สร้าง Home Audio ต่อลำโพงข้ามค่าย ด้วย Google Home สุดเจ๋ง
รับประกันโดยศูนย์ไทย (Ash Asia) ระยะเวลา 1 ปี
เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
แชทคุยกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกสินค้าที่ใช่สำหรับคุณ
สรุปคะแนน Marshall Stanmore II
ลำโพง Marshall Stanmore II Bluetooth Speaker เหมาะกับใคร?
ลำโพง Marshall Stanmore II Bluetooth Speaker จากแบรนด์ Marshall ราคาถือว่าไม่สูงจนเกินไปสำหรับลำโพงสุดคลาสสิคที่อัดแน่นไปด้วยเสียงที่ดีเยี่ยม และฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อที่ครบครัน เชื่อว่าถ้าเป็นแฟนแบรนด์นี้ก็จะตัดสินใจได้ไม่ยาก รวมไปถึงผู้ที่มองหาลำโพงสุดเท่ไว้ตกแต่งบ้านสักตัว ให้เสียงที่ทรงพลัง เชื่อมต่อครอบคลุม ต่อได้ง่ายดาย ก็พร้อมที่จะจับจองไว้สักตัวได้ไม่ยาก รวมไปถึงนักดนตรีหรือผู้ที่ชอบเล่นกีต้าร์ก็สามารถจับจองไปเป็นแอมป์สำหรับเล่นเอาสนุกหรือฝึกฝนได้เช่นกัน พูดได้เล่ยว่าถ้ามองหา Home Speaker ที่ครบครันสุดๆ สักตัวต้องห้ามพลาดกับการอัพเกรดที่สุดทันสมัยครั้งนี้
การเชื่อมต่อ
• Bluetooth 5.0
• RCA Stereo
• AUX 3.5mm.
อุปกรณ์ภายในกล่อง
• 1 x Marshall Stanmore II Bluetooth
• 1 x สายไฟ
• 1 x คู่มือการใช้งาน
Key Highlight
• ลำโพงบ้านไร้สาย Home Speaker
• รูปทรงสุดคลาสสิค ตั้งวางได้ทุกที่
• เชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0
• ใช้งานเป็นแอมป์กีต้าร์
• เชื่อม Smartphone ได้พร้อมกัน 2 ตัว
• ควบคุมด้วยเสียงผ่าน App
ลำโพงบ้านสุดเท่ ฟีเจอร์ครบ เสียงทรงพลัง
จุดเด่นลำโพง Marshall Stanmore II
ปรับเสียงได้ตามต้องการ
สามารถปรับโทนเสียงของลำโพง Marshall Stanmore II ได้ง่ายๆ จาก knob ด้านบนตัวลำโพง โดยมีให้ปรับย่าน Bass และ Treble ตามต้องการ นอกจากนี้ยังสามารถปรับ EQ อย่างละเอียดได้ในแอปฯ Marshall Bluetooth App ซึ่งภายในแอปฯ ก็มี preset เสียงให้เลือกอีกหลายแบบ
จับคู่สองอุปกรณ์ในคราวเดียว
ลำโพง Marshall Stanmore II รองรับการจับคู่สองอุปกรณ์พร้อมกัน สามารถสลับเล่นเพลงระหว่างอุปกรณ์สองเครื่องได้อย่างราบรื่น ช่วยเพิ่มความสะดวกในการเชื่อมต่อและการใช้งานลำโพงได้มากขึ้น
รองรับการเชื่อมต่อแบบมีสาย
ลำโพง Marshall Stanmore II รองรับการเชื่อมต่อแบบมีสายได้ทั้ง AUX 3.5mm และ RCA ดังนั้นไม่ว่าคุณจะมีเครื่องเล่น CD / DVD รุ่นเก่า, สมาร์ทโฟนรุ่นเก่า, iPod, เครื่องเล่น MP3 ก็สามารถต่อสายใช้งานกับลำโพงรุ่นนี้ได้ และยังให้เสียงที่เต็มอิ่มโดยไม่ถูกลดทอนคุณภาพอีกด้วย
Marshall Bluetooth App
ลำโพง Marshall Stanmore II รองรับการเชื่อมต่อกับแอปฯ Marshall Bluetooth App สำหรับปรับตั้งค่าการทำงานของลำโพงอย่างละเอียด สามารถปรับ EQ เสียงได้หลายรูปแบบซึ่งมีทั้ง preset ที่ทางแอปฯ ตั้งมาให้ หรือจะไล่ปรับเองทีละย่านความถี่ก็ทำได้ รวมถึงโหมดจับคู่ลำโพงสองตัวเป็นเสียงสเตอริโอ ตั้งค่าชื่ออุปกรณ์ การเชื่อมต่อไร้สาย และอื่นๆ อีกมากมาย
รายละเอียดทั่วไปของ Marshall Stanmore II
Marshall Stanmore II Bluetooth เรียกได้ว่าเป็นรุ่นที่ 2 แล้วสำหรับลำโพงแบบ Home Speaker หรือลำโพงไร้สาย แต่พกพาไม่ได้ สำหรับตั้งตกแต่งในบ้านเท่านั้น โดยในครั้งนี้ก็มาพร้อมการอัพเกรดที่เป็นมาตรฐานใหม่ของแบรนด์ Marshall นั่นเอง ซึ่งก็คือการอัพเกรดใหญ่ๆ ให้สินค้าในไลน์นั้นทันสมัยมากขึ้น ตอบโจทย์เทคโนโลยียุคใหม่ๆ โดยที่จุดเด่นนั่นก็คือยังคงคำนึงถึงรูปลักษณ์อันสุดคลาสสิคที่เหล่าแฟนๆ ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่จะต้องหลงใหล โดยในรุ่นที่ 2 นี้มาพร้อมกับ 2 สีให้เลือกนั่นก็คือ สีดำสุขุม สุดเข้มขรึม และสีขาวหรูหรา คลาสสิค และอย่างที่บอกว่าเป็น Home Speaker ดังนั้นในรุ่นนี้ก็จะไม่มีแบตเตอรี่มาให้ในตัว ต้องเสียบสายไฟเท่านั้น ส่วนของการเชื่อมต่อก็ให้กันมาแบบเต็มที่ครบครันทั้งไร้สายผ่าน Bluetooth 5.0 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดเมื่อใช้กับอุปกรณ์ที่รองรับก็จะช่วยให้ส่งสัญญาณได้เสถียร และมีระยะที่ไกลมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยประหยัดพลังงานด้วย ส่วนของการเชื่อมต่อมีสายก็ครบครันทั้ง AUX 3.5mm. และ RCA Stereo เชื่อมต่อได้ครอบคลุมแน่นอน ส่วนของเรื่องเสียงนั้นรองรับคลื่นความถี่ที่ 50 - 20,000Hz จะเสียงต่ำเสียงสูงแค่ไหนก็หมดห่วงได้ยินครบแน่นอน พร้อมด้วยกำลังขับถึง 80W แรงถึงใจขับออกทุกไฟล์เสียงไร้กังวล ส่วนของน้ำหนักนั้นอยู่ที่ 4.65 กก. ก็ถือว่าไม่หนักจนเกินไป แต่เน้นตั้งโชว์อยู่กับที่อยู่แล้ว จึงไม่ใช่สิ่งที่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่ จุดเด่นของ Stanmore II Bluetooth ก็คือ ใช้เป็นแอมป์กีตาร์ หรือ Guitar Amplifier และเชื่อมต่อ Smartphone ได้พร้อมกันถึง 2 เครื่อง สลับใช้งานได้อย่างอิสระ ควบคุมเสียงและ เปิด/ปิด ผ่านทางปุ่มกดและ Volume Control Knob แบบหมุนเช่นเคย และอีกจุดเด่นคือควบคุมด้วยเสียงผ่านทางแอป Marshall Bluetooth ดาวน์โหลดได้ทั้ง App Store (iOS) และ Google Play (Android)
วัสดุ / ดีไซน์
ลำโพง Marshall Stanmore II มาพร้อมกับความพรีเมียมสวยงามในสไตล์คลาสสิก งานประกอบและวัสดุที่ใช้มีคุณภาพสูง มีความประณีต แน่นหนา สวยงาม ตัวบอดี้ลำโพงทำจากไม้และหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์อย่างดี ตะแกรงด้านหน้าทำจากโลหะและใยสังเคราะห์คุณภาพสูง เก็บงานละเอียดเรียบร้อยดีมาก ประทับตราโลโก้ Marshall สีทองโดดเด่นสวยงาม และตกแต่งด้วยแถบอะลูมิเนียมสีทองปัดเงาสุดหรู ดีไซน์ในภาพรวมให้อารมณ์คล้ายกับตู้แอมป์กีตาร์ Marshall ที่เราคุ้นเคย เท่และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ชัดเจน
การเชื่อมต่อ
ลำโพง Marshall Stanmore II รองรับการเชื่อมต่อครบทั้งแบบมีสายและไร้สาย ถ้าคุณมีอุปกรณ์หรือมือถือรุ่นเก่าหน่อยก็สามารถต่อสาย AUX 3.5mm เข้าที่ตัวลำโพงเพื่อเล่นเพลงได้โดยตรง หรือจะต่อสาย RCA เพื่อใช้เป็นลำโพงสำหรับเครื่อง CD / DVD ก็ยังได้ สำหรับการเชื่อมต่อไร้สายจะเป็น Bluetooth เวอร์ชัน 5.0 สามารถค้นหาและจับคู่ลำโพงกับอุปกรณ์ได้รวดเร็วดีมาก สัญญาณมีความเสถียร เสียงไม่ดรอปไปจากการฟังด้วยวิธีเสียบสาย นอกจากนี้ยังมีระยะการเชื่อมต่อที่ไกลถึง 10 เมตร
การใช้งาน
ลำโพง Marshall Stanmore II มีการใช้งานที่เรียบง่ายมาก สามารถปรับเสียงทุ้ม/แหลมได้ง่ายๆ ผ่าน knob ด้านบนของลำโพง นอกจากนี้ยังปุ่มเลือก source การเล่นเสียงระหว่าง Bluetooth / AUX / RCA มีปุ่มปรับวอลลุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ปุ่ม Play/Pause และปุ่มเปิด/ปิดลำโพงแบบเลื่อน ปุ่มต่างๆ เหล่านี้ให้อารมณ์แบบเดียวกับการปรับเสียงบนแอมป์กีตาร์ ปรับได้ง่าย มีไฟบอกสถานะชัดเจน
รีวิวเสียงจาก Marshall Stanmore II
เนื้อเสียงของลำโพง Marshall Stanmore II คงเอกลักษณ์เด่นของแบรนด์อังกฤษแบรนด์นี้เอาไว้ชัดเจน ลำโพงมีกำลังขับสูงถึง 80W พร้อม SPL ที่ 101dB ให้ความดังแบบล้นเหลือ ฟังในห้องขนาดกลางหรืองานปาร์ตี้หลักได้สบาย นอกจากนี้ยังตอบสนองความถี่ได้กว้างตั้งแต่ 50 - 20,000Hz ดังนั้นจึงให้เสียงที่ครอบคลุมทุกย่าน สำหรับรายละเอียดเสียง จากที่ทีมงาน Mercular.com ได้ทดลองฟังเพลงหลายๆ แนวโดยเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนและปรับ EQ ไว้ที่ flat ทั้งหมด สรุปได้ตามนี้ครับ
- เสียงเบส - เบสของ Marshall Stanmore II มีความทุ้มต่ำ หนักแน่น ลงได้ลึกมาก อิมแพ็คแรง และมีความกระชับเก็บตัวไว มวลเสียงเบสมีความใหญ่ อิ่ม มีความชัดของโน๊ต ให้รายละเอียดดี ไม่เบลอ ไม่ท่วมจนกลบย่านเสียงอื่นๆ โดยรวมถือว่าเป็นเบสที่มีคุณภาพมาก เหมาะอย่างยิ่งกับเพลงร็อคจังหวะเร็วๆ มันส์ๆ เพลงป๊อปสนุกๆ ฮิปฮอป และ EDM
- เสียงกลาง - เสียงกลางมีความชัดถ้อยชัดคำดีมาก เนื้ออิ่ม หนา พุ่งแรง พร้อมกับความใสเคลียร์ที่มากกว่ารุ่นน้องอย่าง Acton II ให้เสียงร้องที่คมชัด เสียงกลองสแนร์ที่โดดเด้ง เสียงกีตาร์ที่จัดจ้านได้อารมณ์ ได้ยินเสียงโซโล่ชัดเต็มหู ถูกใจคนชอบเพลงร็อกอย่างจัง
- เสียงแหลม - ย่านเสียงแหลมของ Marshall Stanmore II มีความคมใสและชัดเคลียร์ รายละเอียดดี เนื้อเสียงมีความอิ่ม ปลายเสียงมีความหนา ไม่บางเบา และทอดได้ไกลพอประมาณ ตอบสนองเสียง Hi-Hat และเสียงแฉของกลองชุดได้ละเอียด มีความละมุนและกลมกล่อม
- เวทีเสียง - เวทีเสียงที่กว้างและโอบล้อม ให้มิติเสียงและการแยกชิ้นเครื่องดนตรีต่างๆ ที่ดีมาก เสียงร้องโดดเด่นนำมาข้างหน้าพร้อมกับความใหญ่ของเนื้อเสียงที่ช่วยให้ฟังเพลงสนุกทุกแนว นอกจากนี้เสียงยังมีความสดและกังวานพอให้ได้ยิน ฟังแล้วจึงไม่รู้สึกแบนและแห้งเกินไป
โดยรวมแล้ว Marshall Stanmore II ให้เสียงย่านเบสที่โดดเด่นที่สุด มีความหนักแน่น ทรงพลัง ฟังเพลงสนุก ส่วนเสียงกลางและเสียงแหลมมีความคมชัดและสดใส ตอบสนองเพลงร็อก ป็อปร็อก อัลเทอร์เนทีฟ ฮิปฮอป และ EDM ได้เป็นอย่างดี ขณะที่เพลงสไตล์อื่นๆ ก็ยังคงตอบสนองได้ดีเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ คุณสามารถปรับ EQ เพื่อเพิ่ม/ลดย่านเสียงได้ตามความชอบ โดยในแอปฯ Marshall Bluetooth จะปรับได้ละเอียดกว่าบนตัวลำโพงครับ
อย่างไรก็ตาม รีวิวเสียงข้างต้นเป็นการสรุปภาพรวมทั้งจากการฟังด้วยสมาร์ทโฟนและปรับ EQ เป็น flat ทั้งหมดเพื่อฟังเสียงจริงๆ ที่ออกมาจากตัวลำโพง ดังนั้นสมาร์ทโฟนต่างรุ่นกันอาจจะให้เสียงที่ไม่เหมือนกันได้ครับ
แนวเพลงที่เหมาะสม
Pop / Pop-Rock / Rock / Alternative / Hip-Hop / Rap / EDM
ลำโพงรุ่นอื่นๆ ที่น่าสนใจ
- ลำโพง Audio Pro C5 MKII Wi-Fi Speaker
- ลำโพงไร้สาย Klipsch The One II Speaker
- ลำโพง Bose Soundlink Revolve Plus II Bluetooth Speaker
- ลำโพงไร้สาย Aiwa MI-X450 Pro Enigma Bluetooth Speaker
- ลำโพง Audio Pro Addon C5 Wi-Fi Speaker
- ลำโพง Audio Pro ADDON C3 Portable Speaker
- ลำโพง Marshall Acton II Bluetooth Speaker
- ลำโพง Marshall Woburn II Bluetooth Speaker
ไม่มีไฟ
บลูทูธ, RCA, AUX (3.5mm)
ไม่มีไมค์
รองรับ
ไม่รองรับ
aptX, SBC
5
ไม่รองรับ
Active
ลำโพงตกแต่งบ้าน
35 x 19.5 x 18.5
50 - 20,000 Hz
80W
4.65 kg