพี้ยน ทำให้พูดได้เลยว่า ลำโพงสำหรับมืออาชีพ นั้นเป็น ลำโพงสำหรับงานสร้างเสียงและงานดนตรีอย่างแท้จริง ด้วยความที่เป็นลำโพงที่ใช้ในงานเสียงและงานดนตรีทั้งใช้ในการจัดคอนเสิร์ต ใช้ในพื้นที่โล่งกว้าง Hall ขนาดใหญ่ รวมไปถึงลำโพง Studio Monitor ที่เน้นขับเสียงอย่างแม่นยำ ซึ่งพูดได้เลยว่าลำโพงเหล่านี้เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับอุตสาหกรรมดนตรี เพราะก่อนจะมีเพลงหรือเสียงออกมาให้ฟังก็จำเป็นที่จะต้องมีการสร้างก่อน ซึ่ง ลำโพงสำหรับมืออาชีพ เหล่านี้คือสิ่งจำเป็นในการสร้างเสียงเหล่านั้น


ลำโพงสำหรับมืออาชีพ แตกต่างจากลำโพงไร้สายทั่วไปอย่างไร

ด้านความแตกกต่างระหว่าง ลำโพงสำหรับมืออาชีพและลำโพงไร้สายทั่วๆ ไปนั้น ลำโพงทั่วๆ ไปจะมาพร้อมแนวเสียงที่ผ่านการปรับจูนเพื่อให้ฟังสนุกมากที่สุด โดยอาจจะเป็นแนวเสียงที่โดดเด่นไปตามสไตล์ของแบรนด์ต่างๆ เช่นในบางแบรนด์จะเน้นย่านเบส ก็จะให้เสียงเบสที่เด่นออกมากกว่าย่านอื่นๆ ผู้ใช้งานที่เป็นสายเบสพอได้ฟังลำโพงประเภทนี้ก็จะรู้สึกว่าเสียงดี ในขณะเดียวกันบางแบรนด์ก็จะเน้นย่านกลาง - สูงแตกต่างกันออกไป ผู้ใช้งานกลุ่มข้างต้นที่ชอบเสียงเบสเมื่อได้ฟังลำโพงกลุ่มหลังกจะรู้สึกว่าเสียงไม่ถูกใจหรือเสียงไม่ดี แต่หากผู้ที่ชอบเสียงกลางและเบสมาฟังก็จะรู้สึกว่าลำโพงนี้ให้เสียงที่ฟังสนุกและยอดเยี่ยมนั่นเอง ซึ่งลำโพงทั่วๆ ไปเหล่านี้จะถูกปรับจูนเสียงตามซีรีส์ของสินค้า เช่น ซีรีส์ Extra Bass ของ Sony ที่จะเน้นเบสหนักๆ หรือเบสเด่นกว่าย่านอื่นเป็นต้น ในขณะที่ ลำโพงสำหรับมืออาชีพ เช่น ลำโพงมอนิเตอร์ ซึ่งก็คือ ลำโพงที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ตรวจสอบความถูกต้องของย่านเสียงต่างๆ โดยจะมีแนวเสียงแบบ Flat หรือโทนราบเรียบ ย่านเสียงต่างๆ ไร้การปรุงแต่ง หรือก็คือต้นกำเนิดเสียงเป็นยังไงเสียงที่ออกมาก็จะเป็นแบบนั้น ทำให้ ลำโพงมอนิเตอร์ เหมาะกับการใช้ทำเพลงหรือมิกซ์เสียง เพราะหากกระบวนการมิกซ์เสียงหรือบันทึกเสียงมีย่านใดที่โดดออกมาจนเกินไปหรือผิดเพี้ยนไป Sound Engineer หรือนัก Mix เสียงก็จะรับรู้และแก้ไขได้ในทันที ทำให้สรุปได้ว่า ลำโพงมอนิเตอร์ จะเน้นเสียงที่เป็นกลางมากที่สุดโดยที่ไม่มีการปรุงแต่งย่านใดย่านหนึ่งให้มีความโดดเด่นมากกว่ากัน

ลำโพงสำหรับมืออาชีพแบ่งออกได้กี่ประเภท

หลักๆ เลย ลำโพงสำหรับมืออาชีพ ได้แบ่งออกเป็น 2 ประเภทตามการใช้งาน แบ่งเป็นการใช้งานใน Studio สำหรับงานมิกซ์เสียงหรือใช้ในการตรวจสอบมอนิเตอร์ย่านเสียง และอีกประเภทจะเป็นการใช้งานในการขับเสียงประกาศในที่สาธารณะ โดยทั้ง 2 ประเภทมีรายละเอียดดังนี้
ลำโพงมอนิเตอร์: เป็นลำโพงสำหรับมืออาชีพ ที่ออกแบบมาให้เน้นในเรื่องการให้เสียงกลางที่ยอดเยี่ยม เที่ยงตรงและม่ความแม่นยำสูง หรือแนวเสียงที่ถูกเรียกว่าแนว Flat นั่นเอง ตอบโจทย์การใช้งานของเหล่าบรรดา Sound Engineer, Producer ผู้มิกซ์เสียง และผู้ผลิตเสียงใน Studio เพื่อที่จะได้นำเสียงที่ได้ไปปรับจูน ปรับแต่งแก้ไข และผลิตออกมาเป็นเสียงที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าเดิม ตอบโจทย์การใช้งานในอุตสาหกรรมเพลงและดนตรีมากกว่าใช้งานในการฟังเพลงทั่วๆ ไป แต่ถึงกระนั้นก็มีคนที่ชื่นชอบเสียงอันเป็นกลางของ ลำโพงมอนิเตอร์ อยู่เป็นจำนวนมาก รวมถึงยังถูกนำไปใช้ในการฟังเพลงทั่วๆ ไปจนถึงนำไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของชุดลำโพง Home Theatre อยู่บ่อยครั้งอีกด้วย

ลำโพง PA: หรือชื่อเต็มก็คือ Public Audience Speaker ลำโพงที่ออกมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่เน้นในเรื่องการขับเสียงที่ดังและทรงพลัง ตอบโจทย์การใช้งานในงานแสดงหรืองานประชุมที่ต้องใช้เสียงดังหรือเสียครอบคลุมทั่วพื้นที่ เช่น ใน Hall ประชุม, คอนเสิร์ต, งานประกาศในสถานที่ต่างๆ, สวนสาธารณะ ร้านเหล้า ร้านกาแฟ ไปจนถึงการใช้งานร่วมกับการเล่นดนตรีแบบเปิดหมวก โดยลำโพงประเภทนี้จะมีการพกพาที่ง่ายแม้จะมีขนาดใหญ่ มีความทนทานแข็งแรง นั่นเป็นเพราะว่าต้องสามารถเดินทางตามนักแสดง นักดนตรี และนักพูดเหล่าที่ใช้งานลำโพงประเภทนี้ไปในสถานที่ต่างๆ จุดเด่นของลำโพงประเภทนี้นอกจากจะโดดเด่นในเรื่องเสียงแล้ว เรื่องของการเชื่อมต่อยังทำได้หลากหลายจบในตัว เช่นเชื่อมต่อต่อไมค์และเครื่องดนตรีอีกชิ้นพร้อมกันได้


เลือกซื้อ ลำโพงสำหรับมืออาชีพ อย่างไรให้ถูกใจ

หากกำลังมองหา ลำโพงสำหรับมืออาชีพ ที่ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด และมาพร้อมฟังก์ชันและสเปคที่คุ้มค่าคุ้มราคามากที่สุด และยังไม่แน่ใจว่าควรตัดสินใจหรือควรเลือกซื้อจากอะไร ทาง Mercular.com ก็มีวิธีเลือกซื้อ ลำโพงสำหรับมืออาชีพ ให้ได้คุ้มค่าและถูกใจมากที่สุด ดังนี้
1. แบรนด์ / ยี่ห้อ: ข้อแรกที่ควรคำนึงถึงเมื่อจะเลือกซื้อ ลำโพงสำหรับมืออาชีพ ก็คือแบรนด์ ในปัจจุบันมีให้เลือกมากมายหลากหลายแบรนด์ บางแบรนด์ก็ผลิตสินค้าในหมวด ลำโพงสำหรับมืออาชีพ โดยเฉพาะ ในขณะเดียวกันก็มีอีกหลากหลายแบรนด์ที่มีทั้งลำโพงทั่วๆ ไป และ ลำโพงมอนิเตอร์ ซึ่งหากต้องการสินค้าเฉพาะทางจริงๆ แนะนำให้เลือกจากแบรนด์ที่ผลิตสินค้าในหมวด ลำโพงสำหรับมืออาชีพ โดยเฉพาะจะดีที่สุด เพราะได้เปรียบทั้งประสบการณ์และเทคโนโลยีที่พัฒนามาเป็นพิเศษ เพราะผู้ใช้งานจะรู้สึกมั่นใจหากแบรนด์นั้นเป็นแบรนด์เฉพาะทาง มากกว่าแบรนด์ที่มีสินค้าหลายชนิดไม่ได้โฟกัสชนิดใดเป็นพิเศษนั่นเอง

2.) ขนาดและความดังลำโพง: อีกปัจจัยก็คือขนาดของสถานที่ เช่น ถ้าหากใช้งานภายในห้อง Studio ขนาดเล็ก จุคนได้พร้อมกัน 3-4 คน กว้างยาวราวๆ 4 ตารางเมตร ก็ควรเลือก ลำโพงสำหรับมืออาชีพ ขนาดกลางหรือ 4 นิ้วขึ้นไป ในขณะเดียวกันถ้าใช้งานให้ห้อง Studio ที่มีลักษณะไปในทางยาว และกว้างกว่า 4 ตารางเมตร จุคนได้หลายคน ก็ควรใช้ขนาด 6 นิ้วขึ้นไป เพื่อที่จะสามารถขับเสียงได้ดังและกว้าง เพื่อการได้ยินอย่างทั่วถึง แต่ถ้าหากเป็น Home Studio ขนาดเล็กกว่า 4 ตารางเมตร ก็เลือกใช้ลำโพงที่มีขนาดเล็กลงมาราวๆ 3.5 นิ้ว ก็เพียงพอ เพราะการเลือกใช้ลำโพงที่ใหญ่กว่าขนาดของห้องนั้นบางครั้งอาจจะเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ

3.) ตรวจจับเสียงที่ผิดพลาดได้แม่นยำ: ข้อนี้ถือเป็นจุดประสงค์หลักของการใช้งาน ลำโพงสำหรับมืออาชีพ นั่นก็คือความแม่นยำในการตรวจจับย่านเสียงที่ผิดเพี้ยน เพราะลำโพงสำหรับมืออาชีพ ที่ดีจะต้องให้เสียงที่เที่ยงตรง Flat มากที่สุด หากมีย่านเสียงไหนโดดเด่นหรือเพี้ยนขึ้นมาตัวลำโพงต้องสามารถแสดงเสียงนั้นให้ได้ยินในทันที เพื่อที่จะได้แก้ไขและปรับจูนได้อย่างทันท่วงที จุดที่สำคัญอีกจุดหนึ่งคือขนาดของ Driver Woofer ที่ควรจะมีขนาด 6 นิ้วขึ้นไปเป็นอย่างต่ำ เพื่อใช้งานในการตรวจสอบเสียงย่านต่ำได้อย่างแม่นยำ เพราะหากเล็กกว่านี้อาจจะรองรับย่านความถี่เสียงของย่านต่ำได้ไม่ทั้งหมด รวมถึงอาจจะให้เสียงที่ดังไม่เพียงพอและเกิดความคลาดเคลื่อนได้นั่นเอง

4.) สไตล์ของเสียง: สำหรับ ลำโพงสำหรับมืออาชีพ นั้นเป็นเรื่องของความถูกใจล้วนๆ เพราะสินค้าที่ดีนั้นจะต้องมีย่านเสียงที่ Flat แบน ตรง ห้ามมีการปรับจูนหรือ Color เสียงแม้แต่นิดเดียว เพราะอาจจะส่งผลเวลาใช้งานที่อาจทำให้เสียงที่ได้เกิดผิดเพี้ยนไปได้ ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องของรสนิยมของแต่ละคน เพราะถ้าไม่ชอบด้านนี้จริงๆ อาจจะรู้สึกไม่ถูกใจ ฟังเพลงไม่สนุกก็เป็นได้


แนะนำลำโพงสำหรับมืออาชีพยอดนิยม

ในปัจจุบันมี ลำโพงสำหรับมืออาชีพ มากมายหลากหลายรุ่นและหลากหลายแบรนด์ให้ได้เลือกซื้อ จากทั้งแบรนด์ดังระดับพรีเมียม ไปจนถึงแบรนด์ทั่วๆ ไป ที่ก็จะมีทั้งราคาระดับพรีเมียมไปจนถึงราคาสุดเป็นมิตร หากคุณกำลังมอง ลำโพงสำหรับมืออาชีพ รุ่นยอดนิยมสักรุ่นไปใช้ ไม่ว่าจะนำไปใช้งานระดับมืออาชีพ เช่นมิกซ์เสียง ทำเพลง หรือจะนำไปใช้ในการฟังเพลงสำหรับผู้ที่ชื่นชอบแนวเสียงแบบ Flat ทาง Mercular.com ก็มี ลำโพงสำหรับมืออาชีพ ยอดนิยมมาแนะนำกันดังนี้

ADAM Audio A8X
Mackie CR5-XBT 
Yamaha HS5I
KRK Rokit RP5G4

best-seller-ads
article-banner-1
article-banner-2