ถ้าใช้ iPhone ใช้ Wireless Charger แบบธรรมดา หรือ Magsafe ดี
10 มิ.ย. 2564
ระหว่างแท่นชาร์จไร้สาย Wireless Charger แบบธรรมดา หรือ MagSafe ดีกว่ากัน ? ก่อนอื่นต้องพาทุกคน ไปรู้จักกับเทคโนโลยี Wireless Charger และ MagSafe ในโลกปัจจุบันทุกคนล้วนมีสมาร์ทโฟนหรือ iPhone อยู่ในมือ เพราะทุก ๆ อย่างมันมีสมาร์ทโฟนเข้าไปเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นความรู้, ข่าวสาร, การเงิน, ช็อปปิ้ง, ทำธุรกิจ, และแม้กระทั่งการสั่งอาหาร สังเกตได้จากการที่คนส่วนใหญ่แห่กันมาทำอาชีพขับรถส่งอาหาร และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ทำให้เราไม่สามารถที่จะตัดสมาร์ทโฟนหรือ iPhone ออกไปได้แล้ว เทคโนโลยี Wireless Charger และ MagSafe จึงเริ่มมีบทบาท และความสำคัญ กับการใช้ชีวิตที่ง่ายขึ้น ในยุคปัจจุบัน และแน่นอนครับ “สมาร์ทโฟนหรือ iPhone” ได้รับการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากมันยังคงมีข้อบกพร่องและมีข้อจำกัดอยู่มากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ปัญหาเรื่อง “แบตเตอรี่” ครับ
โลกของเราตอนนี้ กำลังเข้าสู่ยุคแห่งเทคโนโลยี ที่อุปกรณ์หลาย ๆ อย่างถูกพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ รวมทั้งเทคโนโลยี Wireless Charger และ MagSafe นั้น และเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับเรา อาทิ จอยเกม, หูฟังบลูทูธ, หูฟังออกกำลังกาย, หูฟัง True Wireless, คีย์บอร์ดไร้สาย, ปากกาสไตลัส, เครื่องปริ้นแบบพกพา, เลนส์มือถือ และลำโพงบลูทูธขนาดเล็ก เป็นต้น สังเกตเห็นอะไรไหมครับ ? ทุกอย่างนี้เป็นอุปกรณ์ไร้สายหมดแล้ว ซึ่งการชาร์จแบตเตอรี่ก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ปัญหาของสายชาร์จอย่างเช่น ตัวหุ้มสายฉีกขาด สายด้านในขาด ขั้วต่อหลวม หรือหัวเชื่อมต่อแตกต่างกัน ต้องพกทีละหลาย ๆ สาย ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป ถ้าคุณใช้แท่นชาร์จไร้สาย (Wireless Charger) ที่มีนวัตกรรมใหม่อย่าง Qi Wireless Charger ซึ่งเป็นมาตรฐานอินเทอร์เฟซ แบบเปิด ที่กำหนดการโอนถ่ายข้อมูลแบบไร้สาย ซึ่งช่วยให้การชาร์จแบตเตอรี่ของอุปกรณ์ต่าง ๆ ของคุณ เป็นเรื่องง่าย และยิ่งเมื่อไปรวมกับเทคโนโลยีการชาร์จเร็วด้วยแล้ว มันยิ่งทำให้การชาร์จแบตฯ สะดวกสบาย และรวดเร็วมากยิ่งขึ้นครับ แท่นชาร์จไร้สาย (Wireless Charger) ที่เราได้รวบรวมมาจากหลาย ๆ แบรนด์ ซึ่งมีการเปิดตัว และจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน ก่อนอื่นคุณต้องรู้ว่าสมาร์ทโฟนหรือ iPhone ของคุณมีการรองรับ มาตราฐาน Qi หรือไม่ ? ถ้ามีคุณก็สามารถใช้งาน Wireless Charger ได้ทันที แต่ถ้าเป็นสมาร์ทโฟนหรือ iPhone รุ่นเริ่มต้น ระดับกลาง ส่วนใหญ่จะไม่รอบรับ คุณก็ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมที่เป็นแผ่นชาร์จไร้สายมาติดตั้งก่อนถึงจะใช้งานได้ครับ และนี่ก็คือ แท่นชาร์จไร้สาย Wireless Charger ของแบรนด์ต่าง ๆ ซึ่งเราได้รวบรวมรีวิว ให้คุณเห็นถึงคุณสมบัติและจุดเด่นต่าง ๆ เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจซื้อไปใช้งานได้ง่ายขึ้นครับ
ที่ชาร์จไร้สาย (Wireless Charger) มีประโยชน์อย่างไร ?
- พกอันเดียวชาร์จได้หลายเครื่อง Wireless Charger รุ่นใหม่ ๆ สามารถชาร์จสมาร์ทโฟนได้หมดทุกรุ่นที่มีการรองรับ Qi Wireless Charger ไม่ว่าจะเป็นฝั่ง สมาร์ทโฟน Android หรือฝั่งสมาร์ทโฟน iOS ก็สามารถชาร์จชาร์จร่วมกันได้แท่นชาร์จไร้สาย Wireless Charger บางรุ่นมาพร้อมฟังก์ชันมากมาย ช่วยให้ชาร์จหลาย ๆ อุปกรณ์พร้อม ๆ กันได้ โดยที่ชาร์จด้วยกำลังไฟเท่าเดิม ดังนั้นหลังจากนี้คุณไม่จำเป็นต้องสนใจรูชาร์จแล้วว่ามีลักษณะไหน ไม่ต้องพกสายชาร์จหลาย ๆ อันให้สายพันอีกต่อไป แก้ปัญหาทั้งหมดที่เคยเกิดขึ้นกับสายชาร์จ จากเดิมสายชาร์จสมาร์ทโฟนหรือ iPhone นั้น มีปัญหามากมาย เช่น ขั้วต่อเสียหายสายพับทำให้สายขาดด้านใน สายพันกันยุ่งเหยิง และปัญหาอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งปัญหาทั้งหมดนี้ สามารถทำให้คุณไม่สามารถชาร์จสมาร์ทโฟนของคุณได้เลย ดังนั้นการมาของแท่นชาร์จไร้สาย Wireless Charger จะทำให้ปัญหาเหล่านี้หมดไป รวมถึงพอร์ตที่สมาร์ทโฟนของคุณก็จะไม่เสียหายด้วย
- รองรับอีกหลายอย่างในอนาคต อย่างที่บอกไปในตอนต้นครับ ในปัจจุบันเรากำลังก้าวไปสู่ยุคไร้สายแบบเต็มตัวโดยดูจากทุกวันนี้ นวัตกรรมต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การใช้งานแบบไร้สายเป็นหลัก และเราคิดว่าทุก ๆ อุปกรณ์ ทุกสิ่ง ทุกอย่างในอนาคตจะสามารถรองรับการชาร์จแบบไร้สาย Wireless Charger ได้ทั้งหมด ซึ่ง ณ ตอนนี้ก็เริ่มเห็นได้ชัดแล้วครับ
ถ้าหากสมาร์ทโฟน หรือ iPhone ที่คุณใช้ ไม่รองรับการชาร์จไร้สาย Wireless Charger ต้องทำอย่างไร ?
หากสมาร์ทโฟนของคุณไม่รองรับ ปัญหานี้แก้ไขได้ไม่ยากครับ เราขอแนะนำให้คุณหาซื้อเคสสมาร์ทโฟน ที่มีอุปกรณ์การชาร์จไร้สายภายใน ลักษณะจะคล้าย ๆ กับเคสแบตฯ สำรอง สังเกตุง่าย ๆ ตัวเคสจะมีขั้วที่เสียบเข้ากับช่องเสียบชาร์จแบตของสมาร์ทโฟนครับ เมื่อคุณใส่เคสนี้ คุณก็จะสามารถชาร์จแบบไร้สาย Wireless Charger ได้ทันที หรือถ้าหากหาที่เป็นรูปแบบเคสมือถือไม่ได้ มันก็จะมีรูปแบบที่เป็นแผ่นชาร์จไร้สายครับ ลักษณะก็จะมีขั้วที่ใช้เสียบเข้ากับช่องชาร์จแบตเช่นกัน และจะมีแผ่นบาง ๆ ติดมาด้วยเพียงคุณเสียบขั้วไว้ แล้วเก็บแผ่นนั้นไว้ภายในเคส คุณก็จะใช้งานชาร์จไร้สาย Wireless Charger ได้แล้วครับ
สำหรับที่ชาร์จ MagSafe จะแตกต่างกับ Wireless Charger แบบธรรมดา ตรงที่ที่ชาร์จ MagSafe จ่ายไฟชาร์จ iPhone รุ่นเก่าได้น้อยกว่าที่คาด MaxTech ได้ทดสอบวัดกำลังไฟตอนชาร์จ iPhone รุ่นเก่าบนที่ชาร์จ MagSafe รุ่นใหม่ว่าจ่ายไฟและชาร์จได้ช้ากว่าที่คาด (ไม่ถึง 7.5W) ที่ชาร์จ MagSafe ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าที่ชาร์จ MagSafe สามารถจ่ายไฟเพื่อชาร์จ iPhone 12, iPhone 12 Pro ได้สูงถึง 15W ส่วน iPhone รุ่นเก่าได้สูงสุด 7.5W MaxTech ได้นำที่ชาร์จ MagSafe (เสียบกับหัวชาร์จ 20W) มาชาร์จ iPhone รุ่นเก่าอย่าง iPhone XS, iPhone SE รุ่นที่ 2, iPhone 11 Pro และทดสอบวัดการจ่ายไฟด้วยแอป Amperes ผลปรากฎว่า
- ที่ชาร์จ MagSafe จ่ายไฟให้ iPhone SE รุ่นที่ 2 ไม่เกิน 2W
- จ่ายไฟชาร์จให้ iPhone 11 Pro ได้ไม่เกิน 3W
- จ่ายไฟชาร์จให้ iPhone XS ได้ไม่เกิน 2W
แต่ผู้ทดสอบได้นำ iPhone ไปวางไว้ที่ชาร์จไร้สายแบรนด์อื่น พบว่าจ่ายไฟได้มากถึง 8W นอกจากนั้นผู้ทดสอบได้นำ Galaxy Note 20 Ultra พบว่าเมื่อชาร์จด้วยที่ชาร์จ MagSafe จะมีกำลังไฟชาร์จสูงสุดที่ 160 mA แต่ถ้าเป็นที่ชาร์จตัวอื่นสูงถึง 1,280 mA MaxTech เผยว่าด้วยกำลังชาร์จที่ไม่ได้สูงนี้ทำให้ที่ชาร์จ MagSafe ไม่ได้จ่ายไฟให้ iPhone รุ่นเก่าได้เร็ว อาจใช้เวลาชาร์จ iPhone นานมากหลายชั่วโมงเท่ากับว่าที่ชาร์จ MagSafe เมื่อชาร์จกับ iPhone รุ่นเก่าจากการทดสอบนี้จะจ่ายไฟชาร์จไม่ถึง 7.5W จากหลาย ๆ รายงาน แต่ทาง Apple เองก็ไม่ได้บอกว่าเมื่อนำที่ชาร์จ MagSafe ไปชาร์จกับ iPhone รุ่นเก่าจะมีกำลังจ่ายไฟเท่าไหร่ บอกแต่เพียงว่า iPhone 12, iPhone 12 Pro นั้นมีกำลังชาร์จเร็วสูงสุดอยู่ที่ 15W สเปคสินค้าที่ชาร์จ MagSafe ระบุไว้ว่า เมื่อชาร์จกับ Apple iPhone 12, iPhone 12 mini, iPhone 12, iPhone 12 Pro Max ที่ยึดติดกันด้วย MagSafe จะมีกำลังชาร์จสูงสุดอยู่ที่ 15W ที่ชาร์จ MagSafe เป็นที่ชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi, สามารถชาร์จอุปกรณ์ที่รองรับ Qi อย่าง iPhone 8 ขึ้นไป, AirPods Pro, AirPods พร้อมเคสชาร์จแบบไร้สายได้
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับแท่นชาร์จไร้สาย Wireless Charger และ MagSafe ที่เรานำมาแนะนำให้กับคุณ อุปกรณ์ที่จะมาช่วยให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้น เพียงแค่วางมือถือของคุณบนแท่นชาร์จไร้สาย Wireless Charge หรือ MagSafe มือถือก็จะมีการชาร์จทันที และ มาพูดถึง Wireless Charger แบบธรรมดาหรือ MagSafe อันไหนดีกว่ากัน เมื่อทุกคนอาจบทความข้างต้น ก็สามารถเปรียบเทียบได้ว่า ถ้าใช้สมาร์ทโฟน หรือ iPhone ใช้ Wireless Charger แบบธรรมดา หรือ MagSafe ดี หวังว่าจะช่วยให้ทุกคน ตัดสินใจ ในการเลือกใช้ได้นะครับ