clicky switch

ในปัจจุบันนี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักกับ Mechanical Keyboard กันแน่นอน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในทุกวงการทั้งการเล่นเกม การใช้งานทั่วไป หรือแม้แต่การทำงาน ด้วยดีไซน์และ สวิตซ์ที่มีความหลากหลายทั้ง Linear, Tactile และ Clicky ซึ่งแต่ละแบบที่ว่ามานั้นการใช้งานคล้ายกันมาก ๆ ต่างกันแค่สัมผัสกับเสียงของสวิตซ์ที่จะไม่เหมือนกันในแต่ละแบบนั่นเองและในวันนี้เรามีหนึ่งสวิตซ์ที่เป็นที่นิยมมาก ๆ มาแนะนำกันครับ กับเจ้า Clicky switch ที่ให้เสียงที่คนที่ชอบก็รักไปเลย ส่วนคนที่ไม่ชอบก็จะไม่ปลื้มเท่าไหร่ มันเป็นยังไง ไปดูกันเลยครับ

ข้อควรรู้เกี่ยวกับ clicky switch

ทำไมต้อง clicky switch

ต้องบอกก่อนว่า Clicky switch ครับคือสวิตซ์ที่มีเสียงดังที่สุด เสียงกดเป็นเอกลักษณ์ตามชื่อ ลืมภาพการใช้งานแบบสงบไปได้เลย จุดนี้นี่แหละคนที่ชอบคือจะรักมันไปเลย ส่วนคนไม่ชอบอาจจะรำคาญได้ง่าย ๆ  มันให้สัมผัสการกดแบบสองจังหวะแบบเดียวกับ Tactile แต่จังหวะจะชัดเจนมากกว่า เป็นสวิตซ์ที่ต้องอาศัยแรงกดมากกว่าสวิตซ์ชนิดอื่น เนื่องจากภายในตัวนั้นจะมี 2 ส่วนที่ประกอบกันอยู่นั่นเอง ซึ่งสำหรับสีที่ใช้บ่อยของสวิตซ์ประเภทนี้ก็คือ คีย์บอร์ด Blue Switch และ Green Switch ด้านการใช้งานก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล หากนำไปใช้พิมพ์งานหรือทำงานทั่วไปก็ใช้ได้ดีเพราะจะเพลิดเพลินกับเสียงของมันมาก ๆ แถมยังเหมาะสำหรับคนนิ้วบ้าพลัง แต่ต้องระวังเรื่องเสียงตอนใช้งาน อาจจะไปสะกิดหูคนอื่นได้ หรือยิ่งพ่อบ้านที่จะแอบเล่นเกมตอนดึกยิ่งต้องระมัดระวัง แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่าเป็นหนึ่งในสวิตซ์ที่กดได้เพลิน จะกดเน้นก็สะใจ แถมยังเป็นที่นิยมมากอีกหนึ่งตัวเลยครับผม

วิธีการเลือกซื้อ

มาถึงขั้นต่อไปกับวิธีการเลือกซื้อ เรามาดูกันว่าเราควรดูจากอะไรบ้าง ตัดสินใจจากตรงไหนดี เพื่อที่จะได้ Mechanical Keyboard ที่มี clicky switch แบบที่เราชอบ แล้วเข้ากับการใช้งานของเรา ไปดูกันเลย

เสียงกด

เสียงก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการเลือกซื้อ เพราะนอกจากเสียงของ Clicky switch มันจะให้ความเพลิดเพลินในการใช้งานแล้ว แต่เราอย่าลืมไปว่ามันก็อาจจะรบกวนคนอื่นได้ด้วยเช่นกัน หากว่าเราต้องการซื้อไปใช้เองในห้องคอมส่วนตัว หรือใช้ในที่ ๆ เค้าชอบเหมือนกับเราก็สามารถใช้งานได้อย่างสบายใจ แต่หากนำไปใช้ในที่ที่เราต้องทำงานกับคนหมู่มากอาจจะไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่นัก เพราะคงไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบเสียงของมันนั่นเองครับผม

แรงกด

ด้วยแรงกดที่มากกว่าสวิตซ์ตัวอื่นเพียงเล็กน้อยอาจจะไม่เห็นผลในการใช้งานระยะสั้น ๆ แต่หากใครที่พึ่งเปลี่ยนมาใช้นั้นอาจจะสังเกตุได้แน่นอน และคงต้องปรับกันสักพักเลยทีเดียว ใช้งานไปสักพักอาจจะเมื่อยได้ อาจจะต้องไปดูสวิตซ์ Linear หรือ Tactile แทนเพราะแรงกดน้อยกว่า แต่ว่าสิ่งที่หายไปคือเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของเจ้า Clicky เจ้าตัว Tactile อาจจะตอบโจทย์ตรงนี้แทนด้วยแรงกดที่น้อยกว่า แต่เสียงที่ใกล้เคียงกันนั่นเองครับ

กรณีฉุกเฉิน

ในกรณีฉุกเฉินอย่างสวิตซ์ของเราเกิดงอแงใช้ไม่ได้ขึ้นมาเราก็ต้องมาดูกันว่าสามารถซ่อมได้อย่างไรบ้าง ในบางตัวก็อาจจะเปลี่ยนแค่สวิตซ์ไม่ได้เลยต้องเปลี่ยนใหม่หมดทั้งคีย์บอร์ด บางตัวอาจจะมีฟังก์ชันที่เรียกว่าการ Hot Swappable ที่สามารถเปลี่ยนแค่สวิตซ์ที่พังบางตัวออกได้ และสามารถใส่สวิตซ์ใหม่ได้โดยไม่จพเป็นว่าจะต้องเป็นสวิตซ์แบบเดิมนั่นเอง

ยี่ห้อของสวิตซ์

นอกจากปัจจัยเบื้องต้นแล้วก็ยังมีปัจจัยอีกอย่างที่เราควรนึกถึงด้วยนั่นก็คือยี่ห้อของสวิตซ์ เพราะแต่ละยี่ห้อก็มีข้อดีแตกต่างกันไปในแบบของมัน แถมราคายังต่างกันอีกด้วยอย่างเช่นยี่ห้อ Cherry MX ที่ราคาสูงกว่าเจ้าอื่นนิดหน่อยแต่มั่นใจได้ในคุณภาพแบบดั้งเดิม รองลงมากับ Gateron กับ Kailhที่ราคาจะต่ำลงมาจากตัวแรก Outemu ที่ราคาถูกที่สุดในท้องตลาดแต่คุณภาพก็ยังดีเช่นกัน สุดท้ายคือ Razer จะพบได้แค่คีย์บอร์ดของทาง Razer เท่านั้นส่วนราคาก็อยู่ที่ปานกลางค่อนไปทางสูงอีกด้วยครับ

ข้อดี ข้อเสียของ clicky switch

ข้อดี

• เสียงเอกลักษณ์เพราะกดเพลิน

• แรงกดสะใจ

• กดสนุกมากกว่าสวิตซ์ตัวอื่น

ข้อเสีย

• ไม่ได้เหมาะกับทุกคน

• เสียงค่อนข้างดัง

Clicky switch ถึงมันจะไม่ได้เหมาะกับทุกคนก็จริง แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันเป็นหนึ่งในสวิตซ์ที่เป็นที่นิยมอันดับต้น ๆ เลยทีเดียว ด้วยเสียงคลิ๊กที่ดังเป็นเอกลักษณ์ กดสะใจ เด้งสู้มือ เหมาะกับคนเล่นเกมหรือทำงานที่ต้องการความสะใจในการใช้งานสุด ๆ แต่เราอย่างลืมไปว่าคนที่ไม่ชอบเสียงดังของมันก็มีเช่นเดียวกัน เราจึงควรเลือกสวิตซ์ที่เหมาะกับการใช้งานของเราโดยที่ไม่รบกวนหูของคนอื่นด้วย แต่หากว่ามีคนที่ชอบเหมือนกันหรือใช้งานเองในห้องส่วนตัวเจ้าตัวนี้ก็ตอบโจทย์โดยไม่มีที่ติเลยครับ