รับประกันโดยศูนย์ไทยระยะเวลา 1 ปี
เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
แชทคุยกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกสินค้าที่ใช่สำหรับคุณ
รีวิว ลำโพง Bose Smart Soundbar 300
สรุป ลำโพง Bose Smart Soundbar 300 เหมาะกับใคร?
ลำโพง Bose Smart Soundbar 300 ราคาเบาลงกว่าในรุ่น Bose Soundbar 500 แต่มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่จัดเต็มกว่า โดย Bose Smart Soundbar 300 เหมาะกับผู้ใช้งานที่กำลังมองหาสินค้าประเภท ลำโพง Soundbar อัจฉริยะ โดดเด่นด้วยฟังก์ชันล้ำๆ ตามสไตล์ของ Bose ที่โดดเด่นกว่าสินค้าจากแบรนด์อื่นๆ ทั้ง Voice4Video ที่สามารถรับคำสั่งเสียงได้ตลอดเวลาแม้จะใช้งานรับชมภาพยนตร์อยู่ก็ตาม และฟังก์ชัน SimpleSync ที่ต่อเสียงไปออกหูฟัง Bose ได้แบบไร้สาย เหมาะกับการใช้งานรับชมภาพยนตร์ต่อเนื่องในขณะที่ไม่ต้องการให้เสียงจาก Soundbar ออกมารบกวนคนรอบข้าง นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อกับ Subwoofer และสินค้ารุ่นอื่นๆ ในซีรีส์ Bose Smart Speker ได้แบบไร้สาย รวมถึงยังรองรับการใช้งานผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะทั้ง Amazon Alexa และ Google Assistant อีกด้วย งานนี้คนที่มองหา Soundbar ที่ทั้ง Smart และครบเครื่องดูหนังฟังเพลงได้ยอดเยี่ยมบอกเลยว่าห้ามพลาด
Bose Smart Soundbar 300 มาพร้อมกับขนาดที่กะทัดรัดตั้งวางไว้หน้า TV ได้สบายๆ พร้อมด้วยเสียงที่ดังกระหึ่มเกินตัวซึ่งเหมาะกับห้องขนาด 3.5 ตารางเมตรขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่นที่มีโซฟานั่งกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป หรือจะเป็นห้องนอนที่มีเตียงขนาด King Size ขึ้นไปก็ไม่มีปัญหา ให้เสียงกระหึ่มครอบคลุมทั้งห้องอย่างแน่นอน
Key-Highlight
- ลำโพง Soundbar อัจฉริยะสุดพรีเมียม
- ให้เสียงที่ยอดเยี่ยม เสียงพูดคมชัด
- Voice4Video รับเสียงสั่งการได้แม้เปิดหนังอยู่
- รองรับการเชื่อมต่อกับ Bose Smart Speaker
- SimpleSync ต่อเสียงไปหูฟัง Bose แบบไร้สาย
- เชื่อมต่อไร้สายได้ทั้ง Bluetooth และ Wifi
- รองรับ Spotify Connect และ Apple AirPlay 2
- รองรับผู้ช่วยเสียง Alexa และ Google (ไม่เปิดให้ใช้ในประเทศไทย)
- เชื่อมต่อมีสายได้อย่างครบครัน
- ต่อ Subwoofer และ Surround เพิ่มได้
- รองรับการใช้งานกับแอป Bose Music
การเชื่อมต่อ
- Bluetooth 4.2
- Wifi
- HDMI ARC
- Optical
- Bass Module Connection
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- 1 x Bose Smart Soundbar 300
- 1 x รีโมทสำหรับควบคุม
- 1 x สาย Optical
- 1 x สายไฟ
- 1 x คู่มือการใช้งาน
Soundbar อัจฉริยะสุดหรู พร้อมฟังก์ชันสุดล้ำ
หน้าตาพรีเมียมตามสไตล์ Bose
พูดถึงเรื่องหน้าตาและการออกแบบ Bose Smart Soundbar 300 ยังคงคาแรคเตอร์ของแบรนด์เอาไว้ได้อย่างครบถ้วน ตัวลำโพงมีสีดำสุดพรีเมียมสไตล์ Bose ตั้งวางไว้บริเวณใดในบ้านก็ดูเข้ากัน มาพร้อมขนาดที่กำลังดีเพียง H: 2¼ x W: 27½ x D: 4 นิ้ว เหมาะกับการใช้งานกับ TV ขนาด 35 นิ้วขึ้นไป และสามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกด้วยน้ำหนักที่เบากำลังดีราวๆ 3 กิโลกรัมเท่านั้น
Smart Assistant พร้อม Voice4Video
สำหรับจุดเด่นของ Smart Soundbar 300 คือในรุ่นนี้ได้ใส่ผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะเข้ามาทั้ง Amazon Alexa และ Google Assistant สามารถรับเสียงสั่งการได้ตลอดเวลา รวมถึงยังใส่ฟังก์ชันพิเศษอย่าง Voice4Video เข้ามาด้วย การทำงานคือตัวลำโพงสามารถแยกเสียงระหว่างภาพยนตร์ที่กำลังรับชมและเสียงสั่งการได้อย่างอัจฉริยะ ทำให้สามารถสั่งการได้แม้จะรับชมภาพยนตร์ก็ตาม เรียกได้ว่าสะดวกสุดๆ
SimpleSync เวลาที่ไม่ต้องการกวนใคร
อีกจุดเด่นของรุ่นก็คือความสามารถในการเชื่อมต่อเข้ากับ หูฟังของ Bose เช่น Bose Noise Cancelling Headphones 700 ได้แบบไร้สาย ตอบโจทย์การใช้งานในเวลากลางคืนหรือในขณะที่ต้องการรับชมภาพยนตร์โดยไม่ต้องการให้เสียงรบกวนคนรอบข้าง และยังเชื่อมต่อได้ง่ายเพียงนำ หูฟังมาเชื่อมต่อกับ Soundbar ได้โดยตรงนั่นเอง นอกจากนี้ยังมาพร้อมการเชื่อมต่อที่ครบครันทั้งไร้สาย Bluetooth, Wifi และมีสายผ่าน HDMI ARC, Optical ได้อีกด้วย
ต่อ Sub, Surround และ Bose Smart ได้
สำหรับผู้ที่รู้สึกว่า Smart Soundbar 300 ตัวเดียวยังให้เสียงไม่พอความต้องการนั้นก็ไม่มีปัญหา เพราะตัวลำโพงรองรับการต่อลำโพงเสริม ทั้งเพิ่มเบสให้กระหึ่มมากยิ่งขึ้นด้วย Bass Module หรือจะเพิ่มมิติเสียงให้มีความ Surround รอบทิศทางก็สามารถเพิ่มได้เช่นกัน หรือจะเชื่อมต่อเข้ากับลำโพงตัวอื่นๆ ในซีรีส์ Bose Smart Speaker ก็ยังได้ ผ่านฟังก์ชัน SimpleSync เแบบเดียวกับหูฟังนั่นเอง
รีวิวเสียง
ด้านเสียงต้องบอกเลยว่า Bose Smart Soundbar 300 จะเข้ามาเป็น Soundbar ตัวใหม่ในใจใครหลายๆ คนแน่นอนด้วยแนวเสียงที่ยังคงคาแรคเตอร์ เอกลักษณ์ของแบรนด์เอาไว้อย่างครบถ้วนแม้จะมีตัวลำโพงซาวน์บาร์เดี่ยวๆ ก็ตามไม่ว่าจะเป็นด้านรายละเอียดที่คมชัดจัดเต็ม เสียงพูดที่คมชัด ใส ฟังง่ายกว่าลำโพงทั่วๆ ไป และเสียงเบสที่ลงได้ลึกกระหึ่มแม้จะยังไม่ต่อ Subwoofer เพิ่มก็ตาม
- เสียงกลาง: เนื้อเสียงมีความใส โปร่ง ออกโทนเย็น ให้เสียงพูดที่คมชัดฟังง่าย รายละเอียดเสียงอื่นๆ ก็มีมาให้อย่างครบถ้วน ทำให้ฟังได้สนุกไม่ว่าจะฟังเพลงหรือดูหนังก็ตาม
- เสียงแหลม: ทอดไปได้ไกลมากๆ ต้องบอกว่าเป็นย่านเสียงที่ Bose ทำมาได้ดีในทุกรุ่นจนมาถึงรุ่นนี้ก็ยังคงทำได้ดีเช่นกัน เนื้อเสียงมีความเรียบเนียน ไม่มีสากเสี้ยนบาดหูแม้แต่นิดเดียว และยังไล่ตัวโน๊ตได้ตรง ตัดเก็บปลายได้ดีไม่แตกหรือพร่าปลายอีกด้วย
- เสียงเบส: ต้องบอกว่าจุดเด่น เพราะให้เสียงเบสที่มีความนิ่มนวล ลงได้ลึก ลูกใหญ่เนื้อแน่น แม้จะไม่ได้ต่อ Subwoofer แยกก็ตาม เสียงระเบิดแต่ละครั้งคือมีความสมจริง แรงส่งสูงปะทะหูตูมตามถึงใจ
- เวทีเสียง: ให้มิติเสียงกว้างพอประมาณ คือไม่ถึงกับกว้างโล่ง แต่ก็มีเนื้อที่พอประมาณ จัดวางเครื่องดนตรีได้อย่างเป็นระเบียบ เว้นที่ระหว่างกันได้เป็นอย่างดีไม่มีอาการเครื่องดนตรีหรือเสียงทับกัน รวมถึงให้ทิศทางเสียงที่สมจริงแม้จะเป็นเพียง Soundbar แท่งโดดๆ ก็ตาม
แนวเพลงที่เหมาะสม: Pop / Rock / Classic / Jazz
สำหรับการดูหนังจุดเด่นคือให้เสียงพูดสนทนาที่คมชัดในระดับเดียวกับเสียงเอฟเฟกต์ ไม่ต้องมาคอยเพิ่มเสียงเวลาไม่ได้ยินเสียงพูด หรือต้องลดเสียงเวลาเสียงเอฟเฟกต์ดังขึ้นมา รวมรายละเอียดเสียงต่างๆ ที่แจกแจงได้อย่างชัดเจนทั้งเสียงลม เสียงเดิน เสียงขยับหรือจับสิ่งของต่างๆ รวมไปถึงเสียงระเบิดหรือเสียงของแตกก็ทำออกมาได้อย่างสมจริงๆ แบบที่บอกเลยว่าลำโพงแท่งเดียวก็เอาอยู่
แนวภาพยนตร์ที่เหมาะสม: Action / Sci-fi / Horror
ลำโพงรุ่นอื่นๆ ที่น่าสนใจ:
- ลำโพง LG SP9A Soundbar
- ลำโพง LG SP8A Soundbar
- ลำโพง Sonos Ray Soundbar
- ลำโพง Klipsch Cinema 400 Sound Bar
ไร้สาย
บลูทูธ, ไวไฟ, HDMI
รองรับ
รองรับ
AirPlay, Spotify Connect, Multi-Room
Active
Soundbar Only
69.85 x 5.72 x 10.16
3.175 kg