เครื่องเล่นเพลง Shanling M7 DAP

ปลายปี 2021 ที่ผ่านมา Shanling เปิดตัว M9 เครื่องเล่นเพลงพกพารุ่นใหญ่ตัวท็อปสุดของแบรนด์ที่มาพร้อมสเปคและฟีเจอร์ที่ดีที่สุด วันนี้ทุกสิ่งที่อยู่ใน M9 ถูกย่อส่วนลงมาเป็น Shanling M7 เครื่องเล่นเพลงพกพารุ่นใหม่ล่าสุดของทางค่าย กับประสิทธิภาพที่ไม่ด้อยไปกว่ากัน คงดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์และการใช้งานที่เรียบง่ายและมีประสิทธิภาพเอาไว้เช่นเดิม

"เครื่องเล่นเพลงรุ่นใหม่ สเปคดี สมราคา"

Shanling M7 เป็น DAP รุ่นรองท็อปของค่าย วางตำแหน่งคั่นกลางระหว่างพี่ใหญ่ M9 กับ M6 PRO ขับเคลื่อนด้วยซีพียูรุ่นใหม่พร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 10 ที่ช่วยให้การใช้งานลื่นไหลและมีประสิทธิภาพยิ่งกว่าเครื่องเล่นรุ่นก่อนๆ

วัสดุตัวเครื่องของ Shanling M7 เป็นอะลูมิเนียมขึ้นรูปชิ้นเดียว ให้ความทนทาน แข็งแรง สวยงาม ดูหรูหราพรีเมียม ขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 129 x 78 x 20 มม. ถือว่าเล็กกะทัดรัด พกพาติดตัวได้อย่างสะดวก และมีน้ำหนักเบาเพียง 312 กรัมเท่านั้น ส่วนหน้าจอที่ใช้สัมผัส LCD มีความละเอียด Full-HD 1920x1080 ขนาด 5 นิ้ว สีสันสวยงาม

Shanling M7 ใช้ซีพียู Qualcomm Snapdragon 665 รุ่นเดียวกับพี่ใหญ่ M9 มีแรมน้อยกว่าที่ 6GB แต่ยังให้การประมวลผลที่ทรงพลัง ขณะที่หน่วยความจำภายในใส่มา 128GB และมีช่องเสียบ Micro SD Card มาให้อีก 1 ช่อง

ด้านวงจรเสียงขับเคลื่อนด้วยชิป ES9038PRO ซึ่งเป็นชิป DAC ตัวท็อปที่ทรงพลังที่สุดของค่าย ESS รองรับการเล่นไฟล์ Hi-Res ได้ถึง PCM 32-bit/768kHz, DSD512 และ MQA 16X ส่วนภาค Amplifier ใช้ชิป ADA4896-2 + MUSES8920 + OPA2211 + BUF634 ให้ประสิทธิภาพของสัญญาณที่ดีเยี่ยม

ด้านการเชื่อมต่อไร้สาย Shanling M7 มาพร้อม Bluetooth 5.0 ที่รองรับ codec ไร้สายคุณภาพสูงครบทั้ง LDAC, LHDC, aptX HD, aptX, SBC ในส่วนของ Wi-Fi ก็รองรับทั้ง 2.4GHz และ 5GHz รวมถึงรองรับ DLNA และ Airplay ด้วย

ในส่วนของ output หูฟังมีให้เลือกใช้ 2 แบบ ได้แก่ 3.5mm single ended และ 4.4mm balanced โดยแต่ละแบบจะมี Output Power ให้ 3 ระดับคือ Low Gain / Medium Gain / High gain ซึ่งให้กำลังขับสูงสุดถึง 920mW @ 32Ω ตอบสนองความถี่ 20 – 40,000 Hz และมี THD+N 0.0007% สามารถใช้งานกับหูฟังได้ทุกประเภท

แบตเตอรี่ของ Shanling M7 มีความจุ 7,000mAh ทั้งยังรองรับการชาร์จเร็ว 18W ด้วย ตามสเปคสามารถใช้งานได้นานสูงสุด 10 ชั่วโมง ผ่านการเสียบสาย 3.5mm single ended และ 8.5 ชั่วโมง ผ่านการเสียบสาย 4.4mm balanced

สิ่งที่ M7 รุ่นน้องเป็นรองรุ่นพี่ M9 หลักๆ แล้วก็คือภาค DAC และ Amplifier ที่พี่ใหญ่จัดหนักจัดเต็มกว่า ให้รายละเอียดเสียงที่เหนือชั้นกว่า รวมถึง Output หูฟังที่สามารถเปลี่ยนได้หลายขนาดทั้ง 2.5, 3.5, 3.5Pro และ 4.4 ตลอดจนแบตเตอรี่ที่มีความจุมากกว่า ฟังเพลงได้นานกว่านั่นเอง แต่ด้วยราคาที่ต่างกันไม่น้อย เล่น M7 ก็ไม่เสียหายแต่อย่างใด แต่ถ้าต้องการความสุดทุกด้าน จัดพี่ใหญ่ M9 ตัวเดียวจบ