คีย์บอร์ด Akko ACR Pro Alice Plus Mechanical Keyboard (EN) Classic White Akko CS Crystal

คีย์บอร์ด Akko ACR Pro Alice Plus Mechanical Keyboard (EN) จากแบรนด์ Akko ที่มาพร้อมกับดีไซน์สุดล้ำนำสมัยได้แก่ดีไซน์ Alice ที่มีองศาตัวคีย์บอร์ดที่เอียงและแป้นแยกออกจากกันอย่างละครึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นอีกรูปแบบที่น่าสนใจไม่น้อยเลยล่ะครับ โดยคีย์บอร์ดนี้มีจำนวนปุ่มทั้งหมด 68 ปุ่ม โดยตัดเอาส่วนของปุ่มตัวเลขออกไป มีการประกอบคีย์บอร์ดแบบปะเก็น ง่ายต่อการตกแต่งคีย์บอร์ดในทุกส่วน และตัวเคสยังมีความแข็งแรงเนื่องจากวัสดุอย่าง Acrylic+CNC จึงมั่นใจได้เลยว่าคีย์บอร์ดตัวนี้จะแข็งแรง ใช้งานได้อย่างยาวนาน

คีย์บอร์ด Akko ACR Pro Alice Plus Mechanical Keyboard (EN) ใช้สวิตซ์ Akko CS Crystal Switch มาพร้อมกับการรองรับ Hot-Swappable ที่ทำให้สามารถเปลี่ยนสวิตซ์ได้ทันทีโดยไม่ต้องบัดกรีให้ยุ่งยากเลย โดยตัวคีย์แคปนั้นใช้วัสดุ PBT เพื่อความสวยงามของตัวอักษร ไม่ลอกออกได้อย่างง่ายดาย จึงสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานสีไม่หลุดลอก และสามารถดูดซับเสียงได้เป็นอย่างดีด้วยโฟม EVA ที่อยู่ภายในชั้นของคีย์บอร์ด เพื่อให้เสียงการพิมพ์นั้นมีเสียงที่ไม่ดังจนเกินไป ใครที่อยากได้คีย์บอร์ดดีไซน์เก๋ไม่ซ้ำใคร และยังสามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระ คีย์บอร์ด Akko ACR Pro Alice Plus Mechanical Keyboard (EN) ตัวนี้คือตัวที่คุณตามหาเลยล่ะครับ

Alice Keyboard คีย์บอร์ดเพื่อความสบายมือ

ดีไซน์

Akko ACR Pro Alice Plus เป็นคีย์บอร์ดที่เลือกใช้ดีไซน์ Alice หรือก็คือคีย์บอร์ดแบ่งคีย์ออกเป็น 2 ด้าน และตำแหน่งคีย์เกือบทั้งหมดเอียงเข้าหาตรงกลาง โดยดีไซน์นี้จะช่วยให้ข้อมือไม่ต้องเอียงเกินไปเมื่อเทียบกับคีย์บอร์ดทรงปกติ แม้ในช่วงแรกอาจจะไม่ชิน เพราะหลายคนใช้คีย์บอร์ดทรงปกติ ทำให้เมื่อวางมือพร้อมพิมพ์ จะเอียงข้อมือให้ตั้งตรงเสมอ แต่หากใช้งานดีไซน์ Alice จนเข้ามือ จะช่วยให้การพิมพ์สบายข้อมือมากขึ้น ดีต่อสุขภาพ

ตัวคีย์บอร์ดนี้เลือกใช้ Layout 65% คือตัดส่วนนัมแพดหรือชุดตัวเลข ชุดปุ่มฟังก์ชัน และปุ่มคำสั่งบางปุ่มออก เหลือเพียงตัวอักษร ปุ่มทิศทาง และปุ่มคำสั่งที่จำเป็นต่อการใช้งานเท่านั้น

ตัวกรอบของคีย์บอร์ดค่อนข้างหนาเอาเรื่อง แถมยังแบน ไม่ได้ลาดเอียงลงมาเหมือนกับคีย์บอร์ดตัวอื่น แต่หากคิดว่ามันแบนราบเกินไปหรือขอบหนาจนสูงเกินไป ภายในชุดเองก็มีแถมขาตั้งแยกมาด้วย อันนี้ขึ้นอยู่กับความถนัดเลยครับ

ด้านใต้ของคีย์บอร์ดมาพร้อมกับยางกันลื่นที่มุมทั้งสี่ด้าน แถมยังมีลวดลายน่ารักๆ ด้านหลังอีกด้วย ไม่เหมือนใครดีครับ

วัสดุ

Akko ACR Pro Alice Plus ตัวนี้เลือกใช้พลาสติกเป็นวัสดุหลักทั้งหมด มีน้ำหนักอยู่ที่ 840 กรัม ซึ่งก็ถือว่าเป็นน้ำหนักที่กลางๆ ไม่หนักมาก และไม่เบาสักทีเดียว แต่ยังคงสามารถพกพาได้อยู่ ตัวสายที่ให้มาเป็นสายขดพลาสติก สีขาวเข้าคู่กับสีเคสของคีย์บอร์ดเป็นอย่างดี ส่วนขาตั้งเสริมเองก็เป็นพลาสติกแบบติดเข้าด้านหลัง แต่เมื่อติดแล้วก็ไม่แนะนำให้ถอดออกเท่าไหร่ครับ เพราะกาวที่ติดไปแล้วอาจเสื่อมสภาพหากดึงออก โดยขาตั้งที่ให้มาในชุดจะปรับได้เพิ่มอีก 1 ระดับ ใครที่รู้สึกว่ายังไม่เข้ามือ ขอบหนาเกินไป ทางเราแนะนำให้ใช้งานร่วมกับที่รองข้อมือเสริมได้ครับ ข้อมือจะได้ไม่ต้องงอมากเกินไป

การเชื่อมต่อ

Akko ACR Pro Alice Plus เลือกใช้การเชื่อมต่อแบบมีสายผ่านพอร์ตการเชื่อมต่อ USB-A ที่อุปกรณ์ ส่วนฝั่งที่เข้ามาที่ตัวคีย์บอร์ดจะเป็น USB-C ตัวสายที่ให้มาเป็นแบบขด วัสดุพลาสติกที่มีความด้าน ซึ่งจากการลองใช้งานพบว่ามันเปื้อนได้ง่าย แต่ยังทำความสะอาดได้ครับ จึงแนะนำว่าหากต้องการพกพาไปนอกสถานที่ ควรใส่ถุงหรือกล่องไว้ เพื่อไม่ให้เลอะครับ

ช่องการเชื่อมต่อ Type-C ที่ติดอยู่กับคีย์บอร์ดมีความตื้น จึงสามารถใช้งานร่วมกับสายเชื่อมต่อตัวอื่นได้ หากใครมีสายอยู่แล้วก็สามารถมาใช้งานร่วมด้วยได้ครับ

สวิตซ์และคีย์แคป

Akko ACR Pro Alice Plus เลือกใช้ Akko CS Crystal สวิตซ์แบบ Linear ที่มีความลื่นพอตัวเลยครับ ใครที่ชอบสวิตซ์เสียงเงียบลื่นๆ ตัวนี้น่าจะตอบโจทย์เป็นอย่างมาก แต่หากใครที่มีสวิตซ์ของตนเอง อยากเปลี่ยน หรืออยากถอดมาลูป ก็สามารถถอดออกมาด้วยตนเองเลยครับ เพราะทางแบรนด์เลือกใช้แผงวงจรแบบ Hot-Swap ทำให้สามารถถอดออกได้ทันทีโดยไม่ต้องบัดกรี ง่ายสุดๆ ครับ

ส่วนคีย์แคปที่ให้มาเป็นโปรไฟล์ ASA มีความสูงและการลาดเอียงไม่เท่ากันในแต่ละแถว มีขนาดสูงกว่าคีย์แคปทั่วไป ทำให้เกิดเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ ใช้วัสดุ PBT ที่แข็งแรง ทนทาน และใช้การพิมพ์ตัวอักษรแบบ Double Shot ทำให้ตัวอักษรติดแน่น หลุดลอกยากครับ

นอกจากนี้ ภายในชุดยังมาสวิตซ์สำรองมาให้อีกกว่า 100 ตัวเลยทีเดียว มีชุดสีน้ำเงิน และชุดสีขาว แต่จะเป็นคีย์คำสั่งเท่านั้นนะครับ ไม่ได้มีคีย์ตัวอักษรให้เปลี่ยน ถึงแม้ทรงคีย์บอร์ดจะแปลกตา แต่ชุดคีย์แคปที่ใช้ก็เป็นแบบทั่วไป ไม่ได้มีชุดคีย์แคปสำหรับ Alice เท่านั้น ถ้ามีคีย์แคปของตัวเองอยู่แล้วก็สามารถมาเปลี่ยนได้ครับ

ซอฟต์แวร์

Akko ACR Pro Alice Plus ใช้โปรแกรมปรับแต่งของทางแบรนด์เองในชื่อ Akko Cloud Driver ที่สามารถโหลดใช้งานได้ฟรีผ่านทางหน้าเว็บไซต์ โดยภายในโปรแกรมจะสามารถปรับแต่งปุ่มคำสั่ง ตั้งค่ามาโคร สีไฟ RGB และ Firmware ที่ใช้งานอยู่ ซึ่งสามารถโหลด Firmware รุ่นใหม่ได้ผ่านทางตัวโปรแกรมได้เลยครับ

สรุป คีย์บอร์ด Akko ACR Pro Alice Plus เหมาะกับใคร ?

Akko ACR Pro Alice Plus เหมาะสำหรับใครที่กำลังมองหาคีย์บอร์ดสำหรับทำงานครับ แม้สเปกของมันจะมีหลายส่วนที่รองรับการเล่นเกม แต่หลายครั้งการวางมือเองก็เป็นสิ่งจำเป็นต่อการเล่นเกม ถ้าแปลกหรือไม่คุ้นชิน ก็ทำให้จังหวะการเล่นเกมของเราแปลกไปด้วย แต่ไม่ได้บอกว่ามันเล่นเกมไม่ได้นะ จริงๆ แล้วการเล่นเกมไม่ได้ใช้ปุ่มเยอะเท่ากับการทำงาน พิมพ์งาน ฉะนั้นหากใช้จนเข้ามือ การเล่นเกมบนคีย์บอร์ด Alice ก็ดูจะไม่เป็นปัญหาอะไรครับ เพราะมันก็คือคีย์บอร์ดขนาด 65% ทั่วไปตัวนึงที่มีดีไซน์ไม่คุ้นมือ ทางด้านจำนวนปุ่มมันยังคงครบครัน

ส่วนใครที่ยังไม่มั่นใจในดีไซน์นี้ อยากให้ลองใช้งานไปสักพัก ตัวผู้ทดลองเองครั้งแรกก็ไม่เข้ามือเลย ยังเผลอกดปุ่มตรงกลางที่ตอนนี้เป็นเพียงพื้นคีย์บอร์ดไปแล้ว หรือมีการกดปุ่มข้ามแถวกันบ้างด้วยความเคยชิน ถ้าหากเริ่มชินแล้วก็รู้สึกสบายมือดีครับ แต่คิดว่าต้องใช้เวลามากกว่านี้กว่าจะเข้ามือ รวมถึงภาษาไทยเองจำเป็นต้องใช้สระ หรือกด Shift บ่อยครั้งเพราะมีตัวอักษรมากกว่าอังกฤษ หลายครั้งเผลอเอื้อมอีกมือมากดอีกฝั่งอย่างเคยชิน แต่ถ้าใครใช้ภาษาอังกฤษเป็นประจำ ตัวนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ ขอแค่เข้ามือแล้ว ก็จะพิมพ์ได้คล่องแน่นอน