นาฬิกา Garmin Vivomove Style Hybrid Smartwatch Silver/Moss Green Band

เจ้าสำหรับ Garmin Vivomove Style เป็นนาฬิกาไฮบริดสมาร์ทวอชที่ดึงเอาจุดเด่นในการออกแบบของนาฬิกาอนาล็อกและสมาร์ทวอช เข้ามารวมกันเกิดเป็นนาฬิกาลูกผสมที่โดดเด่นทั้งเรื่องของความสวยงามเรียบหรูคลาสสิคสไตล์อนาล็อก และฟีเจอร์การใช้งานครบถ้วนครบครันทั้งใช้งานเป็นผู้ช่วยในการออกกำลังกาย และติดตามสุขภาพแบบ Smartwatch โดยเจ้า Garmin Vivomove Style Hybrid Smartwatch ตัวนี้ก็ถือว่าเป็นตัว Luxury ของ Series Vivomove 3 รองลงมาจาก Vivomove LUXE ที่ใช้วัสดุพรีเมี่ยมอย่างทองคำ และทองคำขาวมาเป็นส่วนประกอบ โดยมีสเปคพื้นฐานของเจ้านาฬิกาอัจฉฉริยะตัวนี้จะมีขนาดเรือนอยู่ที่ 42 มม. มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบหลากสี โดดเด่นด้วนหน้าจอสี AMOLED ที่มีพื้นที่รองรับมากกว่ารุ่นก่อน ๆ และกระจกกันรอยที่มีคุณภาพสูงขึ้นอย่าง Gorilla Glass เพิ่มความทนทานและความสวยงามให้กับตัวมัน ส่วนการใช้งานนั้นถือว่าไม่ต่างอะไรกับน้องตัวเองอย่าง Vivomove 3 ยังคงเป็นนาฬิกา Hybrid Smartwatch ตัวท็อปของตลาดที่มีฟีเจอร์การใช้งานที่ให้มาครบกว่าที่อื่น พร้อมด้วยชื่อแบรนด์ที่รับประกันคุณภาพ การออกแบบที่คลาสสิคสวยงามตามสมัยนิยมสวมใส่ได้ทุกโอกาส ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 11,500 บาทเท่านั้น

สวยงามเรียบหรูทุกมุมมอง

นอกจากจุดขายในเรื่องของฟีเจอร์การใช้งานที่ครบกว่าไฮบริดวอชของแบรนด์ อื่น ๆ แล้วเจ้านาฬิกาอัจฉริยะจากซีรีย์ Vivomove 3 เหล่านี้ยังออกแบบมาได้ตอบโจทย์ของ Hybrid Smartwatch เช่นกันที่ยังดึงเอาความสวยงามคลาสสิคของนาฬิกาอนาล็อกเข้ามาผสมผสานกับความทันสมัยของ Smartwatch ได้ลงตัว อย่างจอแสดงผลที่ซ่อนอยู่ในพื้นหลังของนาฬิกาทำตัวของมันพื้นที่มากพอในการแจ้งค่าต่าง ๆ แบบ Real Time อย่างครบถ้วน ไม่ต้องสลับไปเปิดดูใน Application เหมือน Hybrid Watch ตัวอื่น ๆ โดยในส่วนหน้าจอแสดงผลนี้จะเป็นแบบสีเดียวในรุ่น Vivomove 3 และ 3s และจะสามารถทำงานหลากสีได้ในรุ่น Styles ขึ้นไป

ภาพรวมการใช้งาน

สำหรับเจ้า Garmin Vivomove Style นั้นก็มีการใช้งานที่ไม่ต่างอะไรกับรุ่นอื่น ๆ ในซีรีย์ นอกจากจอแสดงผลที่มีขนาดใหญ่กว่า และมาพร้อมสาย Nylon ให้เลือกซื้อ ซึ่งฟีเจอร์การใช้งานนั้นจัดว่าทัดเทียมกับ Life Style Smartwatch ของ Garmin อย่าง Garmin Vivoactive 4 เพิ่มทางเลือกให้กับผู้ใช้งานสายไลฟฺสไตล์ และแฟชั่่น ให้ทางเลือกในการจับจองมากขึ้น ซึ่งการทำงานของมันก็ใช้งานง่ายรองรับการทำงานทั้งการออกกำลังกาย และการติดตามสุขภาพ สามารถสวมใส่ได้ทุกโอกาส แถมยังมีรอบการบันทึกข้อมูลที่ค่อนข้างละเอียด และสามารถเก็บบันทึกข้อมูลต่างๆของร่างกายตลอดเอาไว้ได้นานถึง 14 วันอีกด้วย ถือว่าเป็น Hybrid Smartwatch ราคากลาง ๆ ที่โดดเด่นทั้งเรื่องของการออกแบบ และการใช้งานอย่างแท้จริง