เครื่องเล่นแผ่นเสียง Gadhouse Brad Retro Black Edition

สรุป เครื่องเล่นแผ่นเสียง Gadhouse Brad Retro Black Edition เหมาะกับใคร?

เครื่องเล่นแผ่นเสียง Gadhouse Brad Retro Black Edition ราคาสูงกว่า เครื่องเล่นแผ่นเสียง Gadhouse Brad Retro รุ่นปกติเล็กน้อย แต่ก็แลกมากับสีดำสุดพรีเมี่ยม ทำให้ตัวเครื่องดูหรูหราตั้งวางใช้งานได้ทุกพื้นที่ในบ้านมากกว่ารุ่นธรรมดา และยังมาพร้อมแบตเตอรี่ภายในตัวที่ให้พกพาไปฟังนอกบ้านได้อย่างอิสระ โดยใช้งานผ่านแบตเตอรี่ได้ยาวนานถึง 4 ชั่วโมงเลยทีเดียว อีกทั้งยังมาพร้อมการเชื่อมต่อแบบมีสายและไร้สายอีกด้วย เชื่อว่าถูกอกถูกใจคอเครื่องเล่นแผ่นเสียงอย่างแน่นอน และด้วยความสามารถที่ให้มาแบบจัดเต็มจนเกินตัวก็ต้องบอกเลยว่าทำให้ ราคาคุ้มค่า ไม่สูงเกินไปอย่างแน่นอน โดย Gadhouse Brad Retro Black Edition เหมาะกับผู้ที่เล่น เครื่องเล่นแผ่นเสียง Vinyl ทั้งมือสมัครเล่นและมือโปร รวมถึงผู้ที่อยากสะสมหรืออยากได้ Turntable มาประดับบ้านในราคาเป็นมิตร โดยมาพร้อมฟังก์ชันที่ล้ำสมัยแบบสุดๆ จนเกินลุคของเครื่องที่มาในสไตล์ Vintage ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อที่รองรับอย่างครบครันทั้งมีสายและไร้สายผ่าน Bluetooth ทำให้เชื่อมต่อกับลำโพงได้ทั้งแบบมีสาย และแบบไร้สาย ตอบโจทย์ความทุกความต้องการและยังตอบโจทย์เทคโนโลยีในปัจจุบันอีกด้วย

โดยส่วนของการเป็นเครื่องเล่นเพลงแผ่นเสียงนั้นมาพร้อมฟังก์ชันอย่างการรองรับแผ่นเสียงไวนิลทุกขนาด (ตั้งแต่ 7 - 12 นิ้ว) ด้วยการปรับสปีดการเล่นได้ถึง 3 ระดับ 33⅓, 45 and 78 รอบต่อนาที (RPM) รวมถึงระบบการขับเคลื่อนแบบ Belt-Driven Turntable Mechanism หรือก็คือรูปแบบสายพาน ที่ทำงานด้วยความเรียบง่ายไม่มีกลไกภายในที่ซับซ้อนมากนัก ข้อดีคือทำให้ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา ส่วนของหัวเข็มก็เลือกใช้เป็น Gadhouse Ruby Stylus ที่ให้เนื้อเสียงที่นุ่มลึกถึงอารมณ์และสามารถถอดเปลี่ยนได้ เล่นหยุดเพลงโดยอัตโนมัติด้วยฟังก์ชัน Auto-Stop Function และเล่น/หยุดเพลงเพียงยกก้านหัวอ่านขึ้นลงเท่านั้น และยังมาพร้อมฟังก์ชัน Pitch Control ที่ทำให้สามารถมิกซ์เพลงกับ Brad ได้นั่นเอง นอกจากใช้งานเป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงแล้ว ยังมาพร้อมลำโพงแบบ Stereo Dynamic ขับเสียงได้แบบ Full Range ในตัวเล่นเพลงได้เองไม่ต้องต่อลำโพงเพิ่ม หรือหากเสียงยังไม่ถูกใจก็สามารถต่อลำโพงเพิ่มได้ผ่านสาย RCA Stereo หรือจะต่อลำโพงนอกผ่านการเชื่อมต่อไร้สายก็ทำได้ผ่าน Bluetooth 5.0 ที่มีมาให้ในตัว ด้านการควบคุมต่างๆ ก็ทำได้อย่างง่ายดายด้วยส่วนควบคุมแบบ Control Knob ที่สามารถควบคุมได้ครบทุกฟังก์ชัน ทั้งเปิด/ปิด เพิ่ม/ลดเสียง ไปจนถึงเลือกโหมดการเชื่อมต่อเลยทีเดียว พูดได้ว่าราคาเท่านี้แต่ความสามารถเยอะขนาดนี้ พลาดไม่ได้แล้วจริงๆ