Full Review กล้อง GoPro Hero 10 Black Action Cam ตัวใหม่ สเปคแน่น
8 พ.ย. 2564
ถ้าพูดถึงกล้อง Action Camera แล้วหละก็ คงไม่มีเจ้าไหนเป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมไปมากกว่า GoPro แบรนด์เจ้าตลาดกล้องจิ๋วตัวนี้อีกแล้วซึ่งในปี 2021 นี้ก็ถึอเป็นฤกษ์งามยามดีที่แบรนด์ดังจะเปิดตัวกล้องเรือธงลำดับที่ 10 อย่าง GoPro Hero 10 Black ออกมาให้เหล่าสาวกได้จับจองกัน ซึ่งแน่นอนว่าในวาระครบรอบสวยๆ อย่างงี้ ก็ต้องจัดสเปคและฟีเจอร์เด็ดๆ มาให้สมฐานะแอคชั่นแคมเจ้าตลาดซะหน่อย แต่ว่าการจัดเต็มกล้องแบรนด์ดังตัวนี้จะไปรอดหรือไม่ เรามาลองดูจาก Full Review ตัวนี้ไปพร้อมๆ กันเลย
สเปค และฟีเจอร์สำคัญ
- ชิปเซ็ตประมวลผลตัวใหม่ GP2 ที่ตอบสนองได้รวดเร็ว และทรงพลัง
- ความละเอียดวิดีโอสูงสุดที่ 5.3K 60 FPS
- คลามละเอียดภาพนิ่ง 23 MP และรองรับไฟล์ RAW
- ระบบกันสั่น HyperSmooth 4.0
- โหมดภาพนิ่ง SuperPhoto +HDR และ Night Photo
- โหมดวิดีโอ TimeWarp 3.0, Time Lapse และ Night Lapse
- Slow Motion สูงสุดถึง 8 เท่า เริ่มที่ความละเอียด 4K 120 FPS
- โหมด HindSight, LiveBurst, Scheduled Capture, Duration Capture
- หน้าจอด้านหน้า และด้านหลังแบบ Touch Screen
- กันฝุ่น และกันน้ำลึกถึง 10 เมตร
- โหมด Webcam และ Live Streaming ความละเอียด 1080p
- รองรับอุปกรณ์เสริมทุกชิ้นจากรุ่น GoPro Hero 9 Black
ความประทับใจแรก
Unboxing
เพียงแค่แกะออกจากกล่องก็เซอร์ไพรซ์พอสมควรเพราะ GoPro Hero 10 Black ไม่ได้ซีลมาในกล่องพลาสติกใสแบบที่ผ่านมา แต่กลับเป็นกระเป๋าเคสทั้งใบแทน เพราะอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญของ GoPro ในปีนี้คือการลดขยะและช่วยแก้ปัญหาลดโลกร้อน ทำให้บรรจุภัณฑ์ของกล้องรอบนี้ต้องสามารถนำมาใช้ซ้ำได้ จนเป็นที่มากระเป๋าใบนี้ ซึ่งรวมไปถึงการรองรับอุปกรณ์เสริมทุกชิ้นที่เคยใช้กับกล้องรุ่น Hero 9 Black ก็สามารถนำกลับมาใช้งานร่วมกับกล้องรุ่นปัจจุบันได้อีก ไม่ต้องเสียดายว่าจะกลายเป็นขยะแบบที่ผ่านมาอีก
ดีไซน์
ส่วนรูปลักษณ์ของกล้องนั้นก็ยังคงใกล้เคียงกับกล้อง GoPro รุ่นที่ผ่านมา แต่มีจุดที่ต่างไปจากเดิมนั่นคือ โล้โก้บนตัวกล้องที่เปลี่ยนสีจากขาวเป็นสีฟ้าแทน ส่วนผิวสัมผัสก็ยังคงเป็นพลาสติกสีดำด้านและหุ้มยางด้างหน้า - หลังกล้อง ส่วนหน้าจอนั้นก็ให้มาทั้งด้านหน้า และด้านหลัง โดยที่จอด้านหน้าจะสามารถเลือกได้จะดูภาพจากกล้อง หรือข้อมูลการตั้งค่าต่างๆ และด้านบนของจอจะเป็นสัญญาณไฟแสดงกายถ่ายทำ ส่วนจอด้านหลังจะเป็นหน้าจอหลัก ที่มาพร้อมกับระบบ Touch Screen หน้าจอสัมผัสที่ตอบสนองได้ค่อนข้างรวดเร็ว ส่วนปุ่มกดถ่ายนั้นจะอยู่ด้านบนกล้อง ด้านซ้ายจะเป็นปุ่ม Power สำหรับเปิด - ปิดกล้อง และเปลี่ยนโหมดถ่าย ด้านขวาก็จะเป็นช่องใส่แบตเตอรี่และ Micro SD Card รวมถึงพอร์ต USB-C สำหรับชาร์จแบตและถ่ายโอนไฟล์ และด้านล่างของกล้องก็จะเป็นเมาท์ยึดกล้องแบบ Folding Fingers สำหรับการยึดกล้องได้ตามที่เราต้อง ไม่ต้องพึ่งเคสเสริมหรือเฟรมกล้องแต่อย่างใด
สิ่งที่มาในกล่อง
- กล้อง GoPro Hero 10 Black และแบตเตอรี่
- สาย USB-C to USB-A
- เมาท์ยึดกล้องแบบ Buckle Clip และ
- สกรูวยึดเมาท์กล้อง
- แผ่นกาวติดเมาท์
- คู่มือความปลอดภัย
- ใบแจ้งอัพเดท Firmware
- คู่มือการติดตั้งเมาท์และสติกเกอร์
ประสิทธิภาพในการทำงาน
หน่วยประมวลผล
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ประสิทธิภาพต่างๆ ของกล้อง GoPro Hero 10 Black ที่เพิ่มขึ้นมานั้น ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะชิปเซ็ตตัวใหม่ล่าสุดอย่าง GP2 ที่ทำให้การประมวลผลต่างๆ นั้นทำได้รวดเร็วและทรงพลังมากกว่าเดิม สามารถตอบสนองได้ไวตามที่เรากดพอสมควร และยังประมวลผลภาพและวิดีโอต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นโหมดการถ่ายแบบไหน ความละเอียดเท่าไหร่ก็ไม่แสดงอาการกระตุกแม้แต่น้อย
โหมดและเมนูต่างๆ
ส่วนการใช้งานนั้นแม้จะไม่มีคู่มือการใช้งานจริงจังมาให้ แต่ไม่จำเป็นต้องอ่านแต่อย่างไร เพราะการใช้งานเปลี่ยนหน้าต่าง เปลี่ยนโหมดต่างๆ นั้นใช้เพียงแค่การเลื่อนนิ้วไปมาแต่นั้นเอง ซึ่งการเลื่อนนิ้วแต่ละทิศทางก็จะเปลี่ยนเป็นตามนี้
- เลื่อนนิ้วซ้าย - ขวา : เปลี่ยนโหมดการถ่ายระหว่างโหมด Timelapse, Video และ Photo
- เลื่อนนิ้วขึ้น : ดูหน้าต่าง Playback ภาพและวิดีโอที่ถ่ายมา
- เลื่อนนิ้วลง : เข้าหน้าต่าง Option การตั้งค่าต่างๆ ของกล้อง เช่น การตั้งค่าหน้าจอ การเชื่อมต่อกล้อง
และในแต่ละโหมดการถ่ายนั้นก็จะมีการตั้งค่าต่างๆ ที่คล้ายๆ กัน เช่นการตั้งมุมภาพกว้าง – แคบ การตั้งค่าซูมภาพ การเปลี่ยนโหมดการถ่ายบางอย่างเช่น การเลือกโหมดการถ่าย Normal กับ Burst Photo หรือความละเอียดวิดีโอต่างๆ และการเลือกโหมดการถ่าย TimeWarp, TimeLapse และ Night Lapse ซึ่งในส่วนนี้ เราเองก็สามารถตั้ง Preset โหมดต่างๆ ได้แบบ Custom สามารถเลือกได้ทั้งความละเอียดภาพ โหมดของภาพนิ่งและวิดีโอ เฟรมเรต และการตั้งค่าอื่นๆ ได้ตามที่เราต้องการ ทำให้การใช้งานในแบบที่เราต้องการได้อย่างสะดวกสะบาย และรวดเร็วขึ้น
File Transfer
ส่วนการถ่ายโอนไฟล์นั้นถือว่าเร็วถูกใจวัยรุ่นแน่ๆ โดยที่กล้อง GoPro Hero 10 Black มีให้เลือกวิธีโอนไฟล์ได้ถึง 3 แบบผ่านแอปพลิเคชั่น Quik ได้แก่การอัพโหลดขึ้นคลาวด์โดยตรง การโอนไฟล์แบบไร้สายเข้ามือถือของเรา และการโอนไฟล์ผ่านสายเคเบิล ซึ่งเราได้เลือกวิธีการโอนไฟล์ไร้สายมาเป็นตัวอย่าง ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วภาพนิ่งใช้เวลาแทบจะไม่เกิน 5 วินาทิต่อภาพเลย ส่วนวิดีโอนั้นขึ้นอยู่กับความละเอียดและโหมดการถ่าย แต่โดยเฉลี่ยแล้วประมาณ 1 - 2 นาทีสำหรับวิดีโอ 2.7K ความยาว 30 วินาทีเอง พูดได้เลยว่าถ่ายเสร็จแล้ว ก็พร้อมอัพขึ้นเฟสได้ทันที
Battery
ข้อเสียหลักของกล้อง GoPro Hero 10 Black ก็คือแบตเตอรี่ 1720 mAh ที่ยังคงใช้รุ่นเดียวกับกล้อง GoPro Hero 9 Black อยู่ แต่การใช้งานนั้นหนักกว่ากล้องรุ่นเก่า ทำให้ใช้งานเมื่อชาร์จเต็มได้เพียงประมาณ 1.5 ชั่วโมงเท่านั้น และอีกข้อหนึ่งคือเรื่องความร้อนของตัวกล้องที่ร้อนค่อนข้างง่าย ซึ่งบางครั้งก็ทำให้กล้องทำงานได้ช้าลง และอาจหงุดหงิดในการใช้งานได้
คุณภาพของภาพนิ่งและวิดีโอ
ภาพนิ่ง
มาถึงส่วนชี้ชะตากันแล้วกับเรื่องของคุณภาพไฟล์ภาพและวิดีโอของเรา และด้วยขุมพลังจากชิปเซ็ต GP2 ก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง เพราะภาพที่ได้ถือว่ามีความละเอียดที่ดีมากๆ สามารถเก็บดีเทลแสงเงาได้ครบถ้วน แม้ว่าส่วนของสีอาจจะไม่โดดเด่นเท่า แต่พอเทียบกับรายละเอียดที่ได้ก็ถือว่าสอบผ่านฉลุย ส่วนการถ่ายภาพกลางคืนนั้นมีโหมดเสริมที่ช่วยถ่ายได้ดีถึงสองโหมดด้วยกัน ได้แก่โหมด Night Photo ที่เป็นโหมดสำหรับการถ่าย Long Exposure ที่ทำให้แสงไฟที่เคลื่อนไหวนั้นวิ่งเป็นเส้น ที่เราจะนิยมใช้ในการถ่ายการจราจรต่างๆ ส่วนใครที่ไม่ต้องการถ่ายแบบที่บอกไปก่อนหน้านี้ก็สามารถใช้โหมด SuperPhoto ที่ช่วยประมวลผลภาพถ่ายให้คมชัด แก้อาการภาพเบลอและ Noise ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าจะใช้โหมด SuperPhoto ถ่ายกลางคืนก็ด้วยพยายามถือกล้องให้นิ่งไว้ด้วย เพื่อที่กล้องจะได้เก็บรายละเอียดภาพเอาไว้ได้มากที่สุด
ถ่ายด้วยโหมด Standard
ถ่ายด้วยโหมด SuperPhoto
วิดีโอ
และเช่นเดียวกับภาพนิ่ง การถ่ายวิดีโอเองก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน แน่นอนว่าความละเอียด 5.3K นั้นก็ถือว่าเจ๋งอยู่แล้ว แต่ที่เจ๋งยิ่งกว่าคือระบบกันสั่นประจำค่ายอย่าง HyperSmooth ที่อัพเกรดเป็นรุ่นใหม่ 4.0 ที่ความนิ่งที่ได้นั้นถือว่าว้าวมาก เพราะไม่ว่าจะวิ่งจะเดินขนาดไหนก็ยังคงความนิ่ง ลื่นไหลอยู่ แถมยังมี Horizon Lock ช่วยรักษาระนาบภาพให้ตรง ยิ่งทำให้ปัญหาภาพเอียงลดน้อยลงอีก และในโหมด TimeWrap 3.0, Timelapse และ โหมด NightLapse สำหรับการถ่าย Timelapse แบบ Long Exposure ก็มีฟีเจอร์ Half & Half ที่ทำให้ระหว่างถ่ายโหมดดังกล่าวจะสามารถเปลี่ยนความเร็ววิดีโอให้เป็น Slow Motion ได้ชั่วคราว ช่วยเพิ่มสีสันให้กับการถ่าย Timelapse ของเราไม่น้อยทีเดียว
กล้อง GoPro Hero 10 Black เหมาะกับใคร
จะพูดว่ากล้อง Action Camera ของ GoPro ตัวนี้พยายามจับปลาสองมือ สร้างลูกค้าใหม่และรักษาลูกค้าเก่าไว้ก็ว่าได้ และกล้องตัวนี้ก็ถือว่าทำได้ดีเลย เพราะด้วยคุณภาพของภาพถ่ายและวิดีโอที่ถือว่ายอดเยี่ยม มีความละเอียดภาพในระดับสูง และเก็บรายละเอียดแสงเงาได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการถ่ายภาพกลางคืนที่ได้โหมด SuperPhoto มาช่วย ทำให้คุณภาพนั้นไม่ได้ด้อยลงแม้แต่น้อย และยังมีสารพัดโหมดช่วยต่างๆ มากมายมารองรับการถ่ายของเรา และจากฟีเจอร์การถ่ายแม้จะดูเหมือนยุ่งยาก แต่การใช้งานนั้นง่ายมากๆ การตั้งค่าเปลี่ยนหน้าต่างไปมาทำได้ลื่นไหลพอสมควร และการวางตัวรักษ์โลก ที่แถมกระเป๋ากล้องให้เป็นบรรจุภัณฑ์ประจำรุ่น แถมยังรองรับ Accessories ของกล้องรุ่นก่อนหน้าอย่าง GoPro Hero 9 Black ก็ยิ่งคุ้มค่า ทั้งสำหรับผู้ใช้เก่าที่อยากอัพสเปคกล้องใหม่ และผู้ใช้ใหม่ที่อยากลองกล้อง Action Cam ระดับท๊อป
บอกเลยว่ากล้อง GoPro Hero 10 Black ตอบโจทย์ทั้งสองกลุ่มได้อย่างแน่นอน และสำหรับใครที่อยากตอบโจทย์แล้ว ก็สามารถเข้ามาซื้อกล้อง GoPro Hero 10 Black กับทาง Mercular.com ได้ ตามลิงค์นี้เลย ซื้อกล้อง GoPro Hero 10 Black คลิกที่นี่เลย