หูฟังไร้สาย Sony WH-1000XM4 Wireless Headphone Black

Key-Highlight

• หูฟัง Over-Ear ไร้สายสวมใส่สบายหู
• เชื่อมต่อทั้งไร้สายและมีสาย
• ตัดเสียงรบกวนระดับท๊อปของวงการ
• ตั้งค่าผ่านแอป Sony | Headphones Connect
• Sense Engine ปรับการตัดเสียงตามกิจกรรมที่ทำ
• ควบคุมด้วยระบบสัมผัสที่ Earcup
• Quick Attention สนทนาโดยไม่ต้องถอด
• ไมโครโฟนรับเสียงคมชัดมากยิ่งขึ้น
• เซนเซอร์ เล่น/หยุด เพลงเมื่อถอด
• Speak to Chat หยุดเพลงเมื่อพูดสนทนา
• ฟังก์ชั่นเพิ่มคุณภาพเสียง DSEE Extreme
• รองรับ Codec เสียงไร้สาย SBC, AAC และ LDAC
• แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่อง 30 ชั่วโมง
• ฟังก์ชั่นชาร์จไว 10 นาทีเล่นได้ 5 ชั่วโมง

การเชื่อมต่อ

• Bluetooth 5.0
• AUX/3.5 mm.

อุปกรณ์ภายในกล่อง

• 1 x Sony WH-1000XM4
• 1 x เคสแข็งสำหรับเก็บพกพา
• 1 x สาย AUX/3.5 mm.
• 1 x อแดปเตอร์สำหรับใช้งานบนเครื่องบิน
• 1 x สาย USB-C
• 1 x คู่มือการใช้งาน

Sony WH-1000XM4 สวมใส่สบาย รูปทรงคุ้นเคย

Sony WH-1000XM4 เป็น หูฟังครอบหูเชื่อมต่อแบบไร้สาย รุ่นที่ 4 ของซีรีส์ WH-1000X มาพร้อมรูปทรงแบบเดียวกับในรุ่นที่แล้วอย่าง Sony WH-1000XM3 สวมใส่ได้อย่างสบายหูวัสดุภายใน Headband และ Earcup ที่เลือกใช้ระดับพรีเมียม ปรับขนาดให้เข้ากับศีรษะได้ ทำให้สวมใส่ได้สบายหูตลอดวันไม่แพ้รุ่นยอดฮิตจาก Bose อย่าง Bose Noise Cancelling Headphones 700 แน่นอน

ตัดเสียงรบกวนระดับ Top ของวงการ

Sony WH-1000XM4 มาพร้อม Chipset ตัดเสียงรบกวน HD Noise-Canceling Processor QN1 ที่คิดค้นและพัฒนาโดย Sony เอง พร้อมไมโครโฟนช่วยประมวลผลการตัดเสียงรบกวนอีกข้างละ 2 ตัว ทำให้รุ่นนี้ตัดเสียงได้ยอดเยี่ยมและเงียบยิ่งกว่าเดิม มาพร้อมฟังก์ชั่นปรับระดับการตัดเสียงให้เข้ากับแรงดันอากาศสำหรับใช้งานบนเครื่องบิน Ambient Sound Control ควบคุมระดับการตัดเสียงได้หลายระดับ Sense Engine ปรับระดับการตัดเสียงรบกวนโดยอัตโนมัติ เรียนรู้จากกิจกรรมที่ทำและสถานที่ที่อยู่ในขณะนั้น

Sony WH-1000XM4 มีการเชื่อมต่อที่ทันสมัย

ส่วนของไร้สาย Sony WH-1000XM4 ใช้การเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.0 เชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็วมีความเสถียรสูง และยังรองรับการเชื่อมต่อเพียงแตะเดียวอย่าง NFC เช่นเคย รองรับการส่งสัญญาณเสียงคุณภาพสูง Codec ไร้สาย SBC, AAC และ LDAC รองรับการส่งสัญญาณที่ความถี่ 20 - 20,000 Hz (44.1 kHz Sampling) / 20 - 40,000 Hz (LDAC 96 kHz Sampling, 990 kbps) และส่วนของมีสายรองรับ AUX/3.5 mm.

Speak to Chat ฟังก์ชั่นใหม่สุดล้ำ

ควบคุม Sony WH-1000XM4 ได้สะดวกด้วยระบบสัมผัสและการลาก Gesture ควบคุมได้ทั้ง เล่น/หยุด ข้าม/ย้อนกลับเพลง เพิ่ม/ลดเสียง และ Quick Attetion ที่เป็นการเอามือมาทาบแล้วตัวหูฟังจะลดเสียงลงพร้อมรับเสียงจากภายนอกสำหรับสนทนากับบุคคลรอบข้าง มาในรุ่นนี้พัฒนาไปอีกขั้นด้วย Speak to Chat ที่ใช้ไมโครโฟนในตัวถึง 5 ตัว โดยจะจดจำเสียงของผู้ใช้ และเมื่อพูดหรือสนทนาออกไปเพลงก็จะหยุดเล่นโดยอัตโนมัติสำหรับสนทนากับบุคคลรอบข้างในขณะที่มือไม่ว่างเรียกได้ว่าสะดวกสุดๆ

เซ็นเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ที่เพิ่มเข้ามา

ใน Sony WH-1000XM4 รุ่นนี้ได้เพิ่มเซนเซอร์ตรวจจับการสวมใส่เข้ามาอีกด้วย โดยตัวหูฟังจะหยุดเล่นเพลงเมื่อถอดและจะเล่นเพลงต่ออีกครั้งเมื่อสวมใส่ เรียกได้ว่าสะดวกแบบสุดๆ และยังมาพร้อมไมโครโฟนสำหรับสนทนาโทรศัพท์ที่มาในรุ่นนี้ได้รับการอัพเกรดให้สามารถรับเสียงได้คมชัด ชัดเจนในทุกการสนทนา แก้ปัญหาในรุ่นก่อนๆ ที่ไมโครโฟนจะรับเสียงได้ชัดเจนไม่สุดนั่นเอง

แบตเตอรี่ Sony WH-1000XM4 ใช้งานได้ยาวนาน

ภายใน Sony WH-1000XM4 มาพร้อมแบตเตอรี่สำหรับใช้งานไร้สายที่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้อย่างยาวนานถึง 30 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็ม 100% ใช้งานได้ 1 สัปดาห์สบายๆ (วันละ 5 - 6 ชั่วโมง) ไม่ต้องชาร์จซ้ำบ่อยๆ นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จไวเพียง 10 นาทีสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 5 ชั่วโมงเลยทีเดียว และแม้แบตเตอรี่จะหมดก็สามารถเสียบ AUX/3.5 mm. สำหรับใช้งานแบบมีสายได้อีกด้วย เรียกได้ว่าตอบโจทย์ครบถ้วนจริงๆ

แท็ป Status

1. บอกชื่อรุ่นหูฟังที่กำลังเชื่อมต่อ

2. ปุ่ม Power ปิดหูฟังได้จากแอป (ในรุ่น M3 ไม่มี)

2.1 ปุ่ม … สำหรับดูคู่มือออนไลน์, เช็คและอัพเดทเวอร์ชั่นหูฟัง, แจ้งเตือนข้อมูลต่างๆ จากทางแอป, แบ็คอัพการตั้งค่าต่างๆ ในกรณีเปลี่ยนเครื่อง, เข้าโปรแกรมเล่นเพลงของ Sony ต้องโหลตเพิ่ม, ดูรุ่นของแอป และสุดท้ายคือช่วยเหลือ

3. Codec ที่ใช้งานอยู่ และกำลังเปิดฟังก์ชั่นปรับปรุงเสียง DSEE Extreme อยู่หรือไม่

4. จำนวนแบตเตอรี่คงเหลือ

5. ตั้งค่าระบบปรับเสียงรบกวนอัตโนมัติ Adaptive Sound Control

6. ควบคุมการเล่นเพลง

แท็ป Sound

1. เปิด/ปิด การตัดเสียงรบกวนและเลือกระดับการตัดเสียงสูงถึง 20 ระดับ

2. ตั้งค่าระยะเวลาในการหยุดเพลงของ Speak to Chat

3. ปรับการตัดเสียงรบกวนให้เข้ากับการสวมใส่ และระดับความกดอากาศ (ใช้เมื่อเปลี่ยนสไตล์การสวมใส่ ผมยาว หรือใช้งานบนความสูงที่แตกต่างกัน)

4. ปรับ EQ เสียง

5. ตั้งค่าการใช้งานเสียง 360 องศาโดยการถ่ายรูปใบหู และปรับให้เข้ากับ App ที่รองรับ (มี 3 แอป Tidal, Deezer, Nugs.net)

6. เลือก Codec การเชื่อมต่อว่าเน้นความเสถียร SBC หรือเน้นคุณภาพเสียง AAC, LDAC

7. เปิด/ปิด DSEE Extreme

แท็ป System

1. ตั้งค่าการเชื่อมต่อ Smartphone 2 เครื่องพร้อมกัน

2. ตั้งค่าการใช้งานปุ่ม Custom ว่าจะให้เป็นการเปลี่ยนโหมดตัดเสียงรบกวนหรือเรียกใช้ผู้ช่วยเสียง Google, Alexa)

3. เปิด/ปิดการควบคุมด้วยระบบสัมผัส

4. ตั้งค่าปิดอัตโนมัติเมื่อไม่ใช้งาน

5. เปิด/ปิดเซนเซอร์ตรวจจับการสวมใส่

6. เปลี่ยนภาษาเสียงแจ้งเตือนสถานะ

7. ตั้งค่าดาวน์โหลต Software สำหรับอัพเดทโดยอัตโนมัติ