ลำโพง Klipsch Flexus CORE 100 Sound Bar

ซีรีส์ใหม่จาก Klipsch ตัวเริ่มต้นสำหรับคนอยากเข้าวงการซาวด์บาร์

รีวิวเสียงของ ลำโพง Klipsch Flexus CORE 100 Sound Bar

ถึงจะเป็นลำโพงซาวด์บาร์ 2.1 แชแนลขนาดเล็กที่สุด โดยขับเสียงผ่านไดรเวอร์ Aluminium Cone 2 ตัว ขนาด 2.25 นิ้วด้านหน้าและมี Subwoofers ขนาด 4 นิ้วอยู่ภายในอีก 2 ตัวครับ ทำให้ใช้ฟังได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องพึ่ง Subwoofers เสริมเลย โดยหลังจากที่ได้ทดลองฟังมา จะยังคงความเป็น Klipsch อย่างชัดเจนเลยครับ มีจะโทนเสียงโดยรวมที่ค่อนข้างบาง โดยโดดเด่นที่สุดในย่านเสียงกลางที่ชัด คม เหมาะกับสายดูหนังดูภาพยนตร์สุด ๆ ครับ ทุกบทสนทนาในหนังจะชัดเจนอย่างดี รายละเอียดต่าง ๆ ออกมาครบ และมีเวทีเสียงที่กว้าง กระจายทั้งด้านหน้าและด้านข้างได้ดีมาก เสียงครอบคลุมทั้งห้อง เหมาะกับการเป็นรุ่นเริ่มต้นสำหรับคนอยากเข้าวงการลำโพงซาวด์บาร์ตามคอนเซ็ปต์ครับ

• เสียงกลาง : ย่านเสียงที่ทำได้ดีที่สุดครับ ชัดเจน คม เหมือนถูกออกแบบมาเพื่อดูภาพยนตร์เลยครับ บทพูดออกมาชัดถ้อยชัดคำ รวมไปถึงเสียงร้องต่าง ๆ ก็ทำออกมาได้ชัดเจนมาก
• เสียงสูง : เสียงสูงจะเป็นย่านที่ค่อนข้างบางที่สุดครับ ดันได้ไม่สูงมากเท่าไหร่ แต่เนื้อเสียงมีความเป็นประกาย ส่วนหางเสียงก็ทอดได้ไม่ยาวเท่าไหร่ครับ 
• เสียงเบส : สำหรับเสียงเบสก็จะเป็นไปตามขนาดของตัวซาวด์บาร์เลยครับ ไม่ได้หนักตูมตามเพราะไซซ์ที่กระทัดรัด แต่มวลที่ส่งมาค่อนข้างลูกใหญ่เลยครับ ลงได้ลึกโดยไม่ต้องพึ่ง Subwoofers เลยครับ
• เวทีเสียง : มีความกว้าง มีขนาดใหญ่เลยครับสำหรับเวทีเสียง สามารถครอบคลุมพื้นที่ได้เป็นอย่างดี ไม่มีความรู้สึกว่าเครื่องดนตรีเบียดหรือทับกันเลย ฟังได้สบาย ๆ เลยครับ

แนวเพลงที่เหมาะสม : Pop / R&B / Acoustic

รีวิวการใช้งานของ ลำโพง Klipsch Flexus CORE 100 Sound Bar

• วัสดุ / การออกแบบ : สำหรับตัวนี้ Klipsch ได้ขนความโมเดิร์นมาใส่ให้เยอะขึ้นเลยครับ ตัวกรอบซาวด์บาร์จะเป็นตะแกรงผ้าตั้งแต่ด้านหน้ายาวไปถึงด้านหลัง ด้านบนเป็นตะแกรงเหล็กที่เผยให้เห็นซับวูฟเฟอร์ทั้งสองฝั่ง โดยมีแผ่นไม้ตรงกลางด้านบน และแผงปุ่มควบคุมเล็ก ๆ ด้านขวาอีกสี่ปุ่ม พร้อมโลโก้ Klipsch ด้านหน้า โดยจะมีไซซ์ไม่ใหญ่มากเพียง 28 x 3 x 5 นิ้วเท่านั้น ยิ่งพอเราได้ลองวางกับทีวีขนาด 65 นิ้วแล้ว ก็ต้องบอกเลยว่าเล็กจริง ๆ ครับ แต่ถึงจะบอกว่าเล็กแต่กำลังเสียงที่ส่งออกมาก็ยังดังสนั่นสะใจอยู่ดี
• การควบคุม : อย่างที่บอกว่าจุดเด่นคือความง่ายในการใช้งานครับ ปุ่มควบคุมต่าง ๆ จะอยู่ด้านบนของตัวเครื่องโดยมีแค่ 4 ปุ่มเท่านั้นครับ ปุ่มเปิด/ปิด, ปุ่มสลับ Source และปุ่มเพิ่ม/ลดเสียงครับ โดยสามารถควบคุมระยะไกลผ่านรีโมทที่มีมาให้ได้ด้วยครับ แต่สามารถควบคุมผ่านแอป Klipsch Connect Plus ที่จะเปลี่ยนสมาร์ทโฟนของเราให้เป็นรีโมท ให้กดส่งคำสั่งไปยังซาวด์บาร์ได้ง่ายมาก ๆ ได้ด้วยครับ
• การเชื่อมต่อ : สำหรับการเชื่อมต่อของ Klipsch Flexus จะสามารถเชื่อมต่อง่าย ๆ แบบไร้สายผ่าน Bluetooth ได้ครับ โดยด้านหลังจะมีช่องสำหรับเชื่อมต่อไร้สายที่ครบครันเลย โดยมีทั้ง HDMI eARC จำนวน 1 ช่อง, USB-C จำนวน 1 ช่อง, ช่อง Optical, ช่อง Sub Out สำหรับใช้เชื่อมกับซับวูฟเฟอร์ และ Flexus Transmitter Port ช่องที่ดีไซน์มาสำหรับการเสียบตัวรับสัญญาณซับวูฟเฟอร์และลำโพงเซอร์ราวด์โดยเฉพาะครับ
• Application : มากับแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า Klipsch Connect Plus ที่เป็นแอปสำหรับซีรีส์ Flexus โดยเฉพาะ โดยอย่างที่บอกไปครับคือฟีเจอร์โดยรวมเนี่ยจะสามารถใช้งานแทนรีโมทได้เลย แต่ส่วนที่เป็นไฮไลท์ในแอปก็คือสามารถเปรับแต่งเรื่องเสียงได้เพิ่มเติมหลายแบบเลยครับ ทั้ง Channel levels ปรับเสียงความดังของลำโพง หากมีซับวูฟเฟอร์หรือลำโพงเซอร์ราวด์เชื่อมต่อ การเลือก Sound Mode ที่สามารถเลือกได้ว่าจะใช้สำหรับการดูหนังหรือฟังเพลง และมี EQ ที่มี Preset บางส่วนมาให้ และสามารถปรับเพิ่มเติมเองได้ครับ

ชุดซาวด์บาร์ซีรีส์ใหม่จาก Klipsch ซีรีส์ Flexus โดยมีเป้าหมายว่าเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับคนที่อยากเข้าวงการซาวด์บาร์ ตัวเดียวใช้งานได้แบบจบ ๆ เป็นตัวที่เหมาะกับคนหัดเข้าวงการสุด ๆ แถมยังเชื่อมต่อได้ง่าย ๆ ได้ทั้งแบบมีสายและไร้สายผ่าน Bluetooth ไม่ต้องโยงสายไฟให้ยุ่งยากเลย โดยสำหรับห้องกว้างประมาณ 25 ตรม. ถ้าเปิดระดับความดังสัก 25 - 30 รายละเอียดก็ได้แบบเต็ม ๆ แล้วครับ

อุปกรณ์ภายในกล่อง

• 1 x ลำโพง Klipsch Flexus CORE 100
• 1 x รีโมทควบคุมพร้อมถ่าน AAA
• 1 x สาย HDMI
• 1 x สาย Power
• 1 x ชุดยึดผนังและอุปกรณ์ยึด
• 1 x คู่มือการใช้งาน