กล้องแต่ละประเภทใช้งานต่างกันยังไง ใช้แบบไหนถึงจะไม่ไปหวัน?
24 ก.ย. 2564
ถ้าพูดถึงเรื่องกล้องแล้วเนี่ย หลายคนก็คงรู้อยู่แล้วหล่ะว่ามันมีหน้าที่อะไร ใช้งานยังไงบ้าง แต่ถ้าเรามองเข้าไปให้ลึกกว่านี้ ก็จะพบว่ากล้องแต่ประเภทนั้นมีเป้าหมายและวิธีใช้งานที่แตกต่างกัน แล้วถ้าถามว่าความแตกต่างนั้นสำคัญรึเปล่า เราก็คงจะตอบว่าใช่ เพราะถ้านำกล้องไปใช้งานผิดประเภทนั้นอาจทำให้กล้องนั้นไม่สามารถดึงศักยภาพสูงสุดออกมาได้ และกรณีเลวร้ายสุดคืออาจทำให้กล้องของเรานั้นเสียหายจากการใช้งานเกินความจำเป็นได้ เพราะงั้นถ้าไม่อยากส่งกล้องกลับดาวกันอีกก็ควรที่จะรู้ว่ากล้องแต่ละประเภทนั้น เหมาะกับงานแบบไหน จะได้ไม่เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์กันอีก ถ้าอยากรู้ว่ามันใช้งานต่างกันยังไง ก็เตรียมตัวให้พร้อมรออ่านต่อข้างล่างกันเลย
กล้อง DSLR (DSLR Camera)
มาเริ่มกันที่กล้องประเภทแรกกันเลยอย่างกล้อง DSLR ที่เป็นกล้องที่เราจะพบเห็นได้มากที่สูดในหมู่ผู้ใช้งาน ซึ่งจุดเด่นของกล้องประเภทนี้คือเป็นกล้องระะบบดิจิตอลเลนส์เดี่ยวที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ และมีสิ่งเรียกว่า “กระจกสะท้อน” คั่นกลางระหว่างเลนส์และเซนเซอร์ของกล้อง โดยหน้าที่ของมันคือการสะท้อนภาพที่เราเล็งไว้ไปยังช่องมองภาพด้านบน เพื่อดูภาพจริงก่อนถ่าย ซึ่งพอเรากดซัตเตอร์ กระจกสะท้อนจะยกตัวเองขึ้น เพื่อหลบให้แสงส่องไปยังเซนเซอร์เพื่อนำไปสร้างเป็นภาพต่อไป ซึ่งข้อดีของกล้องประเภทนี้คือภาพมีความละเอียดสูง และมีอุปกรณ์เสริมให้ใช้อย่างหลากหลาย โดยที่กล้อง DSLR นั้นยังนิยมใช้ในงานภาพนิ่งต่างๆ มากกว่ากล้องปะเภทอื่น และในบางครั้งก็ถูกใช้ในการถ่ายวิดีโอในกล้องรุ่นสูงๆ อีกด้วย
จุดเด่นของกล้อง DSLR
- เหมาะกับมือใหม่หัดถ่าย
- ถ่ายภาพนิ่งได้ดี
- ราคาเข้าถึงได้
- มีอุปกรณ์เสริมให้เลือกอย่างหลากหลาย
กล้องมิลเลอร์เลส (Mirrorless Camera)
เป็นประเภทของกล้องที่ถูกวางตัวให้เป็นผู้สืบทอดต่อจากกล้อง DSLR ซึ่งระบบต่างๆ ก็ยังคงคล้ายคลึงกันแทบทุกอย่างยกเว้นว่ากล้องมิลเลอร์เลสนั้น จะตัดสิ่งที่เรียกว่า “กระจกสะท้อน” ออกไป แล้วใช้ระบบมองภาพผ่านหน้าจอดิจิตอลแทน ซึ่งข้อดีของการไม่มีกระจกสะท้อนนั้นทำให้ตัวกล้องมีขนาดและน้ำหนักที่เบากว่ากล้อง DSLR ทำให้สามารถเพิ่มระบบใหม่ๆ เข้าไปแทนที่ได้ ทำให้กล้องมิลเลอร์เลสนั้นมีลูกเล่นบางอย่างที่หลากหลายกว่ากล้อง DSLR อย่างเช่น ระบบกันสั่น และการถ่ายวิดีโอที่ทำได้กว่ากล้อง DSLR รวมถึงการดัดแปลงกล้องมิลเลอร์เลสไปใช้ในงาน Live Streaming อีกด้วย ส่วนการถ่ายภาพนิ่งนั้นก็ยังคงทำได้ดี ไม่แพ้กล้อง DSLR เลย ถือว่าเป็นกล้องสารพัดประโยชน์เลยทีเดียว
จุดเด่นของกล้องมิลเลอร์เลส
- มีเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมาย
- ถ่ายภาพนิ่งได้ดี ถ่ายวิดีก็สวย
- ขนาดและน้ำหนักเบากว่ากล้อง DSLR
- ดัดแปลงใช้งานได้หลากหลาย
กล้องคอมแพค (Compact Camera)
กล้องคอมแพคถือเป็นกล้องถ่ายรูปขนาดเล็ก พกพาได้ง่าย มีระบบเลนส์ที่ฝังติดมากับกล้องไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้ เหมือนกล้องสองประเภทก่อนหน้า และระบบส่วนใหญ่เป็นแบบอัตโนมัติ ไม่สามารถตั้งค่าต่างๆ ได้อย่างอิสระ แต่กล้องประเภทนี้ก็มีข้อได้เปรียบกล้อง DSLR และกล้องมิลเลอร์เลสตรงที่ราคาถูก โดยมีราคาเริ่มเพียงแค่หลักพันต้นๆ เท่านั้น ซึ่งกล้องคอมแพคนั้นส่วนใหญ่นิยมใช้ในการถ่ายรูปทั่วไปที่ไม่ได้ต้องการภาพคุณภาพสูงนัก และไม่ได้ต้องการทักษะความชำนาญในการถ่ายรูปมากนัก ถือว่าเป็นกล้องที่ใช้งานได้ง่ายที่สุดจากบรรดากล้องทั้งหมด
จุดเด่นของกล้องคอมแพค
- ขนาดเล็ก พกพาง่าย
- ราคาถูก เข้าถึงได้ง่าย
- ถึงจะถ่ายไม่เป็น ก็ถ่ายสวยได้
- ระบบอัตโนมัติแทบทุกอย่าง
กล้องฟิล์ม (Film Camera)
กล้องฟิล์ม เป็นกล้องที่ใช้ระบบฟิล์มในการบันทึกภาพ ซึ่งแตกต่างจากกล้องอื่นๆ ในปัจจุบันที่เป็นระบบดิจิตอล บันทึกภาพผ่านทางเซนเซอร์ ซึ่งฟิล์มที่ใช้ในกล้องประเภทนี้ส่วนมากจะเป็นแผ่นพลาสติกบางๆ ที่เคลือบสารไวแสง เอาไว้ เมื่อกดชัตเตอร์ถ่ายรูปแล้วแสงจากเลนส์จะตกกระทบไปบนแผ่นฟิล์มจนเกิดเป็นรูปภาพ ซึ่งฟิล์มที่ถูกถ่ายไปแล้วนั้นยังไม่สามารถนำไปใช้งานได้ทันที ต้องนำฟิล์มไปผ่านกระบวนการที่เรียกว่า “การล้างฟิล์ม” เสียก่อน ซึ่งจะต้องทำในสถานที่ปิด ไม่มีมีแสงสว่างเล็ดลอด หรือที่เรียกกันว่า “ห้องมืด” โดยนำฟิล์มที่ถ่ายมาแช่ในสารเคมีต่างๆ ซึ่งขั้นตอนนี้จะทำให้ภาพบนฟิล์มปรากฏออกมาชัดเจนขึ้น ขนสามารถนำไปใช้งานต่อได้
ส่วนระบบต่างๆ ในกล้องฟิล์มนั้นจะเป็นแบบกำหนดเอง โดยเฉพาะการใช้ฟิล์มที่ต้องมีการเลื่อนฟิล์มไปยังแผ่นถัดไปทุกครั้งหลังถ่าย ซึ่งกล้องบางตัวนั้นสามารถเลื่อนเองได้อัตโนมัติหลังถ่าย ส่วนบางตัวต้องตั้งการเลื่อนฟิล์มเอง รวมถึงการกำหนดแสง ความเร็วชัตเตอร์ต่างๆ ที่ต้องกำหนดเองด้วยมือ จึงเหมาะกับคนที่มีความรู้ความชำนาญเรื่องกล้องในระดับหนึ่ง และยังมีเรื่องของต้นทุนในการถ่ายแต่ละครั้งที่ต้องมีการเปลี่ยนม้วนฟิล์มเมื่อถ่ายจนครบ จึงต้องมีการซื้อม้วนฟิล์มใหม่ทุกครั้งที่ถ่ายหมด รวมถึงค่าล้างฟิล์มต่างๆ ด้วยความที่กล้องฟิล์มส่วนใหญ่ในปัจจุบันเป็นสินค้ามือสอง จึงต้องเน้นเรื่องการดูแลรักษาเป็นพิเศษ ด้วยขั้นตอนต่างๆที่ซับซ้อนทำให้คนทั่วไปหันไปใช้กล้องดิจิตอลที่ใช้งานง่ายกว่า ซึ่งในปัจจุบันคนที่ยังใช้กล้องฟิล์มจะเป็นกลุ่มคนที่ชอบในกระแสวินเทจ ที่มองว่ากล้องฟิล์มมีความน่าหลงใหล เป็นสิ่งของที่น่าสะสมเช่นเดียวกับสินค้าวินเทจอื่นๆ ส่วนอีกกลุ่มจะเป็นคนที่มองว่าภาพถ่ายจากกล้องฟิล์มนั้นมีความสมจริง และจับต้องได้ไม่เหมือนกล้องดิจิตอลแบบอื่นๆ รวมถึงอารมณ์และแสงสีต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของกล้องฟิล์มที่กล้องดิจิตอลนั้นไม่สามารถเลียนแบบได้
จุดเด่นของกล้องฟิล์ม
- กล้องยุดเก่าสำหรับคนรักความคลาสสิก
- ให้ Mood & Tone ที่กล้องดิจิตอลทำไม่ได้
- ใช้ความชำนาญในการถ่ายพอสมควร
- เหมาะต่อการเก็บสะสม
กล้องอินสแตนท์ (Instant Camera)
กล้องอินสแตนท์เป็นหนึ่งในกล้องประเภทย่อยของกล้องฟิล์ม แต่สิ่งที่ทำให้มันโดดเด่นกว่ากล้องฟิล์มทั่วไปนั่นคือสามารถกดถ่ายมาแล้วได้รูปทันที โดยที่ไม่ต้องนำฟิล์มไปล้างให้เสียเวลาแต่อย่างใด ที่กล้องอินสแตนท์สามารถทำแบบนี้ได้ เป็นเพราะว่ามันถูกออกแบบมาจากการรวมห้องมืดไว้ในกล้องถ่ายรูป ทำให้ฟิล์มที่เราถ่ายนั้นถูกล้างทันที ก่อนจะเลื่อนออกมาให้เราได้ดูกัน ซึ่งแบรนด์กล้องอินสแตนท์ที่โด่งดังสุดๆ คงจะเป็น “Polaroid” ซึ่งถือเป็นผู้ให้กำเนิดกล้องประเภทนี้จนคนทั่วไปเรียกกันติดปากว่า “กล้องโพลารอยด์” นั่นเอง ซึ่งสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กล้องอินสแตนท์ยังเป็นที่นิยมแม้จะอยู่ในยุคดิจิตอลแล้วที่ตาม นั่นคือ มูลค่าทางจิตใจที่เกิดจากฟิล์มอินสแตนท์ ที่ถ่ายออกมาแต่ละแผ่นที่นั้นจะมีเพียงแค่แผ่นเดียว ไม่มีใครเลียนแบบหรือแก้ไขได้ ทำให้กล้องอินสแตนท์เก่าๆ เป็นที่นิยมหมู่นักสะสม และด้วยสถานะปัจจุปันที่กล้องประเภทนี้ถือเป็นสินค้าแฟชันจากกระแสสังคม ทำให้เรายังคงเห็นกลุ่มคนรุ่นใหม่พกพากล้องอินสแตนท์ในฐานะ Accessory อีกด้วย
จุดเด่นของกล้องอินสแตนท์
- กล้องฟิล์มที่ถ่ายง่าย
- ภาพที่ได้มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
- เหมาะต่อการสะสม
- พกเป็น Fashion Accessory เก๋ๆ ก็ได้
กล้องวิดีโอ (Camcorder)
ในบรรดากล้องทั้งหมดที่เรากล่าวไปนั้น กล้องวิดีโอน่าจะเป็นกล้องอย่างสุดท้ายที่คนทั่วไปจะเลือกใช้ และบางคนก็ไม่คิดจะเลือกใช้ด้วยซ้ำ ด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่าถ้ากล้องประเภทอื่นก็ถ่ายวิดีโอได้เหมือนกัน แล้วเราจะใช้กล้องที่ถ่ายได้แค่วิดีโออย่างเดียวไปทำไม นี่ยังไม่นับว่ากล้องดิจิตอลในปัจจุบันอย่างเช่นกล้องมิลเลอร์เลสที่มีฟีเจอร์การถ่ายวิดีโอที่หลากหลายและดีพอๆ กัน ยิ่งทำให้คนเมินกล้องวิดีโอเข้าไปอีก
แต่กล้องวิดีโอนั้นก็ยังมีข้อได้เปรียบกล้องอื่นๆ อยู่ ไม่จะเป็นการบันทึกวิดีโอที่สามารถถ่ายได้นานกว่ากล้องอื่นที่จำกัดเวลาถ่าย รวมถึงการรองรับการเชื่อมต่อสัญญาณภาพและเสียงต่างๆ ที่สามารถใช้ร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ในการบันทึกไฟล์นอกกล้องหรือการไลฟ์สตรีมได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งตัวแปลงสัญญาณแต่อย่างใด รวมถึงปัญหาเรื่องความร้อนที่เกิดการถ่ายวิดีโอต่อเนื่องนานๆ จนเกิดปัญหากล้องดับกลางคันเละระบบภายในเสียหาย ซึ่งกล้องวิดีโอก็ถูกออกแบบมาให้ทนต่อการใช้งานมากกว่า เพราะฉะนั้นคราวหน้าถ้าอยากจะถ่ายวิดีโอหรือทำการถ่ายทอดสด ก็ลองหันมาใช้กล้องวิดีโอแทนดูก็ได้นะ ไม่แน่มันอาจจะตอบโจทย์มากกว่าก็ได้
จุดเด่นของกล้องวิดีโอ
- เกิดมาเพื่องานวิดีโอโดยเฉพาะ
- มีคุณภาพวิดีโอดีกว่ากล้องอื่นๆ
- ใช้งานได้นานกว่า
- และเหมาะต่อการถ่ายทอดสดที่สุด
กล้องแอคชันแคม (Action Camera)
มาถึงกล้องลำดับสุดท้ายในลิสต์ของเรากันแล้ว กับกล้องน้องใหม่ที่เกิดมาเพื่อคนชอบเล่นกีฬาและนักเดินทางอย่างกล้องแอคชันแคม หรืออีกชื่อเล่นที่มาแบรนด์ดังอย่าง “กล้องโกโปร” ที่ได้ยินเป็นต้องร้องอ๋อกันแน่ๆ ซึ่งจุดเด่นของกล้องประเภทนี้คือขนาดที่เล็กเพียงฝ่ามือ ทำให้พกพกได้ง่ายสุดๆ แถมกล้องแอคชันแคมหลายๆ ตัวยังสามารถกันกระแทก กันฝุ่น และกันน้ำลึกได้อีกด้วย และบางคนอาจจะคิดว่ากล้องตัวเล็กแค่นี้จะไปถ่ายสู้กล้องใหญ่ๆ ได้ยังไง ซึ่งก็บอกตรงๆ เลยว่าสู้ได้สบายบรื๋อ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณภาพไฟล์ภาพนิ่งและวิดีโอที่ดีไม่แพ้กัน ระบบภายในต่างๆ อย่างการกันสั่งและฟีเจอร์การถ่ายต่างๆ ก็มีให้เลือกอย่างหลากหลายอย่างเช่นการถ่ายวิดีโอ Timelapse หรือ Slow Motion ที่เป็นฟีเจอร์หลักที่ทำให้หลายคนเลือกใช้กล้องแอคชันแคม
กล้องแอคชันนั้นสามารถในมาใช้งานได้หลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นกล้องติดหมวก กล้องติดรถยนต์ หรือจะติดกับอุปกรณ์อะไรก็ได้ หรือจะใช้ถ่ายบรรยากาศต่างๆ ใช้ถ่ายภาพใต้น้ำ ใช้เป็นกล้องเซลฟี่ หรือจะเป็นกล้องไลฟ์สดทั้งในและนอกสถานที่ก็ย่อมได้ และด้วยความทนทานของกล้องแอคชันแคม ทำให้มันถูกนำไปตั้งถ่ายในจุดที่เสี่ยงอันตราย โดยเฉพาะในวงการภาพยนต์ที่มักใช้กล้องประเภทถ่ายในรถที่กำลังถูกชน หรือตึกที่กำลังถล่ม เป็นต้น เรียกได้ว่าใช้งานได้หลากหลายและมีคุณภาพ จนต้องยกฉายาให้ว่า “เล็กพริกขี้หนู” จริงๆ
จุดเด่นของกล้องแอคชันแคม
- เล็กกะทัดรัด ขนาดเพียงแค่ฝ่ามือ
- แข็งแรงทนทาน กันน้ำกันฝุ่น
- ติดตั้งมุมไหน กับอะไรก็ได้
- ใช้งานได้หลากหลายสถานการ์ณ
เลือกกล้องแบบไหน ถึงจะไม่เสียใจภายหลัง
เชื่อว่าหลายคนที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ก็คงจะเข้าใจถึงจุดประสงค์ที่แตกต่างกันของกล้องแต่ละตัวบ้างแล้ว หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับทุกคนที่สนใจในกล้องถ่ายรูป และสามารถนำไปปรับใช้เพื่อที่จะรีดประสิทธิภาพสูงสุดในกล้องของแต่ละคนออกมา และช่วยประกอบการตัดสินใจให้กับคนที่กำลังหากล้องใหม่ด้วย สุดท้ายนี้ทาง Mercular.com ก็ขอฝากหมวดหมู่สินค้า Drone & Camera ที่ตอนนี้มีทั้งกล้อง ทั้งโดรน และอุปกรณ์เสริมต่างๆ มากมายให้ทุกคนได้เลือกซื้อกัน >>>>>ตามลิงค์นี้เลย<<<<< ไว้โอกาศหน้าเราจะหาบทความดีๆ มาให้อ่านกันอีก เตรียมจอรออ่านกันได้เลย