มินิรีวิว หูฟังไร้สาย Creative Outlier Gold True Wireless
รับประกันโดยศูนย์ไทย ระยะเวลา 1 ปี
เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
แชทคุยกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกสินค้าที่ใช่สำหรับคุณ
รีวิว หูฟังไร้สาย Creative Outlier gold True Wireless
สรุป หูฟังไร้สาย Creative Outlier gold True Wireless เหมาะกับใคร ?
Creative Outlier Gold เป็นหูฟังทรูไวเลสที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีจำลองเสียง Super X-FI ตัวแรกของโลก ซึ่งเจ้าเทคโนโลยี Super X-FI หรือ SX-FI ตัวนี้เป็นเทคโนโลยีเสียงสมจริงของ Creative ที่สามารถสร้างแหล่งกำเนิดเสียงจำลอง ที่สามารถคว้ารางวัล Best of CES 2019 ไปได้และเป็น Top pick ในงาน CES ของ Reviewer ระดับโลกมากถึง 15 เจ้า แถมยังได้รางวัลในตำแหน่งสูง ๆ จากงานแสดงเทคโนโลยีอีกมากมายซึ่งเจ้า Outlier Gold ตัวนี้แม้ว่าจะมีความโดดเด่นในเรื่องของเทคโนโลยี แต่ราคาของมันก็มาแบบเบา ๆ สไตล์ Creative ด้วยราคาเพียง 2,990 บาทเท่านั้น แถมปัจจุบันมันยังขึ้นชื่อว่าเป็น True wireless ที่มีแบตเตอรี่อึดและทนทานที่สุดด้วยในขณะนี้ด้วยแบทที่มากถึง 39 ชั่วโมง เลยทีเดียว
"หูฟังทรูไวเลส SXFI ตัวแรกของโลก"
Super X-FI คืออะไร ?
Super X-FI หรือ เสียง SXFI เป็น การทำงานผลของซอฟท์แวร์ ที่จะปลดล็อคการทำงานของหูฟังให้ได้ยินเสียงแบบ Holography โดยจับการทำงานมาจากลำโพงระดับ Hi-end และนำมาสร้างเป็นตัว Software และรวมกับเทคโนโลยีสร้างเสียงจำลองตามสภาพศรีษะของผู้ฟังทำให้ได้เสียงที่ต่างกันออกไปในผู้ฟังแต่ละคนนั่นเอง โดย A.I. ภายในโปรแกรมนั้นจะอ้างอิงข้อมูลมาจากภาพศรีษะของผู้ใช้งานเพื่อประมวลผลและสร้างมิติเสียงที่สมจริงขึ้นมาตามโครงสร้างใบหน้าของผู้ใช้เพื่อทำให้ได้มิติและคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมที่สุดเฉพาะคน
การออกแบบที่ยอดเยี่ยม พร้อม IPX5
เจ้าหูฟังไร้สาย Creative Outlier Gold นั้นก็จะใช้การออกแบบด้วยสีแชมเปญโกลด์สุดเรียบหรู เหมือนกับชื่อรุ่นของมันเลย ส่วนโครงสร้างและบอดี้ของมันนั้นก็จะเป็นพลาสติก ทำให้ตัวหูฟังมีน้ำหนักที่เบามาก ๆ 2 ข้างรวมกันเพียง 11.2 กรัมเท่านั้น แถมยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้สูงสุดถึงประมาณ 14 ชั่วโมงต่อ 1 ชาร์จและใช้เวลาชาร์จจาก 0 – 100% เพียง 3.5 ชั่วโมงเท่านั้น เรียกได้ว่าแบตเตอรี่ทนทานกว่าหูฟัง True Wireless ธรรมดา ๆ 1 – 3 เท่ากันเลยทีเดียว แถมยังสามารถเสียบสายชาร์จได้อีก 2 ครั้งโดยระยะเวลาใช้งานรวมของมันก็จะอยู่ที่ 39 ชั่วโมงเลยทีเดียว เรียกได้ว่าแม้จะเป็นไฟลต์บินเส้นทางยาว 10 ชั่วโมง คุณก็สามารถเพลิดเพลินไปกับเสียงระดับ Super XFI ได้ตลอดการเดินทาง การสวมใส่ก็ค่อนข้างสบายเบาหู รูปทรงออกแบบมาให้สวมใส่ง่าย ไม่หลุดง่าย สามารถเอาไปใช้ออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่ เพราะตัวหูฟังกันน้ำได้ถึง ระดับ IPX5 เลยทีเดียว
การเชื่อมต่อ
- Bluetooth 5.0
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- 1 x หูฟัง Creative Outlier Gold
- 1 x เคสชาร์จพกพา
- 1 x จุกหูฟัง 4 คู่ (S 2 คู่ , M 2 คู่)
- 1 x สายชาร์จ USB-C
- 1 x คู่มือการใช้งาน
Key Highlight
- หูฟัง True Wireless Super XFI ตัวแรกของโลก
- รองรับ Voice Assistant
- ระดับการกันน้ำ IPX5 ใช้ออกกำลังกายได้
- แบตเตอรี่ใช้งานได้นานต่อเนื่อง 14 ชั่วโมง
- ไมค์ใช้งานได้ทั้งสองข้างทั้งรับเสียงและพูด
- ใช้ Application ปรับ EQ และ Presets เสียงต่าง ๆ ได้
ไมโครโฟน
ไมโครโฟนของ Outlier Gold นั้นมีรูปแบบการรับเสียงแบบ Omni-Directional รับเสียงค่อนข้างดีมาก ๆ แต่ในเรื่องของเสียงรบกวนอาจจะสู้กับทรูไวเลสที่เน้นไมค์โดยเฉพาะไม่ได้ ยังขนาดในเรื่องของการตัดเสียงรบกวนระหว่างการพูดออกไป สำหรับการใช้งานรับเข้าโทรออก สามารถใช้งานได้ทั้งสองข้าง และเสียงหูฟังออกทั้งสองข้างเช่นกัน โดยรวมแล้วถือว่าสามารถใช้งานได้ทั่ว ๆ ไป แต่หากอยู่ในที่ ๆ เสียงรบกวนสูงมาก การใช้งานไมค์มือถือปกตินั้นจะสามารถสื่อสารได้ดีกว่านั่นเอง
การเชื่อมต่อและดีเลย์
สำหรับการเชื่อมต่อหูฟัง Creative Outlier Gold แนะนำให้เชื่อมต่อข้างใดข้างหนึ่งก่อน โดยการนำหูฟังออกมาจากเคสชาร์จเพียง 1 ข้างเท่านั้นจากนั้นก็ทำการเชื่อมต่อให้เรียบร้อย เมื่อนำหูฟังอีกข้างออกมาจากเคสหูฟัง มันจะทำการเชื่อมต่อกันเอง และให้เรายืนยันผ่านหน้าจอ Device ของเราอีกครั้ง โดยเจ้าหูฟังตัวนี้ก็จะเชื่อมต่อโดยใช้สัญญาณ Bluetooth 5.0 ระยะการเชื่อมต่อแบบไร้สิ่งกีดขวาง 10 เมตร และรองรับรหัสส่งสัญญาณ SBC AAC รวมไปถึงสัญญาณคุณภาพสูงอย่าง aptX อีกด้วย ส่วนดีเลย์การส่งสัญญาณสำหรับการดูหนัง Youtube Netflix สำหรับ iOS เรียกได้ว่าลื่นสุด ๆ แต่กับ Android ก็จะมีดีเลย์เล็กน้อย ส่วนการเล่นเกมสำหรับ iOS ถือว่าดีเลย์น้อยกว่าหูฟังหลาย ๆ ตัวทำให้ใช้เล่นเกมได้พอประมาณ ส่วน Android ก็มีดีเลย์เล็กน้อยตามประสา True Wireless ทั่ว ๆ ไป นั่นเอง
Super XFI Application
สำหรับการใช้งาน Application เสริมของ หูฟังทรูไวเลส Creative Outlier Gold ตัวนี้ หากใครหาชื่อแอปไม่เจออาจจะหมายถึงว่า Store ของคุณไม่ถูกต้องแนะนำให้ลองเปลี่ยนไปเป็น Store ของอเมริกา หรือญี่ปุ่นเพื่อเชคดู หากไม่มีให้ติดต่อขอข้อมูลเพิ่มไปที่ Support หรือ Mercular ได้เลย โดยการใช้งานนั้น ตัวแอพจะเล่นได้เฉพาะเพลงที่ถูกบันทึกอยู่ในเครื่องเท่านั้น ซึ่งเหมือนกับ FiiO Music เลย สำหรับ iOS จำเป็นจะต้องเป็นเพลงที่ซื้อเอาไว้ และ Sync ลงเครื่องผ่าน iTunes นั่นเอง ส่วน Android นั้นจะได้เปรียบในส่วนนี้นั่นเอง ซึ่งการเริ่มต้นใช้งาน Application ของ Outlier gold ก็จะต้องทำการแสกนหน้า แสกนหูกันก่อนครับ เพราะเจ้า Super XFI เป็นโปรแกรมสร้างเสียงจำลอง ที่จะกำหนดแหล่งกำเนิดเสียงของเสียงต่าง ๆ ใหม่ให้สมจริงมากขึ้น โดยอิงจากรูปทรงหัวของผู้ใช้งานแต่ละคน โดยการใช้งานเสียง Super XFI ของ เจ้า Outlier Gold ก็จะใช้ได้กับการฟังเพลงภายในแอพพลิเคชั่นเท่านั้น ซึ่งเสียงที่ได้ก็จะมีความสด และบรรยากาศที่สมจริงมากขึ้น คล้าย ๆ กับการฟังเพลงในคอนเสิร์ตเลย นอกจากนั้นตัว Application ยังสามารถใช้ปรับ Bass และ Treble รวมไปถึงสลับไปใช้ Preset สำเร็จรูป และส่วนตัวได้อย่างอิสระ เรียกได้ว่าเป็นฟังก์ชั่นที่คุ้มค่ามาก ๆ สำหรับหูฟังราคา 2,990 บาท
รีวิวเสียง
โดยในด้านเสียงเจ้าหูฟัง Creative ตัวนี้ก็จะมาพร้อมกับไดนามิกไดรเวอร์ขนาด 5.6 มม. และช่วงขับเสียงระหว่าง 20 – 20,000 Hz พื้นฐานเสียงของมันโดยไม่ใช้ Super XFI ก็จะเน้นไปที่เสียงกลางที่โดดเด่นแต่หลังจากเปิดใช้งานระบบ Super XFI แล้วเวทีเสียงก็จะกว้างขึ้นมาก ๆ เสียงร้องที่โดดออกมาก็จะถูกห้อมล้อมไปด้วยเสียงของบรรยากาศที่มีความกลมมากขึ้น แม้ว่าจะเป็นหูฟัง In-ear ก็จัดว่ามีเวทีเสียงกว้างใกล้เคียงกับ Headphone เลย แต่เวลาเปิด Super XFI อาจจะต้องใช้เวลาให้ตัวโปรแกรมคำนวนเสียงต่าง ๆ เล็กน้อยเสียงช่วง 10 วิแรกเสียงบางอย่างอาจจะอุดอู้ หรือฟังดูแปลก ๆ ไปบ้างไม่ต้องตกใจไปนะครับ (รีวิวเสียงไม่นับรวมระหว่างใช้ Super X-fi)
เสียงเบส: ค่อนข้างชัดเจน มีแรงปะทะดี เนื้อเสียงลงได้ลึกในระดับนึง และสัมผัสได้ถึงความลึกของเสียงเบส แน่นอนว่าเมื่อเปิดใช้งานเสียง Super X-fi แล้วคุณภาพเสียงเบสนั้นก็รุนแรงขึ้นมาก ๆ เรียกว่าใช้งานสนุกจริง ๆ
เสียงกลาง: โดยปกติเมื่อไม่ใช่งาน Super X-fi เสียงจะเหมือนตัว V คว่ำ ที่เสียงร้องโดดออกมา และเครื่องดนตรีจะอยู่หลัง ๆ หน่อย แต่เมื่อใช้งาน SFXI แล้ว เสียงก็จะถูกห้อมล้อมมากขึ้น ในเรื่องของเนื้อเสียงก็ถือว่าโดดเด่น เสียงร้องชัดเก็บคาแรคเตอร์เสียงดี เสียงสะอาดใส ไม่ถูกรบกวนโดยย่านอื่น ๆ
เสียงสูง: ทำได้ค่อนข้างดี เสียงใสไม่บาดหู แต่ไม่ได้มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ เสียงเครื่องดนตรีมีความชัดเจน ฟังได้อย่างลื่นไหลสบายหู และเก็บคาแรคเตอร์ของชิ้นดนตรีได้ดี ยิ่งเมื่อใช้งาน Super-Xfi เสียงเครื่องดนตรีที่หลบอยู่หลังเสียงร้องก็จะมีมิติมากขึ้น และชัดเจนขึ้นด้วย
เวทีเสียง: กลาง ๆ ไม่โดดเด่นมาก เสียงร้องเสียงพูดชัด เนื้อเสียงไม่ล้นทับไลน์กัน แต่เมื่อใช้ Super X-fi เวทีเสียงจะกว้างขึ้นมาก ๆ เสียงกลางที่โดดขึ้นมาจะถูกห้อมล้อมไว้ด้วยเสียงต่าง ๆ เหมือนอยู่ในคอนเสิร์ตมากขึ้นให้อารมณ์เทียบเท่า Headphone เลยทีเดียว
โดยรวมแล้วถือว่าเป็นหูฟังที่ใช้ฟังเพลงง่าย เสียงสนุก มี EQ ในตัว เป็นหูฟังที่ลูกเล่นเยอะมาก ๆ สำหรับช่วงราคา 3 พันบาท แถมคุณภาพเสียงก็ถือว่าสูงเกินราคา เทียบได้กับ แถมราคาสีสันและการออกแบบก็ถือว่าสวยงามหรูหรา แข็งแรงทนทาน และชั่วโมงการทำงานที่อึดทนทาน ใช้งานได้หลากหลาย แต่ที่แน่ ๆ แต่เมื่อนำไปใช้งานกับแอพจะช่วยทำให้เสียงดีขึ้นมากๆ แถมยังปรับ EQ และ Preset ต่าง ๆ ได้อีก เรียกว่าในส่วนนี้ Creative Outlier Gold ทำงานได้คุ้มค่าโดดเด่นกว่าหูฟังตัวอื่น ๆ ในช่วงราคาเดียวกันอย่างชัดเจนเลย ตัวหูฟังเหมาะกับการฟังเพลงมากกว่าดูหนัง หรือเล่นเกม และแนะนำว่าใช้งานควบคู่กับ Application จะให้เสียงที่ดีที่สุดครับ เพราะหากใช้โดด ๆ นั้น ตัวของเจ้า Outlier gold อาจจะยังพอมีคู่แข่ง ที่เทียบกันได้อยู่บ้างนั่นเอง
แนวเพลงที่เหมาะสม
Pop / Rock / Classic / R&B
คะแนนเสียง: 9
หูฟังอินเอียร์
ไร้สาย
บลูทูธ
5.0
มีไมค์
IPX5
20 - 20,000 เฮิร์ทซ์