หูฟังไร้สาย Plantronics BackBeat Fit 3200 True Wireless Teal

สำหรับเจ้า Plantronics BackBeat FIT 3200 ก็จะเป็นหูฟัง True Wireless รุ่นพัฒนาจากหูฟังไร้สายตัวแรกของ Plantronics อย่าง FIT 3100 ที่กลับมาคราวนี้ไร้รับการพัฒนาเสียงที่ยอดเยี่ยมขึ้น รวมไปถึงถึงแบตเตอรี่ที่อึดขึ้นกว่าเดิม โดยเปิดตัวมาในราคา 5,990 บาท โดยสิ่งที่พัฒนาเพิ่มขึ้นมาจากเจ้า Plantronics BackBeat FIT 3100 นั้นก็คือเสียงเบสที่พัฒนาขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด และการใช้งาน Presets EQ ได้มากถึง 3 รูปแบบนั่นเอง นอกจากนั้นมันยังทำงานได้สูสีกับหูฟังรุ่นเรือธงของ Plantronics อย่าง BackBeat Pro 5100 อีกด้วย โดยจุดเด่นของมันก็จะอยู่ที่แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานต่อเนื่อง 8 ชั่วโมงต่อ 1 ชาร์จ และการสวมใส่ที่แน่นหนาแต่สบายหู ทำให้เหมาะกับการวิ่งมาราธอนมาก ๆ เพราะเส้นทางมาราธอนนั้น จะใช้เวลาช้าสุดอยู่ที่ประมาณ 6 - 7 ชั่วโมงเท่านั้น เรียกได้ว่าใช้งานได้จนจบคอร์สวิ่งเลย

หูฟังออกกำลังกายที่นักวิ่งมาราธอนต้องร้องว้าว

มาตรฐานกันน้ำ IP57 และแบตเตอรี่สุดทนทาน 

สำหรับเจ้าหูฟัง Backbeats FIT 3200 ตัวนี้ก็จะใช้เคสชาร์จแบบเดียวกันกับเจ้ารุ่น 3100 ตัวก่อนหน้าเลยกับเคสพกพารูปแบบกระเป๋า ที่ใช้ซิปเปิดปิด ทำให้มีความแน่นหนา ทนทาน แก้ปัญหาฝาเคสหักได้อย่างอยู่หมัด โดยเจ้าเคสชาร์จตัวนี้ก็จะใช้แบตเตอรี่มาในปริมาณมากถึง 740 แอมป์ รองรับการใช้งานต่อชาร์จ 16 ชั่วโมง เมื่อรวมกับตัวแบทของหูฟังที่ใช้งานได้อีก 8 ชั่วโมงแล้ว ทำให้มันมีชั่วโมงการใช้งานที่มากถึง 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว ส่วนการออกแบบนั้นเจ้า Backbeat Fit 3200 ก็ได้รับการออกแบบมาให้กันน้ำในระดับ IP57 สามารถกันเหงื่อและน้ำที่สาดกระเซ็นมาได้แบบ 100 % รองรับการตกน้ำ แต่ไม่แนะนำให้ใช้ใส่ว่ายน้ำได้นั่นเอง

จุก Ear gel แบบใหม่ใส่สบายไม่เจ็บหู

ตัวของเจ้า Backbeats FIT 3200 Truewireless ตัวนี้ออกแบบมาเป็นกึ่ง In-ear หรือ Earbuds แบบสอดหูเหมือน Apple Airpods และด้วยความที่เป็นหูฟังที่มาพร้อมกับที่คล้องหูซิลิโคน ทำให้ตัวหูฟังไม่ได้ถูกสอดเข้าไปในหูลึกมาก สามารถใส่ได้สบายไม่เจ็บหูแต่แน่นหนา ยิ่งรวมไปกับการออกแบบจุกหูฟัง Ear gel 2 ชั้น ทำให้ได้จุกหูฟังที่นุ่ม และเข้ารูปกับหูของผู้ฟังยิ่งกว่ารุ่นก่อน ๆ และยังเก็บเสียงได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยน้ำหนักที่เบาเพียง 11 กรัมต่อข้างเท่านั้น

BackBeat Application และการควบคุม

สำหรับการใช้งานและการควบคุมของ เจ้า BackBeat Pro ก็จะแบ่งการควบคุมออกเป็นข้างซ้ายและขวา โดยข้างขวาจะใช้เป็นปุ่มกด สำหรับการควบคุมเพลง รับ/วางสาย และ เรียกใช้งาน Voice Assistant ของมือถือเครื่องนั้น ๆ และข้างซ้าย จะเป็น การใช้งานแบบสัมผัส ที่คำสั่งพื้นฐานของมันเป็นการเพิ่ม – ลด เสียงเพลง แต่สามารถเข้าไปปรับแต่งคำสั่งเหล่านี้ได้ใน Application BackBeat ซึ่งคำสั่งที่น่าสนใจก็จะมีการสั่งใช้งาน นาฬิกาจับเวลา (Stopwatch) หรือ แจ้งเตือนเวลา (Timer) ช่วยทำให้คุณควบคุมการออกกำลังกายของคุณได้โดยไม่ต้องหยิบมือถือขึ้นมาเลย นอกจากนั้นภายใน Application BackBeat ยังรองรับการ Customize ตัวหูฟังเล็ก ๆ น้อยอีกเช่น การสลับการใช้งานคำสั่งของหูฟังข้างซ้ายและขวา (สลับให้หูฟังข้างขวา – ใช้เป็นระบบสัมผัส และกดปุ่มด้วยข้างซ้าย) และการเปลี่ยน Presets ของหูฟังที่มีให้มา 3 รูปแบบได้แก่ Bass, Balanced และ Bright นอกจากนั้นหูฟังตัวนี้ยังมีคำสั่งที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ Awareness Mode โหมดที่จะลดเสียงของตัวหูฟังลงเพื่อเปิดรับเสียงจากภายนอกให้เข้ามานั่นเอง

สำหรับเนื้อเสียงของเจ้า BackBeat Fit 3200 ก็มีการพัฒนาจากรุ่นแรกอย่างเห็นได้ชัด เนื้อเสียงมีความแน่น โปร่ง ตามสไตล์ Plantronics แต่มีการพัฒนาเบสที่เพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อน ๆ นอกจากนั้นยังมี EQ ให้ 3 แบบ 3 สไตล์ ที่ใช้งานค่อนข้างดีเลย ตัวไดรเวอร์ที่ให้มาก็จะเป็น ไดนามิกไดร์เวอร์ขนาด 13.5 มม. และรองรับช่วงความถี่เสียงที่ 20 – 20 kHz ให้มู้ดที่ต่างจาก Plantronics BackBeat Pro 5100 ที่เป็นหูฟังตัวท็อปของ Plantronics อีกตัวที่ออกมาในปีนี้ ทั้งเรื่องของการใช้งานที่จะเน้นไปที่การออกกำลังกายมากกว่า รวมไปถึงแนวเสียงที่มีเบสรุนแรงกว่ารุ่น Pro อีกด้วย แต่ก็จะด้อยกว่าในย่านเสียงสูงและกลางเพียงเล็กน้อย

เสียงสูง: นั้นก็ให้มาค่อนข้างดี เสียงสะอาดฟังชัด เล่น EDM ได้ ส่วนเสียงแหลมถือว่าฟังง่ายปลายเสียงค่อนข้างมนทำให้แหลมไม่สุดนั่นเอง

เสียงกลาง: ยังคงความโดดเด่นสไตล์ Plantronics ที่เก็บรายละเอียดเสียงได้ดี เสียงแน่น ฟังสนุก เสียงออกไปในโทนอุ่น

เสียงเบส: เบสของเจ้า BackBeat Fit 3200 ตัวนี้ พัฒนาจากรุ่นก่อนมามากทีเดียว เนื้อเบสแน่น ลูกให้และมีแรงปะทะชัดเจน โดยเฉพาะใน EQ Bass จัดว่าฟังสนุก เหมาะกับการออกกำลังกายมาก ๆ 

เวทีเสียง: เวทีเสียงก็ได้เรื่องของการสวมใส่เข้ามาช่วยทำให้เสียงมีบรรยากาศกว้างกว่าหูฟัง In-ear ทั่วไปโดยพื้นฐาน เสียงเครื่องดนตรีสามารถแยกแยะออกจากกันได้ชัด จัดว่าทำอิมเมจ และว่างตำแหน่งของเครื่องดนตรีได้ดี

คะแนนเสียง : 9

แนวเพลงที่เหมาะสม

Pop / EDM / Rock / R&B