หูฟังไร้สาย B&O Play BeoPlay E8 2.0 Black

หูฟังไร้สาย B&O Play BeoPlay E8 2.0 ราคา สูงขึ้นมากว่ารุ่นที่แล้วเล็กน้อย แต่เมื่อมองถึงภาพรวมคือคุ้มค่ามาก ๆ ภายในอัดแน่นมาด้วยคุณสมบัติที่ทำให้เหนือกว่า สินค้าประเภทเดียวกันจากแบรนด์อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุที่เลือกใช้ Anodized Aluminium, Polymer Silicone และหนังแท้ การเชื่อมต่อแบบไร้สาย True Wireless ที่พัฒนามาจากรุ่นที่แล้วให้มีความเสถียร เชื่อมต่อง่าย สมราคามากขึ้น มาพร้อมฟังก์ชั่นเด็ดอย่าง Transparency Mode ปรับได้ 3 ระดับและ ToneTouch พร้อมด้วยไมค์ในตัวแบบ Omnidirectional ที่รับเสียงได้จากทุกมุม ทำให้สามารถคุย สื่อสาร สนทนาได้สะดวกโดยที่ไม่ต้องถอดออก เหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาสินค้าที่ให้เสียงได้อย่างดีเยี่ยม ใช้งานง่าย เชื่อมต่อแบบไม่ต้องมีสายมาให้วุ่นวาย หรูหรา แบตเตอรี่ใช้งานได้กำลังดี เคสที่ชาร์จได้ง่าย ชาร์จไร้สายก็ได้และมีงบพอสมควร ถ้าหากมีงบและชื่นชอบความหรูหราก็บอกได้เลยว่า ห้ามพลาด!

หลังจากที่ออกมาตีตลาดจนฮิตติดลมบนกันทั่วบ้านทั่วเมืองในรุ่น BeoPlay E8 ครองตำแหน่งสินค้ารูปลักษณ์สุดหรูที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีรุ่นใหม่ล่าสุด ที่แม้ราคาจะไฮเอนด์ตามความสามารถแต่ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้รุ่นอื่น ๆ ที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด และด้วยความนิยมที่มากแน่นอนว่าทางแบรนด์ก็ไม่รอช้าส่งรุ่นอัพเกรดมาเอาใจแฟนหรือคนที่ลังเลว่าจะซื้อดีไหมกับรุ่น B&O Play BeoPlay E8 2.0 ที่มาครั้งนี้ใส่ความสามารถให้ตอบโจทย์ความเป็นไฮเอนด์มากขึ้นนั่นเอง โดยยังมาพร้อมรูปทรงแบบเดิมทุกประการ เคสสำหรับพกพาและชาร์จที่ได้รับการปรับปรุงจากเดิมที่ต้องใช้สายคาดเพื่อรัดไว้ในรุ่นนี้ก็เปลี่ยนเป็นแบบประกอบล็อคแบบทั่วไปแล้ว และอีกจุดนั่นก็คือตัวเคสรองรับการชาร์จแบบไร้สายแค่นำไปวางบนแท่นชาร์จไร้สายก็สามารถชาร์จได้ทันทีสะดวกสุด ๆ ขนาดอยู่ที่ 23 x 20 x 25 มิลลิเมตร และตัวเคสอยู่ที่ 69 x 46.5 x 34 มิลลิเมตร น้ำหนักตัว E8 2.0 อยู่ที่ 7 กรัมและเคสอยู่ที่ 55 กรัม การออกแบบยังคงใช้การออกแบบจาก Bang & Olufsen design แบบเดิม วัสดุที่ใช้มีความหรูหราทนทานด้วย Anodized Aluminium, Polymer Silicone และหนังแท้ ใช้การเชื่อมต่อเป็น Bluetooth 4.2 เป็น หูฟังไร้สายอิสระ True Wireless Headphone ภายในมาพร้อมไดร์เวอร์ขับเสียงแบบพิเศษจากทางแบรนด์คือ Electro-dynamic ขนาดข้างละ 5.7 มิลลิเมตร ซึ่งได้รับการพิสูจน์จากหลาย ๆ รุ่นแล้วว่าสามารถขับเสียงได้สมจริง มีความใส รายละเอียดครบจัดเต็ม รองรับคลื่นความถี่เสียงที่ 20 - 20,000 Hz ความต้านทานที่ 16 Ohm และ Sensitivity ที่ 107 dB SPL +/-3 dB, ref 1 mW @ 1 kHz มาพร้อมโหมดการใช้งานอัจฉริยะแบบเดิมนั่นคือ Transparency Mode และ ToneTouch สามารถควบคุมและตั้งค่าได้ผ่านแอป Bang & Olufsen App เรียกได้ว่าสะดวกแบบสุด ๆ นอกจากนั้นยังสามารถควบคุมได้ที่ตัวสินค้าโดยตรงด้วยปุ่ม Multi-Function ทั้ง 2 ข้างโดยที่พื้นผิวด้านบนเป็นระบบสัมผัสอีกด้วย รับสายสนทนาได้โดยไม่ต้องถอดออกพร้อมไมโครโฟนในตัวแบบ Omnidirectional รับเสียงได้รอบทิศทาง ไม่ว่าจะใส่อยู่มุมไหนก็ได้ยินอย่างชัดเจน เสียงคมชัดจะแจ้งทุกคำ ไม่พลาดทุกการติดต่ออย่างแน่นอน มาพร้อมแบตเตอรี่ภายในตัวโดยตัว E8 2.0 สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 4 ชั่วโมง และสามารถชาร์จเพิ่มจากเคสได้อีก 3 ครั้งรวมใช้งานได้ถึง 16 ชั่วโมงเลยทีเดียว

แนวเสียงออกแนว B&O อย่างชัดเจน ประทับใจมากๆ เลยคือเวทีเสียงที่โปร่งมากๆ แยกแยะชิ้นดนตรีได้ชัดเจน และยังคงรายละเอียดได้ดี รองลงมาคือย่านเสียงแหลมที่เด่นมากๆ ให้เสียงที่คมกริป ละเอียดแบบสุดๆ ปลายเสียงถึงไหนถึงกันเลยทีเดียว แรกๆ อาจจะมีบาดหูไปบ้าง แต่เบิร์นไปซักพักจัดว่าละมุนขึ้นมาก เสียงกลางก็ถือว่า เนื้อเสียง นักร้องลอยเด่น ชัดจะแจ้ง ส่วนย่านเบสนี่อาจจะถือว่าเป็นจุดอ่อนของหูฟังตัวนี้ สายเบสอาจจะไม่ตอบโจทย์ อิมแพคมีไม่มาก เป็นเบสแบบหัวโน้ตให้ความรู้สึกถึงเบสที่สะอาด ไม่ปรุงแต่งมาก แต่ความลึกนี่จัดว่าลึกมากๆ เรียกว่าเป็นเบสแบบผู้ดีตามสไตล์ B&O

แนวเพลงที่เหมาะสม

Pop / Pop-Rock / Rock / Alternative / Hip-Hop / R&B / EDM