Ultra Short Throw Projector คืออะไร มีจุดเด่นอย่างไร

ในสถานที่ทำงานมากมายทั่วไปนั้น ห้องประชุมล้วนแล้วแต่มี โปรเจคเตอร์ เอาไว้ฉายขึ้นจอหรือผนัง เพื่อให้เหล่าพนักงานที่ได้เข้าร่วมประชุมนั้นได้เห็นแผนการต่าง ๆ ที่ทางทีมจะนำเสนอ ซึ่งหลายบริษัทต่างก็เลือกใช้ โปรเจคเตอร์ ที่เหมาะสมกับห้องของตนเองทั้งนั้น แต่ไม่ใช่แค่เพียงเอาไว้นำเสนองานอย่างเดียวเท่านั้น ตัวเครื่องยังสามารถให้ความบันเทิงกับผู้คนมากมาย โดยการเปลี่ยนผนังอันโล่งเตียนที่บ้านให้กลายมาเป็น โรงภาพยนตร์ ส่วนตัวก็ทำได้เช่นกัน ซึ่งในบทความนี้เอง Mercular ขอนำทุกคนมาทำความรู้จักกับ โปรเจคเตอร์แบบ Ultra Short Throw Projector เครื่องโปรเจคเตอร์ที่มาการฉายระยะสั้น แต่ได้หน้าจอที่ยิ่งใหญ่ตระการตา ใครอยากจะรู้รายละเอียดของเจ้าตัวนี้แล้ว ไปทำความรู้จักกันเลย

สำหรับโปรเจคเตอร์แบบ Ultra Short-Throw Projector นั้นเป็นเครื่องฉายภาพที่ออกแบบมาอย่างพิเศษด้วยตัวเลนส์และกระจกแบบพิเศษในตัวเครื่อง โดยการฉายภาพออกมานั้นจะเป็นการฉายในระยะที่เรียกได้ว่าใกล้จนจะชิด กับจอรับภาพ ซึ่งถือว่าใกล้หน้าจอมากที่สุดสำหรับอุปกรณ์โปรเจคเตอร์แล้ว โดยมีความสามารถในการฉายภาพบนจอขนาด 100 นิ้ว มอบอัตราส่วน 16:9 ในช่วงระยะการฉาย 3 - 20 นิ้ว หรือราว ๆ 8 - 50 ซม. เรียกได้ว่าแทบจะติดกับหน้าจอหรือผนังกันเลยทีเดียว และสำหรับเทคโนโลยีที่ใช้ในโปรเจคเตอร์ประเภทนี้ ยังเป็นตัวเทคโนโลยีสำหรับการฉายภาพที่ใช้กับ Laser TV อีกด้วยล่ะครับ และส่วนในเรื่องของราคานั้นก็ต้องขอบอกเลยว่า มีราคาที่แรงที่สุดในบรรดาโปรเจคเตอร์ทั้งหลายอีกด้วย 

ความแตกต่างจากโปรเจคเตอร์แบบอื่น ๆ

อย่างที่บอกไปแล้วว่าโปรเจคเตอร์แบบ Ultra Short Throw Projector นั้นถือว่าเป็นโปรเจคเตอร์ที่ฉายภาพชิดกับหน้าจอมากที่สุด แต่ว่าอาจจะยังมีคนสงสัยอยู่ว่าแล้วโปรเจคเตอร์รุ่นอื่นล่ะ ระยะของแต่ละแบบนั้นจะมากกว่าหรือแตกต่างจากแบบ Ultra Short Throw Projector นี้ยังไง ดังนั้นมาดูกันดีกว่าครับ ว่าแต่ละแบบนั้นแตกต่างกันยังไง

Standard Throw Projector สำหรับแบบนี้นั้นจะเป็นโปรเจคเตอร์มาตรฐานที่พบเห็นได้ทั่วไปตามออฟฟิศทำงานมากมาย โดยให้ระยะฉายปานกลาง สามารถฉายภาพสำหรับจอขนาด 100 นิ้ว มอบอัตราส่วนภาพ 16:9 ได้ในช่วงระยะประมาณ 8 - 10 ฟุต หรือ 2 - 4 เมตร สามารถเข้ากันได้กับจอฉายเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นตัวจอที่มีสีขาว สีเทา หรือแม้กระทั่งกำแพงขาวก็ยังสามารถฉายออกมาได้

Short Throw Projector คือเครื่องฉายภาพเพื่อการฉายในระยะใกล้กับตัวจอ มีความสามารถในการฉายภาพสำหรับจอขนาด 100 นิ้ว มอบอัตราส่วน 16:9 ในช่วงระยะประมาณ 3 - 4 ฟุต หรือประมาณ 90 - 120 ซม. มอบความสว่างและความคมชัดได้ดีกว่าโปรเจคเตอร์แบบธรรมดา และลดปัญหาการเกิดเงาบนจอภาพในกรณีที่มีคนหรือวัตถุมาบังได้อีกด้วย

Long Throw Projector สำหรับแบบนี้จะเป็นเครื่องฉายภาพโปรเจคเตอร์ระยะไกล โดยจะทำการฉายภาพสำหรับจอ 100 นิ้ว โดยสามารถวางได้ไกลจากตัวหน้าจอได้ถึง 10 - 18 เมตร ซึ่งเรียกได้ว่าไกลข้ามห้องกันเลยทีเดียว มักเป็นเครื่องฉายรุ่นใหญ่ที่สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ โดยจะถูกใช้งานในห้องโถงที่มีขนาดใหญ่ หรือว่าจะเป็นการฉายภาพขึ้นเวที ใช้ในงานอีเวนต์หรือกิจกรรมใหญ่ต่าง ๆ

เป็นโปรเจคเตอร์ที่โดดเด่นในเรื่องระยะใกล้

สำหรับความโดดเด่นที่ทำให้ตัวโปรเจคเตอร์อย่าง Ultra Short Throw Projector นั้นโดดเด่นเหนือใคร ก็คือระยะที่วางของมันนั่นเอง ซึ่งใครที่กังวลว่าหากวางในระยะใกล้แล้วจะทำให้ฉายภาพออกมาได้ไม่สมบูรณ์ ผมก็ขอบอกเลยว่าหายห่วง คุณสามารถจัดวางเจ้า Ultra Short Throw Projector ได้อย่างง่ายดายโดยไม่เกะกะพื้นที่ เพราะด้วยระยะที่ห่างเพียงประมาณนั้นช่วงระยะการฉาย 3 - 20 นิ้ว หรือราว ๆ 8 - 50 ซม. จึงทำให้ติดตั้งได้ใกล้หน้าจอมากที่สุด คุณจึงเหลือพื้นที่อีกมากมายได้ใช้สอย พร้อมด้วยเป็นการจัดการปัญหาคนเดินผ่านไปผ่านมาจนเกิดเงาทาบไปบนหน้าจอได้อีกด้วย

ห้องที่เหมาะสมสำหรับ Ultra Short Throw Projector

สำหรับในส่วนของห้องที่เหมาะสมกับการใช้งานเจ้า Ultra Short Throw Projector ตัวนี้นั้นผมก็ขอบอกเลยว่า เหมาะสมทุกขนาดครับ เพราะด้วยการจัดวางที่ห่างจากตัวจอไปเพียงราว ๆ 8 - 50 ซม. ซึ่งแถบไม่ได้ไกลเกินกว่าหนึ่งไม้บรรทัดเท่านั้น คุณจึงสามารถจัดวางเจ้าเครื่องนี้เอาไว้ใกล้จอได้ทันที ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นห้องที่แคบ ห้องขนาดกลาง หรือแม้แต่ห้องขนาดใหญ่ก็สามารถใช้งานเจ้าเครื่องนี้ได้ทันที โดยไม่ต้องสนใจว่าจะมีสิ่งใดมาบังหรือเดินขวางหรือไม่

เป็นยังไงกันบ้างครับกับบทความ Ultra Short Throw Projector คืออะไร มีจุดเด่นอย่างไร นี้ หลายคนก็คงพอจะเข้าใจการใช้งานเจ้าโปรเจคเตอร์เครื่องนี้มากยิ่งขึ้น และสามารถตัดสินใจได้แล้วว่าจะซื้อมาใช้งานหรือไม่ แต่ทาง Mercular ขอเตือนเอาไว้เรื่องหนึ่งเลยนะครับ คือเจ้า Ultra Short Throw Projector นี้นั้นจะมีราคาที่สูงกว่าโปรเจคเตอร์เครื่องอื่นทั่วไปค่อนข้าง ๆ ที่จะมากพอสมควร ดังนั้นคุณจึงควรคำนวณงบของคุณไว้ให้ดีว่าเพียงพอหรือไม่ ถ้าไม่เพียงพอก็วัดขนาดห้องให้ดี แล้วไปหาซื้อแบบอื่นที่สามารถใช้งานได้เช่นกันมาแทน จะเป็นการเซฟเงินในกระเป๋าได้ค่อนข้างมากทีเดียวเลยครับ